massage near me

Muse forestias massage and spa nimman9 chiangmai

 

massage near me – Muse Forestias Massage & Spa Nimman 9 สวรรค์แห่งการผ่อนคลายใกล้ตัวคุณใจกลางนิมมานฯในยามที่ชีวิตเร่งรีบและความเครียดรุมเร้า การได้หลีกหนีจากความวุ่นวายไปสู่โอเอซิสแห่งความสงบ คือสิ่งที่หลายคนโหยหา และหากคุณกำลังค้นหา massage near me หรือ “spa Chiangmai” ที่มอบประสบการณ์การบำบัดทั้งกายและใจได้อย่างแท้จริง Muse Forestias Massage & Spa ที่นิมมานเหมินทร์ ซอย 9 เชียงใหม่ คือคำตอบที่คุณกำลังมองหา

สัมผัสประสบการณ์ “Thai Massage Chiang Mai” ที่เหนือระดับ

หัวใจสำคัญของ Muse Forestias คือการนำเสนอศาสตร์แห่งการนวดแผนไทยโบราณที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ผสานกับเทคนิคการนวดสมัยใหม่ เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการบำบัด

  • นักบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยนักบำบัดที่มีประสบการณ์สูง และเข้าใจในสรีระของร่างกายอย่างลึกซึ้ง พวกเขามุ่งมั่นที่จะมอบสัมผัสแห่งการผ่อนคลายที่ตรงจุด ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียด และฟื้นฟูพลังงานในร่างกาย
  • โปรแกรมนวดหลากหลาย เรามีโปรแกรมนวดที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ Thai Massage แบบดั้งเดิมที่เน้นการกดจุดและยืดเส้น ไปจนถึงการนวดน้ำมันอโรมา (Aromatherapy Massage) ที่ช่วยบำบัดด้วยกลิ่นหอมบำบัด, นวดศีรษะและบ่า (Head & Shoulder Massage) สำหรับผู้ที่ต้องทำงานหน้าจอเป็นเวลานาน, หรือการนวดเท้า (Foot Massage) เพื่อบรรเทาความเมื่อยล้าจากการเดินทาง
  • บรรยากาศที่ผ่อนคลาย เมื่อคุณก้าวเข้ามาใน Muse Forestias คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เงียบสงบ อบอุ่น และเป็นส่วนตัว การตกแต่งที่ผสมผสานความเรียบง่ายของธรรมชาติเข้ากับความหรูหราทันสมัย พร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ และเสียงเพลงบรรเลงเบาๆ จะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากความเครียดภายนอกได้อย่างง่ายดาย

มากกว่าแค่การนวด ประสบการณ์ “Spa Chiang Mai” ที่สมบูรณ์แบบ

Muse Forestias Massage & Spa ไม่ได้หยุดอยู่แค่บริการนวด แต่เรายังมอบประสบการณ์สปาแบบองค์รวมที่จะปรนนิบัติคุณตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

  • ทรีตเมนต์บำรุงผิวพรรณ เรามีทรีตเมนต์บำรุงผิวหน้าและผิวกายที่หลากหลาย ใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพผิวให้เปล่งปลั่ง สดใส และอ่อนเยาว์
  • บำบัดแบบองค์รวม นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการบำบัดแบบองค์รวม ที่ช่วยปรับสมดุลทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ ผ่านการผสมผสานศาสตร์ต่างๆ เข้าด้วยกัน

ค้นหาสวรรค์แห่งการผ่อนคลายของคุณได้ที่ Muse Forestias

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาประสบการณ์ Thai Massage Chiang Mai ที่แท้จริง หรือคนท้องถิ่นที่ต้องการพักผ่อนจากความเหนื่อยล้าในแต่ละวัน หากคุณกำลังค้นหา “massage near me” ที่ให้มากกว่าแค่การนวด แต่เป็นประสบการณ์แห่งการบำบัดอย่างล้ำลึก Muse Forestias Massage & Spa Nimman 9 Chiang Mai ยินดีต้อนรับและพร้อมปรนนิบัติคุณให้กลับมามีพลัง สดชื่น และพร้อมเผชิญหน้ากับทุกวันอย่างเต็มที่

มาสัมผัสความสุขที่แท้จริงของการผ่อนคลายได้ที่ Muse Forestias แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่มองหา spa Chiangmai ที่สมบูรณ์แบบที่สุด

Muse Forestias Massage & Spa Nimman 9 Your Sanctuary of Relaxation in the Heart of Nimman, Chiang Mai

In a fast-paced world filled with stress, finding an oasis of calm and tranquility is a longing shared by many. If you’re searching for “massage near me” or “spa Chiangmai” that truly offers a holistic healing experience for both body and mind, Muse Forestias Massage & Spa on Nimmanahaeminda Soi 9 in Chiang Mai is the answer you’ve been looking for.

 

Experience “Thai Massage Chiang Mai” at an Elevated Level

The essence of Muse Forestias lies in its dedication to the ancient art of traditional Thai massage, meticulously passed down through generations, and seamlessly blended with modern techniques to ensure you receive the maximum benefits from your treatment.

  • Expert Therapists Our team comprises highly trained and experienced therapists who possess a deep understanding of human anatomy. They are committed to delivering precise, tension-relieving touches that help to alleviate muscle tightness, reduce stress, and restore your body’s energy flow.
  • Diverse Massage Programs We offer a wide array of massage programs to cater to your specific needs. From authentic Thai Massage focusing on pressure points and stretching, to aromatic oil massages (Aromatherapy Massage) for a therapeutic sensory experience, head and shoulder massages for those working long hours at a desk, or foot massages to relieve fatigue from extensive travel.
  • Relaxing Ambiance The moment you step into Muse Forestias, you’ll be enveloped by a serene, warm, and private atmosphere. Our decor, a harmonious blend of natural simplicity and modern elegance, along with subtle calming aromas and soft ambient music, will effortlessly transport you away from external stresses.

 

More Than Just a Massage: A Complete “Spa Chiang Mai” Experience

Muse Forestias Massage & Spa extends beyond traditional massage services, offering a comprehensive spa experience that pampers you from head to toe.

  • Rejuvenating Skin Treatments We provide a variety of facial and body treatments, utilizing high-quality natural products designed to restore your skin’s radiance, freshness, and youthful glow.
  • Holistic Wellness Furthermore, we emphasize holistic wellness, aiming to balance your body, mind, and spirit through a blend of diverse therapeutic approaches.

 

Find Your Sanctuary of Relaxation at Muse Forestias

Whether you are a tourist seeking an authentic Thai Massage Chiang Mai experience or a local yearning for a break from daily fatigue, if you’re searching for a “massage near me” that offers more than just a rubdown – a profound healing journey – Muse Forestias Massage & Spa Nimman 9 Chiang Mai welcomes you, ready to revitalize your spirit, refresh your body, and prepare you to face each day with renewed vigor.

Come and discover the true joy of relaxation at Muse Forestias, and you’ll understand why we are a beloved destination for those seeking the perfect spa Chiangmai experience.

 

ร้านอาหารทะเล

ชี้เป้าร้านเด็ด “กุ้งเผาอยุธยา” อร่อยมันส์กุ้งทะลัก

 

ร้านอาหารทะเล เมื่อพูดถึง “กุ้งแม่น้ำเผา” มันเยิ้มๆ หอมกลิ่นเตาถ่าน พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด ภาพของจังหวัดพระนครศรีอยุธยามักจะลอยขึ้นมาในความคิดของนักชิมเป็นอันดับแรก แต่จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถลิ้มรสความอร่อยระดับตำนานนี้ได้โดยไม่ต้องขับรถไปไกล วันนี้เราจะพาทุกท่านไปปักหมุดร้านเด็ดที่ซ่อนตัวอยู่บนถนนคู้บอน กรุงเทพฯ ขอยกเอาความอร่อยฉบับกรุงเก่าแท้ๆ มาเสิร์ฟให้ชาวกรุงได้ฟินกันถึงที่

ณ ถนนคู้บอน แหล่งรวมของอร่อยที่นับวันจะยิ่งคึกคัก มีร้านอาหารมากมายตั้งเรียงราย แต่มีอยู่หนึ่งร้านที่โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมของกุ้งที่ย่างบนเตาถ่านร้อนๆ โชยออกมาทักทายผู้ที่สัญจรผ่านไปมา ร้าน “กุ้งเผาอยุธยา ถนนคู้บอน” คือจุดหมายปลายทางของเราในวันนี้

หัวใจของร้าน กุ้งแม่น้ำสดใหม่ ไซส์ยักษ์ 

ทันทีที่เดินเข้ามาในร้าน สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาคือบ่อกุ้งขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยกุ้งแม่น้ำเป็นๆ กำลังว่ายวนอย่างแข็งแรง นี่คือเครื่องการันตีถึงความสดใหม่ที่ทางร้านให้ความสำคัญเป็นที่สุด ลูกค้าสามารถเลือกขนาดกุ้งได้ตามความต้องการ ตั้งแต่ไซส์รองลงมาสำหรับทานคนเดียว ไปจนถึงไซส์ยักษ์ใหญ่ขนาด 2-3 ตัวต่อกิโลกรัม ที่เหมาะสำหรับมาเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน

กรรมวิธีการเผาคือกุญแจสำคัญที่ทำให้กุ้งของที่นี่แตกต่าง พ่อครัวจะนำกุ้งที่เลือกไว้ไปย่างบนเตาถ่านที่ไฟกำลังร้อนได้ที่อย่างเชี่ยวชาญ ค่อยๆ พลิกกลับด้านอย่างใจเย็นเพื่อให้เนื้อกุ้งสุกอย่างทั่วถึงและนุ่มเด้ง ไม่แข็งกระด้าง 

น้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เติมความแซ่บไม่มียั้ง

ความอร่อยของกุ้งเผาจะสมบูรณ์ไปไม่ได้หากขาดน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด และที่นี่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง น้ำจิ้มซีฟู้ดของทางร้านเป็นสูตรที่ปรุงขึ้นสดใหม่ทุกวัน ใช้พริกขี้หนูสวน กระเทียมไทย รากผักชี และมะนาวคั้นสด ปั่นรวมกันจนได้น้ำจิ้มสีเขียวสดใสที่ให้รสชาติเปรี้ยวนำ เผ็ดตาม และเค็มหวานอย่างกลมกล่อม ช่วยตัดเลี่ยนและชูรสชาติความหวานของเนื้อกุ้งได้อย่างดีเยี่ยม

เมนูอาหารทะเลอื่นๆ ที่ไม่ควรพลาด นอกจากกุ้งเผาที่เป็นพระเอกของร้านแล้ว ยังมีเมนูอาหารทะเลและอาหารไทยอื่นๆ ที่อร่อยไม่แพ้กัน เช่น

กุ้งผัดกระเทียมพริกไทย

เริ่มต้นกันที่เมนูเบสิกที่วัดฝีมือแม่ครัวได้อย่างดี กุ้งตัวโตเนื้อแน่น คัดไซส์พิเศษ นำมาคลุกเคล้ากับกระเทียมเจียวหอมกรุ่นและพริกไทยดำเม็ดที่โขลกใหม่ๆ ผัดบนไฟแรงจนกุ้งสุกกำลังดี เนื้อยังคงความเด้งหวาน เคลือบด้วยซอสกระเทียมพริกไทยรสเข้มข้น หอมฟุ้งจนอดใจไม่ไหว เป็นเมนูเปิดต่อมรับรสที่ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ปลาทรายทอดขมิ้น

เมนูพื้นบ้านที่แฝงไปด้วยเสน่ห์ของเครื่องเทศใต้ ปลาทรายสดๆ จากทะเล นำมาคลุกเคล้ากับขมิ้นและเครื่องเทศสูตรเฉพาะของทางร้าน ก่อนจะนำไปทอดในน้ำมันร้อนจัด จนได้หนังที่เหลืองกรอบน่ารับประทาน แต่เนื้อในยังคงความนุ่มและหวานฉ่ำ กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ของขมิ้นช่วยชูรสชาติของเนื้อปลาให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะเป็นกับแกล้มก็อร่อยเพลินจนหยุดไม่ได้

ชุดเมี่ยงหอยแครง

ยกระดับเมนูหอยแครงลวกธรรมดาให้กลายเป็นเมนูเพื่อสุขภาพและความสนุกสนานบนโต๊ะอาหาร หอยแครงสดๆ ลวกแบบ “มีเดียมแรร์” เนื้อฉ่ำหวานกำลังดี เสิร์ฟมาเป็นชุดใหญ่พร้อมผักสดนานาชนิด ทั้งใบชะพลู ผักกาดหอม สะระแหน่ และเส้นหมี่ลวกเหนียวนุ่ม ราดด้วยน้ำจิ้มถั่วตัดรสเด็ดที่ผสานความหวาน มัน เปรี้ยว เผ็ดไว้อย่างลงตัว ทุกคำคือความสดชื่นที่ครบรส

กุ้งผัดผงกะหรี่

อีกหนึ่งเมนูยอดนิยมตลอดกาลที่ทางร้านทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ กุ้งสดเนื้อแน่นผัดกับเครื่องแกงกะหรี่หอมละมุน เคล้ากับไข่ไก่ที่ตีจนขึ้นฟูเนื้อเนียนนุ่ม ปรุงรสจนกลมกล่อมแทรกซึมเข้าไปในทุกอณูของเนื้อกุ้งและน้ำซอสขลุกขลิกที่หอมกรุ่นกลิ่นนมสดและน้ำมันพริกเผา เป็นจานที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับราดบนข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าจานเดียวไม่เคยพอ

ผัดวุ้นเส้นสามเหม็น

เมนูชื่อแปลกแต่รสชาติอร่อยล้ำเกินบรรยาย การรวมตัวของสามสหายแห่งความนัวอย่างสะตอ, ชะอม และกระเทียมโทนดอง นำมาผัดกับวุ้นเส้นเหนียวนุ่มและกุ้งสดเนื้อเด้ง ปรุงรสจัดจ้าน กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของวัตถุดิบแต่ละชนิดผสมผสานกันอย่างลงตัว กลายเป็นความอร่อยที่ท้าทายให้ทุกคนต้องลอง เป็นจานเด็ดที่พิสูจน์ว่าของ “เหม็น” ก็สามารถสร้างสรรค์เป็นเมนู “หอมอร่อย” ได้อย่างน่าทึ่ง

หมึกไข่นึ่งมะนาว (ไข่แน่นเต็มพุง!)

ไฮไลท์เด็ดที่สายซีฟู้ดต้องกรีดร้อง! หมึกกล้วยคัดพิเศษที่ “ไข่แน่นเต็มพุง” ทุกตัว นำไปนึ่งกับมะนาวสดแท้ พริกขี้หนูสวน และกระเทียมไทยจนสุกได้ที่ เนื้อหมึกนุ่มเด้งไม่เหนียว ไข่หมึกมันๆ หนึบหนับเต็มคำ ซดน้ำซุปรสเปรี้ยวนำ เผ็ดตาม เค็มพอดี หอมกลิ่นมะนาวสดชื่น เป็นเมนูที่เรียกเหงื่อและสร้างความแซ่บซี้ดจนวางช้อนไม่ลง

ต้มข่าทะเล (หอมมัน ซ่อนความแซ่บ)

ใครว่าต้มข่าต้องมีแต่ไก่ ลองมาชิมต้มข่าทะเลของที่นี่แล้วจะติดใจ น้ำซุปกะทิคั้นสดที่หอมมันกลมกล่อม ซ่อนรสชาติเผ็ดร้อนจากพริกขี้หนูแห้งและเปรี้ยวเล็กน้อยจากน้ำมะขามเปียกไว้ภายใน ใส่เครื่องทะเลสดๆ จัดเต็มทั้งกุ้ง หมึก และเนื้อปลาชิ้นโต หอมกลิ่นข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดที่ช่วยชูให้รสชาติของทะเลสดใหม่โดดเด่นขึ้นไปอีกระดับ

กระพงทอดราดน้ำปลา

ปิดท้ายอย่างยิ่งใหญ่ด้วยเมนูสุดคลาสสิกที่ทุกคนหลงรัก ปลากระพงตัวใหญ่ สดจากกระชัง แล่และบั้งอย่างสวยงาม นำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ จนได้หนังที่กรอบฟูเป็นสีเหลืองทอง แต่เนื้อด้านในยังขาวนุ่มและชุ่มฉ่ำ ราดด้วยน้ำปลาปรุงรสสูตรพิเศษของทางร้านที่เคี่ยวจนหอมหวานเค็มกำลังดี เสิร์ฟพร้อมน้ำยำมะม่วงรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่มอบความสุขในทุกคำที่ได้ลิ้มลอง

ร้านอาหารทะเล สำหรับใครที่กำลังโหยหากุ้งแม่น้ำเผาอยุธยารสชาติต้นตำรับ แต่ไม่อยากเสียเวลาเดินทางไกล “ร้านกุ้งเผาอยุธยา ถนนคู้บอน” คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบที่สุด ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์ความอร่อยสดใหม่ เหมือนได้ไปนั่งทานอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา…เพียงแค่คุณก้าวเข้ามาที่ถนนคู้บอนเท่านั้นเอง

 

มัทฉะ ใกล้ฉัน

Matcho Project คัดสรรผงมัทฉะคุณภาพสูง เกรดพรีเมียม

 

มัทฉะ ใกล้ฉัน | ในโลกของเครื่องดื่มที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามกระแส มีผงชาสีเขียวมรกตชนิดหนึ่งที่ยังคงยืนหยัดและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างไม่เสื่อมคลาย นั่นคือ “มัทฉะ” (Matcha) จากเครื่องดื่มในพิธีชงชาอันศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น สู่เมนูยอดฮิตในคาเฟ่ทั่วทุกมุมโลก 

 

Matcho Project พิกัดร้านมัทฉะสุดเข้มข้นใกล้ฉันในย่านปากเกร็ด ที่คนรักชาเขียวต้องยอมใจ ในยุคที่วัฒนธรรมคาเฟ่เบ่งบาน การค้นหาเครื่องดื่มดีๆ สักแก้วกลายเป็นความสุขเล็กๆ ในแต่ละวัน และสำหรับเหล่า Matcha Lover แล้ว การพิมพ์คำว่า “มัทฉะ ใกล้ฉัน” ลงในช่องค้นหา คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยตามล่าหารสชาติชาเขียวที่ใช่ และสำหรับชาวนนทบุรี โดยเฉพาะในย่าน ปากเกร็ด ชื่อของ “Matcho Project” ก็ได้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญที่คนรักมัทฉะตัวจริงต้องมาเยือน

 

 

ที่นี่ไม่ใช่แค่ ร้านคาเฟ่ ทั่วไป แต่คือ “โปรเจกต์” ที่เกิดจากความหลงใหลในศาสตร์แห่งมัทฉะอย่างแท้จริง พร้อมที่จะมอบประสบการณ์ชาเขียวที่เข้มข้น ลุ่มลึก และแตกต่างกว่าที่เคย

 

มากกว่าแค่คาเฟ่ แต่คือ ‘โปรเจกต์’ ของคนรักมัทฉะ

ทันทีที่ก้าวเข้าร้าน Matcho Project คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความใส่ใจในสไตล์มินิมัลลิสต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากญี่ปุ่น โทนสีที่สบายตาและการตกแต่งที่เน้นความโปร่งโล่ง ทำให้ที่นี่เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การนั่งละเลียดเครื่องดื่มแก้วโปรดและพักใจจากความวุ่นวายภายนอก ทุกมุมของร้านถูกจัดวางอย่างตั้งใจ เพื่อให้ “มัทฉะ” เป็นพระเอกของที่นี่อย่างแท้จริง

 

เจาะลึกหัวใจของร้าน เมนูมัทฉะที่ต้องลอง

ความพิเศษของ Matcho Project อยู่ที่การคัดสรรผงมัทฉะคุณภาพสูง เกรดพรีเมียม ส่งตรงจากแหล่งเพาะปลูกชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น ทำให้เครื่องดื่มทุกแก้วมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์และรสชาติอูมามิที่ชัดเจน

  • สำหรับสายคลาสสิก ต้องลองเมนู Usucha หรือมัทฉะชงแบบใส ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสรสชาติที่แท้จริงของมัทฉะคุณภาพเยี่ยม หรือจะเป็น Matcha Latte ที่ชงสดแก้วต่อแก้ว ผสมผสานความเข้มข้นของมัทฉะเข้ากับความนุ่มละมุนของนมได้อย่างลงตัว สามารถเลือกระดับความหวานและประเภทของนมได้ตามใจชอบ
  • สำหรับสายสร้างสรรค์ ทางร้านมีเมนู Signature ที่น่าสนใจมากมาย เช่น Matcha Coco เมนูเครื่องดื่มที่ผสมผสานความเข้มข้นหอมมันของมัทฉะ เข้ากับความหวานหอมของน้ำมะพร้าว เป็นการจับคู่ที่ลงตัวและให้ความสดชื่นอย่างไม่น่าเชื่อ
  • สำหรับสายของหวาน นอกจากเครื่องดื่มแล้ว ที่นี่ยังมีเบเกอรี่โฮมเมดที่นำมัทฉะมาเป็นส่วนผสมหลัก ไม่ว่าจะเป็นชีสเค้กมัทฉะเนื้อเนียนนุ่ม หรือ Egg tart มัทฉะ จะช่วยเติมเต็มความสุขของคุณให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

 

ประสบการณ์ที่มากกว่าการดื่มชา

ที่ Matcho Project คุณจะได้ยินเสียงของ “ฉะเซ็น” (แปรงชงชาไม้ไผ่) ที่กำลังตีผงมัทฉะให้เข้ากับน้ำร้อนอย่างพิถีพิถัน พร้อมกลิ่นหอมกรุ่นของชาที่ลอยอบอวลไปทั่วร้าน บาริสต้าของที่นี่มีความรู้และความเข้าใจในเรื่องมัทฉะเป็นอย่างดี พร้อมที่จะให้คำแนะนำและรังสรรค์เครื่องดื่มที่ถูกใจคุณที่สุด

 

มัทฉะ ใกล้ฉัน ครั้งต่อไปที่อยากดื่มมัทฉะดีๆ และคุณกำลังมองหา ร้านคาเฟ่ หรือ Matcha near me ในย่าน ปากเกร็ด ไม่ต้องไปไหนไกล ปักหมุดที่ Matcho Project ได้เลย รับรองว่าคุณจะได้พบกับประสบการณ์มัทฉะที่เข้มข้นและน่าประทับใจจนต้องกลับมาซ้ำอย่างแน่นอน

 

บาร์ ทองหล่อ

BLU Thonglor

 

บาร์ ทองหล่อ | เมื่อเข็มนาฬิกาบอกเวลาเลิกงานและแสงไฟนีออนเริ่มสาดส่องไปทั่วกรุงเทพฯ ชื่อของย่าน “ทองหล่อ” จะปรากฏขึ้นเป็นอันดับแรกๆ ในฐานะศูนย์กลางแห่งไลฟ์สไตล์และสถานบันเทิงยามค่ำคืนที่ไม่มีวันหลับใหล ที่นี่ไม่ใช่เป็นเพียงแหล่งรวม “ร้านเหล้า” แต่คืออาณาจักรที่เต็มไปด้วย “บาร์” มีระดับ, “ร้านดนตรี” คุณภาพ และประสบการณ์การสังสรรค์ที่แตกต่างอย่างมีสไตล์

BLU Thonglor ดื่มด่ำค่ำคืนใจกลางทองหล่อ บาร์ดนตรีสดที่ต้องปักหมุด เมื่อพูดถึงย่านที่ไม่เคยหลับใหลอย่าง “ทองหล่อ” ภาพของแสงสี ความมีสไตล์ และแหล่งแฮงเอาต์สุดชิคคงปรากฏขึ้นในใจของใครหลายคน ท่ามกลางการแข่งขันของร้านอาหารและบาร์มากมาย มีสถานที่หนึ่งที่สร้างเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างโดดเด่นและกลายเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ของคนรักเสียงดนตรีและบรรยากาศดีๆ นั่นคือ BLU Thonglor

BLU Thonglor ไม่ใช่แค่ “ร้านเหล้า” ทั่วไป แต่คือ “ร้านดนตรี” และ “บาร์” ที่ผสมผสานสามองค์ประกอบสำคัญของค่ำคืนที่สมบูรณ์แบบไว้ด้วยกัน นั่นคือ บรรยากาศ, ดนตรี และอาหาร เครื่องดื่ม ชั้นเลิศ

บรรยากาศที่ใช่ สไตล์ BLU

เพียงก้าวแรกที่เดินเข้าไปในร้าน คุณจะถูกโอบล้อมด้วยแสงสีน้ำเงินนีออนอันเป็นเอกลักษณ์ ที่สร้างบรรยากาศให้ดูลึกลับน่าค้นหา แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและมีสไตล์ การตกแต่งภายในร้านเน้นความโมเดิร์นแต่แฝงไว้ด้วยความเท่ มีมุมที่นั่งให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโซนหน้าเวทีสำหรับเสพดนตรีสดอย่างเต็มอิ่ม โซนบาร์สำหรับนั่งจิบค็อกเทลพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์ หรือมุมโซฟาส่วนตัวสำหรับกลุ่มเพื่อนที่ต้องการพื้นที่แฮงเอาต์แบบสบายๆ

ดนตรีสด…หัวใจของค่ำคืน

สิ่งที่ทำให้ BLU Thonglor แตกต่างและเป็นที่จดจำคือ “ดนตรีสด” ที่นี่คัดสรรวงดนตรีฝีมือดีที่พร้อมจะมอบความสุขให้กับผู้มาเยือนในทุกค่ำคืน แนวเพลงส่วนใหญ่เป็นเพลงฮิตติดหูทั้งไทยและสากลในสไตล์ Pop, Soul, และ R&B ที่เรียบเรียงในรูปแบบใหม่ ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการฟังเพลง พูดคุยกับเพื่อนได้โดยไม่รู้สึกเสียงดังจนเกินไป แต่ก็ยังคงความสนุกสนาน ชวนให้โยกตามเบาๆ หรือร้องคลอตามได้ตลอดทั้งคืน

เครื่องดื่มและเมนูที่เติมเต็มอรรถรส

เรื่องเครื่องดื่ม ที่ BLU Thonglor ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน บาร์ของที่นี่มี Signature Cocktails ที่รังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งแต่ละแก้วมีเรื่องราวและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีลิสต์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครบครัน ทั้งวิสกี้, ไวน์, และเบียร์หลากหลายชนิด พร้อมด้วยเมนูอาหารทานเล่นสไตล์ฟิวชั่นที่ออกแบบมาให้เข้ากับเครื่องดื่มได้อย่างลงตัว

BLU Thonglor เหมาะกับใคร?

  • ชาวออฟฟิศ ที่มองหาสถานที่แฮงเอาต์หลังเลิกงานในบรรยากาศที่มีระดับ
  • กลุ่มเพื่อน ที่ต้องการนัดรวมตัวในร้านที่มีดนตรีสดเพราะๆ และไม่วุ่นวายจนเกินไป
  • คู่รัก ที่อยากหาร้านสำหรับเดทในค่ำคืนพิเศษ พร้อมจิบค็อกเทลฟังเพลงสบายๆ

 

บาร์ ทองหล่อ สำหรับค่ำคืนที่คุณต้องการอะไรที่มากกว่าแค่ร้านเหล้าทั่วไป แต่กำลังมองหาประสบการณ์ที่ครบเครื่องทั้งแสง สี เสียง และรสชาติ ลองให้ BLU Thonglor เป็นจุดหมายต่อไปของคุณ แล้วคุณจะค้นพบความสนุก ใจกลางทองหล่อที่มีเสน่ห์น่าหลงใหล

 

เปลี่ยนลุค เสริมความมั่นใจ ให้กับตัวเอง ZHER Thonglor ช่วยคุณได้

 

ร้านตัดผม ใกล้ฉัน | ในย่านที่เต็มไปด้วยสไตล์และความเป็นตัวตนอย่าง “ทองหล่อ” ทรงผมไม่ใช่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่คือคำประกาศของรสนิยมและตัวตนที่ชัดเจนที่สุด การเลือกร้านตัดผมจึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ และท่ามกลางซาลอนมากมาย ZHER Thonglor ได้สร้างชื่อเสียงขึ้นมาในฐานะพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์ ที่ซึ่งการดูแลเส้นผมถูกยกระดับให้กลายเป็นงานศิลปะเฉพาะบุคคล สำหรับทั้งสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษยุคใหม่

“ทรงผม” เปรียบเสมือนมงกุฎของใบหน้าและเป็นส่วนสำคัญที่บ่งบอกถึงตัวตนและไลฟ์สไตล์ การเลือกร้านตัดผมที่ใช่จึงไม่ใช่เป็นเพียงการเข้าไปใช้บริการ แต่คือการค้นหา “ช่างผมคู่ใจ” ที่จะช่วยรังสรรค์ลุคที่ใช่และสร้างความมั่นใจให้เราในทุกๆวัน

 

หัวใจสำคัญที่ทำให้ ZHER Thonglor โดดเด่นคือแนวคิดที่ว่า “ทุกคนมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง” ที่นี่ การทำงานไม่ได้เริ่มต้นที่การสระผม แต่เริ่มต้นที่ “การให้คำปรึกษา” อย่างลึกซึ้ง ทีมแฮร์ดีไซเนอร์มืออาชีพจะใช้เวลาพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจในตัวตนของคุณ ทั้งไลฟ์สไตล์, ลักษณะเส้นผม, โครงสร้างใบหน้า และความต้องการ เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมา “ออกแบบ” ทรงผมที่ไม่ใช่แค่สวยตามเทรนด์ แต่เป็นทรงที่เหมาะสมกับคุณที่สุดและสามารถดูแลจัดการได้ง่ายในชีวิตประจำวัน

ZHER Thonglor คือซาลอนที่เปิดกว้างและเข้าใจความต้องการด้านทรงผมที่แตกต่างกันของลูกค้าทุกเพศ

 

สำหรับคุณผู้หญิง ร้านตัดผมคือพื้นที่แห่งการเปลี่ยนแปลงที่ครบวงจร บริการที่ได้รับความนิยมได้แก่

  • การตัดและออกแบบทรงผม ตั้งแต่การเลเยอร์เพื่อเพิ่มวอลลุ่ม, การสไลด์ให้ผมดูพริ้วไหว, ไปจนถึงการตัดบ๊อบเท่ๆ ที่ดูแลรักษาง่าย
  • การทำสีผม โลกแห่งสีสันที่ไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการทำไฮไลท์, บาลายาจ (Balayage) ที่ให้สีผมดูมีมิติเป็นธรรมชาติ, หรือการทำสีแฟชั่นเพื่อลุคที่โดดเด่น
  • การดัดและยืด การดัดดิจิทัลเพื่อให้ได้ลอนสวยงามเป็นธรรมชาติ, การยืดวอลลุ่มที่ทำให้ผมตรงแต่ไม่ลีบแบน
  • การบำรุงเส้นผม (Treatment) บริการทรีทเม้นท์เข้มข้นเพื่อฟื้นฟูผมเสียจากการทำเคมีให้กลับมานุ่มสลวยและแข็งแรงและเงางามอีกครั้ง

 

ร้านตัดผมชายในปัจจุบันได้ยกระดับไปสู่การเป็น “บาร์เบอร์ช็อป” (Barbershop) สุดคลาสสิกและมีสไตล์ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ที่นี่คือคำตอบสำหรับผู้ชายที่มองหาความเนี้ยบและมีสไตล์มากกว่าร้านตัดผมชายทั่วไป ดีไซเนอร์เข้าใจถึงความสำคัญของรายละเอียดอย่างลึกซึ้ง

  • การตัดผมชายสไตล์โมเดิร์น ทรงผมที่หลากหลายและปรับให้เข้ากับยุคสมัย เช่น อันเดอร์คัต (Undercut), เฟด (Fade) ไล่ระดับความขาว ไปจนถึงทรงผมสไตล์เกาหลี
  • การโกนหนวดและดูแลเครา บริการโกนหนวดแบบดั้งเดิมด้วยผ้าอุ่น (Hot Towel Shave) และการออกแบบ ตกแต่งหนวดเคราให้เข้ากับรูปหน้า
  • บริการอื่นๆ การสระ-เซ็ตผม, การทำสีผมเพื่อปกปิดผมขาวหรือทำสีแฟชั่น, และการดัดผมเพื่อเพิ่มวอลลุ่มสำหรับสุภาพบุรุษ

ทันทีที่ก้าวเข้าสู่ ZHER Thonglor คุณจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เรียบหรู โปร่งสบาย ในสไตล์มินิมัลแต่แฝงไว้ด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด การตกแต่งที่เน้นความสะอาดตาและโทนสีที่ผ่อนคลาย ทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นส่วนตัวและสามารถปล่อยใจไปกับการดูแลเส้นผมได้อย่างเต็มที่ ที่นี่จึงเป็นเหมือนโอเอซิสใจกลางทองหล่อ ให้คุณได้หลีกหนีจากความวุ่นวายและดื่มด่ำกับช่วงเวลาของการดูแลตัวเอง


ทำไมต้อง ZHER Thonglor?

  • ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทีมแฮร์ดีไซเนอร์มากประสบการณ์ที่พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบทรงผมที่ใช่สำหรับคุณ
  • ความเป็นส่วนตัว บรรยากาศร้านที่เน้นความเป็นส่วนตัว ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายตลอดการใช้บริการ
  • ผลิตภัณฑ์คุณภาพพรีเมียม คัดสรรผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมชั้นนำจากต่างประเทศที่อ่อนโยนและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • ทำเลใจกลางทองหล่อ เดินทางสะดวกสบาย ตั้งอยู่ในย่านไลฟ์สไตล์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

ร้านตัดผม ใกล้ฉัน ไม่ว่าคุณจะเป็นสุภาพสตรีหรือสุภาพบุรุษ ร้านตัดผมคือพื้นที่ส่วนตัวสำหรับการแสดงออกถึงตัวตนและเติมความมั่นใจ การลงทุนกับทรงผมที่ดี คือการลงทุนในความสุขที่จะอยู่กับคุณในทุกๆ วัน อย่าลังเลที่จะใช้เวลาค้นหาร้านตัดผมและช่างผมคู่ใจ ที่จะช่วยดึงสไตล์ที่ดีที่สุดในตัวคุณออกมา

 

ร้านทำผม พระราม 3

BORA Beauty Salon Central Rama 3

ร้านทำผม พระราม 3 | สวยครบจบ BORA Beauty Salon Central Rama 3 ร้านทำผม-ทำเล็บ และร้านเสริมสวยสุดปังย่านพระราม 3 หนึ่งในทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ BORA Beauty ร้านเสริมสวย เป็นมากกว่าที่สำหรับตัดผมหรือทาเล็บ แต่เปรียบเสมือน “Personal Pit Stop” ที่เราสามารถแวะเติมพลัง, เปลี่ยนแปลงลุค, และฮีลใจให้กลับมาสดใสได้อีกครั้ง ถือเป็นการลงทุนในความสุขและความมั่นใจ ที่จะสะท้อนออกมาจากภายในสู่ภายนอก

 

BORA Beauty Salon Central Rama 3

  1. ความเชี่ยวชาญคือหัวใจ (Expertise is Key) ลูกค้าสามารถสำรวจผลงานของร้านผ่านโซเชียลมีเดีย ( Facebook) เพื่อดูสไตล์ของทางร้านได้ 
  2. ความสะอาดและผลิตภัณฑ์ (Hygiene and Products) ทางร้านให้ความสำคัญกับความสะอาด อุปกรณ์ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกสุขลักษณะ 
  3. บรรยากาศและสไตล์ (Ambiance and Style) บรรยากาศทางร้านผ่อนคลาย บริการเป็นการเอง
  4. รีวิวและคำบอกเล่า (Reviews and Word-of-Mouth) มีรีวิวจากลูกค้าจริง ร้านมีคุณภาพและบริการที่น่าประทับใจ

 

ทำผม (Hair Salon)

  • การออกแบบทรงผม (Hair Design) ไม่ใช่แค่การตัดให้สั้นลง แต่คือการออกแบบทรงผมที่เข้ากับรูปหน้า, ไลฟ์สไตล์, และบุคลิกภาพ โดยช่างผมมืออาชีพของทางร้าน
  • ทำสีผมออร์แกนิก (The Art of Color) ตอบโจทย์สายสุขภาพที่ต้องการหลีกเลี่ยงสารเคมีรุนแรง ศิลปะแห่งสีสัน ตั้งแต่การทำสีพื้นฐาน, การทำไฮไลท์, โลว์ไลท์, ไปจนถึงเทคนิคขั้นสูงอย่าง Balayage ที่ให้สีผมดูมีมิติเป็นธรรมชาติ รวมถึงเทรนด์สีผมออร์แกนิกที่ตอบโจทย์สายสุขภาพ
  • ดูแลและฟื้นฟู (Care and Restoration) บริการทรีทเม้นท์บำรุงผมอย่างล้ำลึก, การทำเคราตินทรีทเม้นท์เพื่อลดการชี้ฟู, หรือ Olaplex ที่ช่วยซ่อมแซมแกนผมที่ถูกทำลายจากสารเคมี  ทรีทเม้นท์บำรุงผมล้ำลึก ฟื้นฟูสภาพเส้นผมที่อ่อนแอให้กลับมาแข็งแรงและเงางาม
  • ดัดและยืด (Styling) การดัดดิจิทัลเพื่อให้ได้ลอนสวยเด้งเป็นธรรมชาติ, การยืดวอลลุ่มที่ทำให้ผมตรงแต่ไม่ลีบแบน ดัดวอลลุ่มสไตล์เกาหลี เพิ่มความหนานุ่มและมีชีวิตชีวาให้เส้นผม 

 

ทำเล็บ (Nail Salon)

  • ดูแลสุขภาพเล็บ (Nail Health) บริการตัดหนัง, ตะไบเล็บ, และขัดหน้าเล็บให้เงางาม ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของเล็บที่แข็งแรง
  • สีเจลติดทนนาน (Long-lasting Gel Polish)  สีเจลคุณภาพ เลือกใช้แบรนด์สีเจลที่ได้มาตรฐาน ติดทนนานและไม่ทำลายหน้าเล็บ มาตรฐานด้วยสีสันที่คมชัด, ความแวววาว, และความทนทานที่อยู่ได้นานหลายสัปดาห์
  • งานอาร์ตไร้ขีดจำกัด (Limitless Art) ตั้งแต่การต่อเล็บอะคริลิกหรือเจล, การเพ้นท์ลวดลายต่างๆ, การติดอะไหล่, ไปจนถึงงานปั้นนูน 3D ที่เปลี่ยนเล็บของคุณให้เป็นผลงานศิลปะ 

ร้านทำผม พระราม 3 ร้านเสริมสวยเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่ช่วยเติมเต็มความสุขและความมั่นใจ การเลือกเข้าร้านทำผมหรือร้านทำเล็บจึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่คือการสละเวลาเพื่อดูแลและให้ความสำคัญกับตัวเอง BORA Beauty Salon Central Rama 3 บริการด้านความงามที่ครบครันและมีคุณภาพ ไม่ว่าคุณจะต้องการเปลี่ยนสีผมใหม่, ทำเล็บเจลสวยๆ ครบจบได้ในย่านพระราม 3

 

บ้านหมอเหมียวคลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน

 

คลินิกฝังเข็ม | ฟื้นฟูร่างกายด้วยศาสตร์ตะวันออก รู้จัก ‘ฝังเข็ม-ครอบแก้ว’ ที่คลินิกแพทย์แผนจีนใกล้บ้านคุณ ในยุคที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบ ความเครียดสะสม และอาการปวดเมื่อยเรื้อรังอย่าง “ออฟฟิศซินโดรม” กลายเป็นเรื่องปกติ หลายคนเริ่มมองหาทางเลือกในการดูแลสุขภาพที่นอกเหนือไปจากการทานยา และหนึ่งในศาสตร์การรักษาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายก็คือ “การแพทย์แผนจีน” (Traditional Chinese Medicine – TCM) บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับศาสตร์การรักษาอันเก่าแก่ ทั้งการฝังเข็มและการครอบแก้ว เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกคลินิกที่ใช่สำหรับฟื้นฟูร่างกายและปรับสมดุลชีวิต

 

คลินิกแพทย์แผนจีน มากกว่าแค่การรักษา แต่คือการปรับสมดุล

หัวใจของการแพทย์แผนจีนคือการมองร่างกายเป็นองค์รวมที่เชื่อมโยงกัน โดยเชื่อว่าสุขภาพที่ดีเกิดจากความสมดุลของ “พลังงานชี่” (Qi) ที่ไหลเวียนไปทั่วร่างกาย การเจ็บป่วยเกิดจากการที่พลังงานชี่ติดขัดหรือเสียสมดุล คลินิกแพทย์แผนจีนจึงมุ่งเน้นการรักษาที่ต้นเหตุ เพื่อปรับสมดุลของร่างกายให้กลับสู่ภาวะปกติและแข็งแรงอีกครั้ง

เจาะลึก 2 ศาสตร์การรักษาที่ได้รับความนิยม

  1. การฝังเข็ม (Acupuncture) การฝังเข็มคือศาสตร์การรักษาที่ใช้เข็มขนาดเล็กและบางมาก ปักลงไปตาม “จุดฝังเข็ม” บนร่างกาย เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของพลังงานชี่และเลือด

  • หลักการทำงาน ในมุมมองการแพทย์แผนจีน การฝังเข็มช่วยทะลวงจุดที่พลังงานติดขัด ทำให้พลังงานไหลเวียนได้สะดวก ส่วนในมุมมองวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ การฝังเข็มจะช่วยกระตุ้นระบบประสาทและกล้ามเนื้อให้หลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ซึ่งเป็นสารระงับปวดตามธรรมชาติของร่างกาย
  • เหมาะกับอาการใดบ้าง?
    • กลุ่มอาการปวด ออฟฟิศซินโดรม, ปวดคอ บ่า ไหล่, ปวดหลัง, ปวดศีรษะ, ไมเกรน, ปวดประจำเดือน
    • กลุ่มอาการอื่นๆ นอนไม่หลับ, เครียด, วิตกกังวล, ภูมิแพ้, ปรับสมดุลฮอร์โมน
  1. การครอบแก้ว (Cupping Therapy) การครอบแก้วคือการใช้ถ้วยแก้วสร้างสภาวะสุญญากาศแล้ววางลงบนผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลมปราณบริเวณนั้นๆ

  • หลักการทำงาน แรงดูดจากถ้วยแก้วจะช่วยดึงเลือดและของเสียที่คั่งค้างใหลอยขึ้นมาที่ชั้นผิวหนัง ช่วยคลายอาการปวดเกร็งของกล้ามเนื้อชั้นลึก และกระตุ้นให้เลือดใหม่ไหลเวียนเข้ามาซ่อมแซมได้ดีขึ้น
  • รอยครอบแก้ว สีของรอยที่เกิดขึ้นหลังการครอบแก้วสามารถบ่งบอกถึงสภาวะของร่างกายได้ โดยรอยจะค่อยๆ จางหายไปเองภายใน 3-7 วัน
  • เหมาะกับอาการใดบ้าง?
    • อาการปวดตึงของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะบริเวณหลัง ไหล่ และสะบัก
    • ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลือง
    • ช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้า

“ฝังเข็ม ใกล้ฉัน” วิธีเลือกคลินิกแพทย์แผนจีนที่ใช่และปลอดภัย

การค้นหา ” คลินิกฝังเข็ม ใกล้ฉัน” ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจะเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย ควรพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้

 

  1. แพทย์แผนจีนต้องมีใบประกอบวิชาชีพ นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพทย์ผู้ทำการรักษามีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนจีนอย่างถูกต้อง
  2. ความสะอาดและมาตรฐานของคลินิก สถานที่ต้องสะอาดสะอ้าน อุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะ “เข็ม” ที่ใช้ในการฝังเข็มต้องเป็นแบบปลอดเชื้อและใช้ครั้งเดียวทิ้ง
  3. การซักประวัติและวินิจฉัยที่ละเอียด แพทย์ที่ดีจะทำการซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด (เช่น การแมะ หรือการจับชีพจร) ก่อนเริ่มการรักษา เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ
  4. การให้คำแนะนำที่ชัดเจน แพทย์สามารถอธิบายขั้นตอนการรักษาและตอบข้อสงสัยของคุณได้อย่างชัดเจน ทำให้คุณรู้สึกมั่นใจและผ่อนคลาย
  5. รีวิวและความน่าเชื่อถือ ลองอ่านรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ

ถึงเวลาแล้วที่จะหันมาดูแลร่างกายจากต้นเหตุ และเปิดรับศาสตร์แห่งการบำบัดจากธรรมชาติที่สืบทอดกันมานับพันปี การรักษาด้วยการฝังเข็มและครอบแก้วที่ บ้านหมอเหมียวคลินิกการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน ที่ได้มาตรฐานใกล้บ้านคุณ รักษาโดยแพทย์จีนผู้เชี่ยวชาญ หมอเหมียว แพทย์จีน ปรียนันท์ สุนทรปกรณ์กิจ

คู่มือเลือก ‘ตู้เสื้อผ้า’ ให้สวยตรงใจ ฟังก์ชันครบ จบปัญหาห้องรก

 

“ตู้เสื้อผ้า” ไม่ใช่เป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์สำหรับเก็บเสื้อผ้า แต่คือพื้นที่สำคัญที่เราต้องใช้งานทุกวัน เป็นสิ่งแรกที่เราเปิดในตอนเช้าเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ และเป็นที่สุดท้ายที่เราจัดเก็บเสื้อผ้าก่อนเข้านอน ตู้เสื้อผ้าที่ดีจึงเปรียบเสมือน “อาณาจักรส่วนตัว” ที่ไม่เพียงแต่ช่วยจัดระเบียบเสื้อผ้าและของใช้ให้เข้าที่ แต่ยังสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์และรสนิยมของเจ้าของห้องอีกด้วย

การเลือกตู้เสื้อผ้าที่ใช่จึงเป็นการลงทุนที่สำคัญ บทความนี้จะเป็นคู่มือช่วยให้คุณเลือกตู้เสื้อผ้าที่ตอบโจทย์ทั้งด้านดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน และช่วยแก้ปัญหาห้องรกได้อย่างยั่งยืน

รู้จักตู้เสื้อผ้าประเภทต่างๆ

ก่อนตัดสินใจซื้อ เราควรทำความรู้จักตู้เสื้อผ้าในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้เลือกได้ตรงกับความต้องการและขนาดของพื้นที่มากที่สุด

  1. แบ่งตามลักษณะบานประตู
  • ตู้เสื้อผ้าบานเปิด (Swing Door Wardrobe)
    • ข้อดี เป็นรูปแบบคลาสสิกที่ได้รับความนิยม สามารถเปิดประตูได้กว้าง ทำให้มองเห็นเสื้อผ้าด้านในได้ทั้งหมดพร้อมกัน และมักจะมีพื้นที่สำหรับแขวนของเล็กๆ น้อยๆ ที่บานประตูได้
    • ข้อควรพิจารณา ต้องการพื้นที่ด้านหน้าตู้สำหรับระยะสวิงในการเปิดประตู
  • ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน (Sliding Door Wardrobe)
    • ข้อดี เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัด เช่น คอนโดมิเนียม เพราะไม่ต้องใช้พื้นที่ในการเปิดประตู ดีไซน์ดูทันสมัยและช่วยประหยัดพื้นที่ได้อย่างมาก
    • ข้อควรพิจารณา จะสามารถเปิดดูเสื้อผ้าได้ทีละฝั่ง
  1. แบ่งตามรูปแบบการติดตั้ง
  • ตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัว (Freestanding Wardrobe)
    • ข้อดี เป็นตู้สำเร็จรูปที่หาซื้อได้ง่าย มีดีไซน์และราคาให้เลือกหลากหลาย สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้สะดวก
    • ข้อควรพิจารณา อาจมีช่องว่างเหลือระหว่างตู้กับเพดานหรือผนัง ทำให้ไม่สามารถใช้พื้นที่ได้เต็มที่และอาจเป็นที่สะสมของฝุ่น
  • ตู้เสื้อผ้าแบบบิวท์อิน (Built-in Wardrobe)
    • ข้อดี ออกแบบได้พอดีกับขนาดของพื้นที่ผนัง ตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ทำให้ใช้ทุกตารางนิ้วได้อย่างคุ้มค่า สามารถกำหนดฟังก์ชันภายในได้ตามต้องการทั้งหมด ทำให้ดูสวยงาม เรียบเนียนไปกับผนังห้อง
    • ข้อควรพิจารณา มีราคาสูงกว่าและไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้

เลือกตู้เสื้อผ้าใบใหม่ให้ตอบโจทย์

  1. วัดขนาดพื้นที่ให้เป๊ะ ใช้ตลับเมตรวัดความกว้าง, ความลึก, และความสูงของพื้นที่ที่จะวางตู้ให้ชัดเจน หากเลือกตู้บานเปิด อย่าลืมวัดเผื่อระยะการเปิดประตูด้วย
  2. ประเมินปริมาณเสื้อผ้าและของใช้ สำรวจเสื้อผ้าของคุณว่ามีเสื้อผ้าแบบแขวน (ชุดเดรส, เสื้อเชิ้ต) หรือแบบพับ (เสื้อยืด, กางเกง) มากกว่ากัน เพื่อจะได้เลือกตู้ที่มีสัดส่วนของราวแขวนและชั้นวางที่เหมาะสม
  3. เลือกฟังก์ชันภายในที่ต้องการ
    • ราวแขวน ต้องการราวแขวนเดี่ยวสำหรับชุดยาว หรือราวแขวน 2 ชั้นสำหรับเสื้อและกางเกง?
    • ลิ้นชัก จำเป็นสำหรับเก็บชุดชั้นใน, ถุงเท้า, หรือของใช้จุกจิก
    • ชั้นวางของ สำหรับวางเสื้อผ้าที่พับไว้, กระเป๋า, หรือกล่องเก็บของ
  4. กำหนดสไตล์และวัสดุ เลือกดีไซน์และสีของตู้ให้เข้ากับสไตล์การแต่งห้องโดยรวม วัสดุที่เป็นที่นิยมได้แก่ ไม้ (ให้ความรู้สึกอบอุ่น), ไฮกลอส (ดูทันสมัย), หรือหน้าบานกระจก (ช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้น)
  5. ตั้งงบประมาณ กำหนดงบประมาณในใจ จะช่วยให้คุณสามารถจำกัดตัวเลือกและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

จัดระเบียบภายในตู้เสื้อผ้าให้เป๊ะปัง

  • ใช้ไม้แขวนเสื้อแบบเดียวกัน ช่วยประหยัดพื้นที่และทำให้ตู้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย สบายตา
  • ใช้กล่องหรือตะกร้าจัดระเบียบ สำหรับแยกเก็บของชิ้นเล็กๆ เช่น เข็มขัด, เนคไท, หรือเครื่องประดับ
  • ติดไฟ LED ในตู้ การเพิ่มแสงสว่างในตู้จะช่วยให้คุณมองเห็นและหาเสื้อผ้าได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในตอนเช้า

การเลือก ตู้เสื้อผ้า ที่ใช่ ไม่ใช่แค่การหาที่เก็บของ แต่คือการสร้างพื้นที่ที่สะท้อนตัวตนและช่วยให้คุณเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างเป็นระเบียบและมีความสุข การวางแผนอย่างรอบคอบจะทำให้คุณได้ตู้เสื้อผ้าที่สวยงามตรงใจ มีฟังก์ชันครบครัน และเป็นผู้ช่วยคนสำคัญในการจัดระเบียบชีวิตของคุณไปอีกหลายปี

 

 

 

กลับสู่หน้าหลัก  savecyber.com

เลี้ยงพระเก้ารูป

คู่มือจัดอาหารเลี้ยงพระ ๙ รูป: อิ่มบุญ อิ่มใจ เสริมสิริมงคลให้ชีวิต

เลี้ยงพระเก้ารูปการทำบุญเลี้ยงพระ ๙ รูป ถือเป็นประเพณีอันดีงามของชาวพุทธในประเทศไทย ที่นิยมปฏิบัติในวาระมงคลต่างๆ เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่, ทำบุญวันเกิด, ทำบุญครบรอบวันแต่งงาน หรือทำบุญบริษัท เพื่อความเป็นสิริมงคลและเสริมสร้างบุญบารมี เลข ๙ (เก้า) นั้นพ้องเสียงกับคำว่า “ก้าว” ซึ่งหมายถึงความเจริญก้าวหน้าในชีวิตและกิจการงาน

หัวใจสำคัญของการทำบุญเลี้ยงพระ คือการจัดเตรียมภัตตาหารที่ปรุงอย่างสะอาด ประณีต และเปี่ยมด้วยความตั้งใจ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา บทความนี้จะเป็นแนวทางช่วยให้คุณสามารถจัดเตรียมสำรับอาหารได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์

หัวใจสำคัญของการจัดภัตตาหาร: ความสะอาดและปราณีต

ก่อนจะเลือกเมนู สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องคำนึงถึงคือหลักการพื้นฐานของการเตรียมภัตตาหารถวายพระสงฆ์

  • ความสะอาด: วัตถุดิบทุกชนิดต้องสดใหม่ ภาชนะและขั้นตอนการปรุงต้องสะอาด ถูกสุขลักษณะ
  • ความประณีต: อาหารควรปรุงด้วยความใส่ใจ รสชาติกลมกล่อม ไม่จัดจ้านเกินไป (ไม่เผ็ดจัด, เค็มจัด หรือหวานจัด)
  • ปรุงด้วยจิตอันเป็นกุศล: ผู้ปรุงควรมีจิตใจที่ผ่องใส ตั้งใจทำบุญเพื่อถวายแด่พระสงฆ์

การจัดสำรับอาหาร: คาว หวาน ผลไม้ ครบเครื่อง

โดยทั่วไป การจัดอาหารเลี้ยงพระจะประกอบด้วยอาหารคาว, อาหารหวาน, ผลไม้ และเครื่องดื่ม เพื่อให้ครบถ้วนตามหลักโภชนาการและธรรมเนียมปฏิบัติ

๑. อาหารคาว (แนะนำ ๓-๕ อย่าง) ควรจัดให้มีความหลากหลาย ทั้งแกง ต้ม ผัด ทอด และน้ำพริก เพื่อให้สำรับอาหารมีความสมดุล โดยนิยมเลือกเมนูที่มีชื่อและความหมายเป็นมงคล

  • แกง: แกงเขียวหวานไก่ (ความรักความห่วงใยอันหวานชื่น), ต้มจืดวุ้นเส้น (ชีวิตราบรื่นไร้อุปสรรค)
  • ผัด: ผัดวุ้นเส้น หรือ ผัดถั่วงอก (ความเจริญงอกงามและอายุยืนยาว)
  • ทอด: ปลาทอด (ความอุดมสมบูรณ์), ทอดมัน (ให้ชีวิตมีแต่สิ่งดีๆ มันๆ)
  • ยำ/ลาบ: ลาบ (ชื่อพ้องเสียงกับ “ลาภ” หมายถึงโชคลาภ เงินทอง)
  • น้ำพริก: น้ำพริกลงเรือ พร้อมผักสด/ผักลวก เป็นเมนูที่แสดงถึงความพิถีพิถันและดีต่อสุขภาพ

๒. อาหารหวาน (ขนมมงคล) ขนมไทยเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานบุญ เพราะมีชื่อที่ไพเราะและเป็นสิริมงคล

  • ขนมตระกูลทอง: ทองหยิบ, ทองหยอด, ฝอยทอง, เม็ดขนุน สื่อถึงความร่ำรวยด้วยทรัพย์สินเงินทองและยศศักดิ์
  • ขนมชั้น: หมายถึงความเจริญก้าวหน้า ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นไป
  • ขนมถ้วยฟู/ขนมปุยฝ้าย: สื่อถึงชีวิตที่เฟื่องฟู งอกงาม

๓. ผลไม้ ควรเลือกผลไม้ตามฤดูกาลที่สดใหม่ และอาจเลือกชนิดที่มีชื่อเป็นมงคล เช่น:

  • กล้วย: หมายถึง การทำสิ่งใดก็สำเร็จโดยง่าย
  • มะพร้าว: เป็นผลไม้ที่มีน้ำบริสุทธิ์ สื่อถึงความบริสุทธิ์ของจิตใจ
  • ส้ม: สีเหลืองทองของส้มเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภและความสวัสดี
  • องุ่น: ลักษณะที่เป็นพวง สื่อถึงความเจริญงอกงามและความสมบูรณ์พูนสุข

๔. เครื่องดื่ม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ น้ำเปล่าสะอาด นอกจากนี้อาจถวายน้ำสมุนไพรที่ไม่หวานจัด เช่น น้ำใบเตย, น้ำอัญชันมะนาว หรือน้ำมะตูม

รูปแบบการจัดถวาย: ทำเอง ปิ่นโต หรือจัดเลี้ยง?

ในปัจจุบันมีทางเลือกในการจัดเตรียมภัตตาหารที่หลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับความสะดวกของเจ้าภาพ

  • ทำเอง: เป็นวิธีที่ได้บุญสูงสุด เพราะเปี่ยมไปด้วยความตั้งใจและความใส่ใจในทุกขั้นตอน เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาและมีความชำนาญในการทำอาหาร
  • จัดใส่ปิ่นโต: เป็นรูปแบบที่งดงามและเป็นที่นิยม โดยจัดอาหารครบชุด (คาว หวาน ผลไม้) ลงในปิ่นโต ๙ เถา สามารถสั่งจากร้านที่รับจัดทำ “ปิ่นโตถวายพระ” ได้โดยตรง ซึ่งสะดวกและเป็นระเบียบเรียบร้อย
  • สั่งจากร้าน/จัดเลี้ยง (Catering): เป็นทางเลือกที่สะดวกสบายที่สุด เหมาะสำหรับเจ้าภาพที่ไม่ค่อยมีเวลา โดยสามารถเลือกร้านที่เชี่ยวชาญด้าน “อาหารเลี้ยงพระ” โดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยจัดสรรเมนูที่เหมาะสมและจัดส่งถึงสถานที่จัดงานได้เลย

การจัดอาหารเลี้ยงพระ ๙ รูปนั้น สิ่งที่สำคัญเหนือกว่าความหลากหลายหรือความหรูหราของเมนู คือ จิตอันเป็นกุศล ของเจ้าภาพ ความสะอาด ความประณีต และความตั้งใจจริงในการถวายภัตตาหาร คือแก่นแท้ของการทำบุญที่จะนำมาซึ่งความสุขใจ อิ่มเอมในบุญ และเสริมสร้างสิริมงคลให้แก่ชีวิตและครอบครัวสืบไป

ไม่ว่าคุณจะเลือกจัดงานบุญเลี้ยงเพลพระเก้ารูปด้วยตัวเอง หรือใช้บริการรับจัดงาน สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำด้วยความตั้งใจและศรัทธา เพื่อให้พิธีกรรมนี้เต็มไปด้วยความสุข ความเจริญ และความสงบสุขตลอดไป

 

Line ID: @armabox

Elephant Sanctuary

Joy Elephant Sanctuary, Chiang Mai (Office)

 

Elephant Sanctuary | ปางช้างเชิงอนุรักษ์ Joy Elephant Sanctuary (JES) ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นจากความร่วมมือระหว่างชุมชนชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงและกลุ่มคนผู้มีความรักช้าง มีเป้าหมายให้ช้างทุกเชือกอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบ และได้รับความดูแลเป็นอย่างดี 

ทาง Joy Elephant Sanctuary (JES) มีการจัดกิจกรรมให้กับนักท่องเที่ยวที่รักช้าง และมีความสนใจทำกิจกรรมเกี่ยวกับธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมไทยต่างๆ และสิ่งสำคัญในการเยี่ยมชมปางช้าง นั่นก็คือการเลือกทำกิจกรรมที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพของช้างเป็นอันดับแรก การเฝ้าดูช้างใช้ชีวิตตามธรรมชาติถือเป็นทางเลือกที่ไม่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวมากที่สุด

อย่างแรกที่คุณได้ทำเมื่อเดินทางมาถึงปางช้างคือ คุณจะได้เปลี่ยนเป็นชุดกะเหรี่ยงพื้นเมือง พร้อมซึมซับวัฒนธรรมอันน่าหลงใหล โดยมีกิจกรรมให้เข้าร่วมดังนี้

 

โปรแกรมการผจญภัยครึ่งวัน สัมผัสวัฒนธรรม ชมช้าง และเล่นน้ำตก

คุณจะได้ซึมซับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงทางภาคเหนือ ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความผูกพันอันใกล้ชิดกับช้าง คุณจะได้ร่วมกิจกรรมการเตรียมอาหารและป้อนอาหารให้เหล่าช้างด้วยมือของคุณเอง รวมถึงใช้เวลาในการเฝ้าดูกิจวัตรประจำวันและสังเกตพฤติกรรมของช้างในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ แบบอิสระ

และสิ่งที่ห้ามพลาด คือคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับการลงเล่นน้ำตกที่สวยงาม หลังจากดื่มด่ำกับธรรมชาติแล้วคุณจะได้เรียนรู้การทำของที่ระลึกทางวัฒนธรรมไทยเพื่อเก็บความทรงจำอันน่าประทับใจในการเที่ยวในครั้งนี้

โปรแกรมการผจญภัยเต็มวัน สัมผัสธรรมชาติ ชมช้าง เล่นน้ำตก และเรียนรู้วัฒนธรรม

คุณจะได้ซึมซับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงทางภาคเหนือ ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความผูกพันอันใกล้ชิดกับช้าง คุณจะได้ร่วมกิจกรรมการเตรียมอาหารและป้อนอาหารให้เหล่าช้างด้วยมือของคุณเอง รวมถึงใช้เวลาในการเฝ้าดูกิจวัตรประจำวันและสังเกตพฤติกรรมของช้างในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ โดยช้างได้แสดงความเป็นตัวเอง

คุณจะได้ลองเป็นผู้ดูแลช้าง และเรียนรู้เกี่ยวกับช้างมากยิ่งขึ้นผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การปั้นลูกบอลสมุนไพรเพื่อช่วยบำรุงระบบย่อยอาหาร ต่อด้วยการปลูกต้นกล้าเพื่อเป็นแหล่งอาหารสำหรับช้างในอนาคต นอกจากนี้คุณจะได้เรียนรู้วิธีการเช็คสุขภาพของช้าง และจิบชาสมุนไพรพลางชมอิริยาบถของช้างในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ แบบอิสระ

ท้ายที่สุดห้ามพลาดโอกาสเพลิดเพลินกับการลงเล่นน้ำในน้ำตกที่สดชื่นในปางช้างนี้ หลังจากที่ได้ผ่านความสดชื่นจากน้ำตกแล้ว คุณจะได้เรียนรู้การทำของที่ระลึกที่สะท้อนวัฒนธรรมไทยเพื่อเก็บเป็นความทรงจำอันน่าประทับใจนำกลับไปกับตัวคุณ

โปรแกรม ล่องแพไม้ไผ่ ชมช้าง เล่นน้ำตก

มาร่วมสัมผัสประสบการณ์การชมช้าง และดื่มด่ำกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ผ่านการล่องแพไม้ไผ่บนแม่น้ำ ท่ามกลางป่าไม้เขียวริมน้ำ

คุณจะได้ร่วมทำกิจกรรมต่างๆกับช้าง ทั้งการป้อนอาหารช้างและเรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของช้าง พร้อมทั้งจิบชาสมุนไพรพลางชมช้างที่ใช้ชีวิตอย่างอิสระตามธรรมชาติ จากนั้นใช้เวลาพักผ่อนเล่นน้ำตกให้เย็นชื่นใจ

ถัดไปคุณจะได้ เตรียมทำของที่ระลึกสไตล์ไทยๆ โดยปิดท้ายวันของคุณด้วยความทรงจำอันแสนพิเศษกับการไปล่องแพไม้ไผ่ชิลๆ ตามลำน้ำแม่วาง ผ่านผืนป่าอันเขียวขจี พร้อมฟังเสียงของสายน้ำขับกล่อมจนเคลิ้ม

 

โปรแกรมสุดพิเศษ “ชมช้างและเดินป่าดอยอินทนนท์”

คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพอันงดงามของวิถีชีวิตชนบทในเชียงใหม่ ตั้งแต่เริ่มต้นการเดินทางผ่านเส้นทางที่สวยงามราวกับภาพวาด

เมื่อเดินทางถึงปางช้าง คุณจะได้เปลี่ยนเป็นชุดกะเหรี่ยงพื้นเมืองเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ กับช้างอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การเตรียมอาหาร, ป้อนอาหารช้าง พร้อมเรียนรู้เรื่องราวและพฤติกรรมของช้าง จากนั้นแวะเล่นน้ำตกให้เย็นชื่นใจ แล้วกลับมาจิบชาสมุนไพรพลางเฝ้าดูช้าง ก่อนจะปิดท้ายด้วยการทำของที่ระลึกทางวัฒนธรรมไทยด้วยฝีมือของคุณเอง

อิ่มอร่อยกับอาหารมื้อกลางวัน ก่อนจะมุ่งหน้าสู่ “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์” สัมผัสอากาศเย็นสบายบนยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย พร้อมเยี่ยมชมความงดงามของพระมหาธาตุเจดีย์คู่ หรือ พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ (The Twin Pagodas) และสวนดอกไม้โดยรอบ

จากนั้น เดินสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว แวะชมความงามของน้ำตกระหว่างทาง และปิดท้ายด้วยการพักผ่อนที่ฟาร์มกาแฟออร์แกนิกของชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง พร้อมลิ้มรสกาแฟสดๆ ก่อนเดินทางกลับสู่ตัวเมืองเชียงใหม่

โปรแกรม ชมพระอาทิตย์ขึ้น ตักบาตรประเพณีทางพุทธศาสนา และ ชมช้าง

คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ชมพระอาทิตย์ขึ้นอันงดงามจากวัดพระธาตุดอยสุเทพอันเลื่องชื่อ ตามด้วยพิธีตักบาตรซึ่งเป็นประเพณีทางพุทธศาสนาที่สืบทอดมายาวนานกว่า 2,000 ปี

หลังจากรับประทานอาหารเช้าแบบไทยๆ ไปค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่ ณ วัดดอยสัพพัญญู ซึ่งประดับประดาไปด้วยภาพจิตรกรรมเกี่ยวกับความเป็นไทย จากนั้นขึ้นสู่องค์เจดีย์เพื่อชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของพื้นที่เพาะปลูกอันเขียวขจี

เมื่ออิ่มบุญจากกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้เดินทางไปที่ปางช้างจอย (Joy Elephant Sanctuary) และ เปลี่ยนเป็นชุดชาวกะเหรี่ยงพื้นเมืองพร้อมทำกิจกรรมอันอบอุ่นหัวใจ ซึ่งรวมถึงการป้อนอาหารให้กับช้างใจดี จิบชาสมุนไพรพลางชม หรือสังเกตพฤติกรรมของช้างที่เป็นอิสระตามธรรมชาติท่ามกลางป่าไม้ในปางช้าง ต่อไปคุณจะได้ไปเติมความสดชื่นที่น้ำตก แล้วทำของที่ระลึกที่สะท้อนความเป็นไทยด้วยตัวคุณเอง ก่อนจะอิ่มอร่อยกับอาหารกลางวันท้องถิ่นรสเลิศ และกล่าวอำลาเหล่าช้างเพื่อเดินทางกลับเข้าเมือง

โปรแกรม  ชมช้างและเรียนทำอาหารไทยต้นตำรับ

คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การเรียนทำอาหารไทยแบบต้นตำรับ ที่สนุกสุดเหวี่ยง และชมช้างแบบชิลๆท่ามกลางต้นไม้ตามธรรมชาติ หลังจากมีบริการไปรับท่านจากโรงแรม จะนำท่านไปเยี่ยมชมตลาดท้องถิ่นเพื่อเลือกซื้อวัตถุดิบสดใหม่

ภายใต้คำแนะนำของครูสอนทำอาหารผู้มีประสบการณ์ คุณจะได้ลงมือทำอาหารไทยต้นตำรับด้วยตนเองหลากหลายเมนู อาทิ ปอเปี๊ยะ แกงต่างๆ ซุป ยำ และเมนูผัด จากนั้นอิ่มอร่อยกับมื้ออาหารรสเลิศทานคู่กับชาไทยและข้าวเหนียวมะม่วง

เมื่อคุณได้อิ่มท้องจากอาหารกลางวันฝีมือตัวเองแล้ว คุณจะเดินทางไปยังปางช้างจอย (Joy Elephant Sanctuary) คุณจะได้สวมชุดชาวกะเหรี่ยงพื้นเมืองและร่วมกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับช้าง ผ่านการป้อนอาหาร การสังเกตการณ์ช้าง และจิบชาสมุนไพรพร้อมชมช้างในอิริยาบทต่างๆ ตามธรรมชาติ นอกจากนี้คุณจะได้พักผ่อนเติมความสดชื่นที่น้ำตก และทำของที่ระลึกที่สะท้อนวัฒนธรรมไทยด้วยตัวคุณเอง ก่อนจะเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่น และกล่าวอำลาเหล่าช้างก่อนเดินทางกลับสู่เชียงใหม่

ความสัมพันธ์ระหว่างช้างกับป่าเป็นสายใยชีวิตที่ถักทอเข้าด้วยกันอย่างลึกซึ้ง เป็นความผูกพันที่เกื้อกูลกันมานาน จนไม่อาจแยกขาดจากกันได้ ป่าคือทั้งหมดของชีวิต คือบ้าน คือแหล่งอาหาร และเกราะกำบังอันปลอดภัย Elephant Sanctuary | Joy Elephant Sanctuary (JES) เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ช้างและปกป้องผืนป่า ซึ่งการรักษาผืนป่าให้คงอยู่ คือการรักษาวงจรชีวิตอันน่าอัศจรรย์นี้ไว้ให้สืบต่อไป เพราะเมื่อเราปกป้องช้าง เราไม่ได้กำลังปกป้องสัตว์ป่าเพียงชนิดเดียว แต่เป็นการรักษาหัวใจของระบบนิเวศและปกป้องหัวใจและลมหายใจของผืนป่าทั้งหมดอีกด้วย

Joy Elephant Sanctuary (JES) is an ethical elephant sanctuary located in Chiang Mai, Thailand. It was founded through a collaboration between the local Karen hill-tribe community and a group of elephant lovers, with the goal of providing a peaceful and well-cared-for home for every elephant.

Joy Elephant Sanctuary (JES) offers activities for tourists who love elephants and are interested in nature-based experiences and learning about various aspects of Thai culture. The most important part of visiting an elephant sanctuary is choosing activities that prioritize the elephants’ welfare above all. Observing elephants living according to their natural behaviors is the most ethical choice.

Upon your arrival at the sanctuary, you will first change into traditional Karen clothing to immerse yourself in their fascinating culture, after which you can participate in the following activities:

Half-Day Adventure Program: Culture, Elephant Observation & Waterfall

Immerse yourself in the culture and history of the northern Karen Hill Tribe, known for their close bond with elephants. You will participate in hands-on activities like preparing food and feeding the elephants with your own hands. Spend time witnessing their daily routines and observing their behaviors in their natural habitat.

A highlight you shouldn’t miss is enjoying the beautiful waterfall. After immersing yourself in nature, you will learn to craft a Thai cultural souvenir to remember this impressive experience.

Full-Day Adventure Program: Nature, Elephant Observation, Waterfall & Cultural Activities

Immerse yourself in the culture and history of the northern Karen Hill Tribe, known for their close bond with elephants. You will participate in hands-on activities like preparing food and feeding the elephants. Spend time witnessing their daily routines and observing their behaviors in their natural habitat.

Join in fun caregiving tasks, such as making herbal medicine balls to aid their digestion, planting seedlings to become a future food source for the moreover, you will assist the mahouts in checking the elephants’ physical health, ensuring their well-being to top off your caretaker job of the day, and sipping herbal tea while observing them in their natural habitat.

Don’t miss the chance to enjoy the breathtaking waterfall during your visit, and also learn to craft a Thai cultural souvenir to keep this memorable experience with you.

Program: Bamboo Rafting, Elephant Observation & Waterfall

Join us for an experience that includes bamboo rafting and a full day immersed in the rural lifestyle of Chiang Mai amidst abundant nature.

You will engage in close-up activities, including feeding the elephants and learning their stories while sipping herbal tea and watching them live freely. Then, cool off at a refreshing waterfall.

Craft a Thai-style souvenir before embarking on a relaxing bamboo raft trip along the Wang River, passing through lush green forests while listening to the soothing sounds of the water, ending your day with wonderful memories to take home.

Special Program: “Elephant Observation & Doi Inthanon Trekking”

Enjoy the beautiful scenery of Chiang Mai’s rural life from the start of your journey along a picturesque route.

Upon arrival at the elephant sanctuary, you will change into traditional Karen clothing to participate in close-up activities, from preparing and feeding the elephants to learning about their stories and behaviors. Then, visit a refreshing waterfall before returning to sip herbal tea while observing the elephants. Finally, you’ll craft your own cultural souvenir.

Savor a local lunch before heading to Doi Inthanon National Park. Experience the cool air on the highest peak in Thailand and visit the beautiful Twin Pagodas and their surrounding gardens.

Then, explore the Pha Dok Siao Nature Trail, admiring the beauty of the waterfalls along the way. Conclude your day by relaxing at a Karen hill-tribe’s organic coffee farm, tasting fresh coffee before returning to Chiang Mai city.

Program: Sunrise Viewing & Buddhist Alms-Giving Ceremony

Experience a beautiful sunrise from the renowned Wat Phra That Doi Suthep temple, followed by a serene alms-giving ceremony, a Buddhist tradition steeped in over 2,000 years of history.

After a delectable Thai breakfast, discover the hidden gem of Wat Doi Sappanyu, decorated with paintings depicting aspects of Thai culture. Ascend the chedi (pagoda) for breathtaking views of the green plantations.

At Joy Elephant Sanctuary, change into traditional Karen clothing and engage in heartwarming activities, including feeding the gentle elephants. Sip herbal tea while observing them in their natural habitat, then refresh yourself at a serene waterfall. Craft your own Thai cultural souvenir before enjoying a flavorful local meal and bidding farewell to the elephants before returning to the city.

Program: Elephant Observation & Authentic Thai Cooking Class

Experience a vibrant journey combining elephant observation with an authentic Thai cooking class. After a hotel pick-up, you will visit a local market to select fresh ingredients.

Under the guidance of our experienced cooking teacher, you will prepare a variety of authentic Thai dishes, such as Spring Rolls, various curries, soups, salads, and stir-fries. Indulge in a delicious meal paired with Thai Tea and Mango Sticky Rice.

At Joy Elephant Sanctuary, change into traditional Karen clothing and participate in hands-on activities, including feeding and observing the elephants. Sip herbal tea next to their natural habitat, then take a refreshing break at a waterfall.

Craft your own Thai cultural souvenir before enjoying a local meal and bidding farewell to the elephants before returning to Chiang Mai.

The relationship between elephants and the forest is a deeply woven life-bond, a symbiotic connection that has existed for ages and cannot be broken. The forest is their entire life—their home, food source, and safe haven. Therefore, Joy Elephant Sanctuary (JES) recognizes the importance of elephant conservation and forest protection. Preserving the forest means preserving this wondrous cycle of life. Because when we protect elephants, we are not just protecting a single species of wildlife; we are protecting the heart of the ecosystem and the very heart and soul of the entire forest.