ฮวงจุ้ยบ้าน
ฮวงจุ้ยบ้าน บริการดูฮวงจุ้ย แก้ไขฮวงจุ้ยด้วยศาสตร์ฮวงจุ้ยสำนักรูปลักษณ์ “山形派” และโหราศาสตร์ชีเจิ้งของราชสำนักจีน โดยใช้คัมภีร์อี้จิง ทฤษฎีหยิน-หยาง 陰陽 และพลังชี่ 氣 เป็นรากฐาน ช่วยปรับแก้ทิศทางให้เป็นมงคล เสริมดวงชาตา ธุรกิจการงาน แก้ไขอุปสรรคต่างๆในการงาน อาชีพ หนี้สิน และความสัมพันธ์ในครอบครัว อาจารย์มีประสบการณ์นับสิบปี ในการดูและแก้ไขฮวงจุ้ย ทั้งในและต่างประเทศ และเป็นที่ปรึกษาด้านฮวงจุ้ยให้กับนักธุรกิจชาวจีนและชาวไต้หวัน ที่มาลงทุนในประเทศไทย และสมาคมจีนต่างๆในประเทศไทย
ในการดูฮวงจุ้ยของอาจารย์จะค่อนข้างละเอียด ในการดูแต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 2 ชม. หรือบางรายอาจนานถึง 4 ชม. ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และปัญหาที่ต้องการแก้ไข ส่วนหลังจากการดูฮวงจุ้ยแล้ว ท่านสามารถติดต่อสอบถามเรื่องฮวงจุ้ยที่อาจารย์เคยไปปรับแก้ให้ได้ตลอด 6 เดือน ผ่านทาง Line@astroneemo โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
สำนักเรานี้ ไม่มีการหลอกขายสินค้าเสริมมงคล แก้ฮวงจุ้ย ไม่มีสะเดาะเคราะห์แก้กรรม ไม่เน้นทุบรื้อ(นอกจากฮวงจุ้ยร้ายมากจนทำร้ายผู้อยู่ศัย) ไม่มีเรียกเงินทองเพิ่ม ไม่การหลอกให้เปิดประตูเงินทอง ไม่มีการหลอกทำพิธีกรรม ไม่มีการใช้ของแก้ฮวงจุ้ยเพื่อปลอบใจแต่ไม่ได้ผล ไม่มีการเรียกร้องผลประโยชน์เพิ่มเติมใดใด
แต่อาจารย์จะเน้นเรื่องคุณธรรม การสร้างความสมดุลย์กระแสพลังชี่ ฟ้า-ดิน-คน และสกัดกั้นและสลายพลังชี่พิฆาต เสริมพลังชี่มงคล ที่สมพงษ์กับดวงชาตาเจ้าของบ้านและอาชีพการงาน และแก้ไขอุปสรรคที่เผชิญอยู่ การปรึกษาผู้รู้ก่อน ย่อมที่จะไม่พลาดพลั้ง ศาตร์แห่งฮวงจุ้ยไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่ได้พิสูจน์ความจริงมาตลอดหลายพันปี ศาสตร์แห่งภูมิพยากรณ์นี้ สามารถช่วยเหลือและให้คำแนะนำกับท่านได้ เช่น
1.มีปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย คนในบ้านไม่สามัคคีกัน ขัดแย้งกัน ทำมาหากินไม่ขึ้น เก็บเงินไม่อยู่ เงินทองรั่วไหล เปลี่ยนที่อยู่บ่อย โยกย้ายบ่อย มีปัญหากับคนข้างบ้าน มีปัญหาโจรกรรมบ่อยผิดปกติ คนอยู่อาศัยเจ็บป่วย เรื้อรังอย่างหาสาเหตุไม่ได้ ลูกหลานไม่เชื่อฟัง เรียนไม่เก่ง ปัญญาทึบ การเงินติดขัด การงานมีปัญหา หนี้สินพอกพูน ฯลฯ
2.มีปัญหาเรื่องธุรกิจการงาน กิจการไปไม่ไหว ลูกน้องบริวารไม่ดี เปลี่ยนบ่อย ลูกค้าน้อย เงินทองของบริษัทหมุนเวียนไม่คล่อง กิจการถดถอย หนี้สินรุงรัง เก็บเงินลูกค้าไม่ได้ สินค้ามีปัญหา มีศัตรูทางธุรกิจมาก พ่ายแพ้ในการแข่งขันทางธุรกิจ ชื่อเสียงไม่ดี ลูกน้องแบ่งฝักฝ่าย ล้มละลาย ฯลฯ
3.ปรึกษาการเลือกซื้อบ้าน-ที่ดิน ทำเล สร้างบ้าน สร้างออฟฟิต โรงงาน เพื่อเสริมโชคลาภ ขจัดอุปสรรคที่จะมีมาในอนาคต
4.ปรึกษาเรื่องการตกแต่ง-ต่อเติม ที่พักอาศัย ออฟฟิต โรงงาน เพื่อให้ชี่สมดุลย์ มิให้เกิดความขัดแย้งของพลังชี่
5.ปรึกษาการออกแบบบ้าน ออฟฟิต โรงงาน การจัดวางผังห้องต่างๆ เพื่อให้ชี่สมดุลย์ และมิให้เกิดปัญหาในคนาคต
6.ปรึกษาเรื่องการจัดวางตำแหน่งศาลเจ้าที่ ศาลพระภูมิ ศาลเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หิ้งบรรพบุรุษ ในตำแหน่งที่เสริมพลังชี่มงคล เสริมความรุ่งเรืองและไม่ให้เป็นโทษต่อเจ้าของบ้าน
7.ปรึกษาเรื่องฤกษ์ยามมงคล พิธีกรรม ในการทำการต่างๆเช่น สร้างบ้าน ยกเสาเอก เปิดกิจการ ขึ้นบ้านใหม่ ทุบรื้อเปลี่ยนแปลงแก้ไขตกแต่งอาคารบ้านเรือน ฯลฯ
การดูฮวงจุ้ยจริงๆนั้น ไม่ใช่ดูแค่ตัวบ้านของเรา หรือเฉพาะที่ดินของเราแค่นั้น แต่ต้องดูเงื่อนไขอื่นๆแล้วนำมาประกอบกัน ดังนี้
1.ภูมิทัศน์รอบๆบ้าน (อย่างน้อยรัสมี 1 ตารางกิโลเมตร) หรือที่เรามองเห็นได้จนสุดสายตา เพราะภูมิทัศน์รอบๆนี่แหละเป็นตัวกำหนดฮวงจุ้ยของตัวบ้านของเราและมีอิทธิพลต่อตัวบ้านมากที่สุด ทั้งจะต้องดูจากถนน ปากซอย ทางเข้า จนไปถึงท้ายซอย และแยกมุมถนนต่างๆ ทั้งแหล่งน้ำ ชุมชน กิจการค้าอื่นๆ อาคารที่อยู่โดยรอบ เช่น วัด โบสถ์ ศาลเจ้า โรงงาน โรงแรม โรงเรียน ฯลฯ ล้วนแต่มีผลต่อตัวบ้านและโชคเคราะห์ของเราทั้งสิ้น
2.ตัวบ้าน ภายนอก ต้องดูลักษณะรูปทรง ตัวบ้าน ทิศทางหรือการวางตำแหน่งของตัวอาคารที่เราอาศัยอยู่ ทั้งพื้นว่าง พื้นที่จัดสวน รั้ว ประตูใหญ่ ส่วนภายในก็ต้องดูการจัดวางผังบ้าน ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ประตู หน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
ทั้งนี้ก็เพื่อมาเพื่อกำหนด ห้องประธาน ตำแหน่งขุมทรัพย์ ตำแหน่งบริวาร ตำแหน่งวาสนาบารมี ตำแหน่งพ่อแม่และลูกหลาน ตำแหน่งอาชีพการงาน ยศศักดิ์ ทั้งหมดล้วนต้องสัมพันธ์กับกิจการอาชีพที่เราจะทำ และดวงชาตาของผู้อยู่อาศัยแต่ละคน
3.ต้องพิจารณาถึงทิศทางของพลังชี่ดี-ร้ายต่างๆ สนามพลังหยินหยางของแต่ละพื้นที่ ทิศทางลมและทิศทางพระอาทิตย์ขึ้นตกในแต่ละฤดูกาล และการโคจรของดาวเคราะห์บนฟากฟ้า
นอกจากนี้ยังต้องมีฤกษ์ยามที่สมพงศ์กับดวงชาตาของเจ้าบ้านและกิจการที่ทำ เพื่อใช้พลังฟ้า- คน- ดิน สอดประสานกันสมดุลย์กัน จึงจะสมบูรณ์
ดังนั้นการแก้ฮวงจุ้ย โดยใช้สิ่งของต่างๆ เช่น มีด ดาบ กระจก สิงโต น้ำเต้า น้ำพุ อ่างน้ำ ตู้ปลา ฯลฯ บางครั้งอาจจะไม่ค่อยได้ผลนักถ้าวางผิดตำแหน่ง กลับเป็นผลร้ายยิ่งไปอีก และการแก้ฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดก็คือ ทำให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ทำให้กลมกลืนกับตัวบ้านมากที่สุด ไม่ใช่ไปวางทั่วไปหมดจนบ้านกลายเป็นศาลเจ้า หรือทำให้ประโยชน์ของพื้นที่ใช้สอยเสียไป
ฮวงจุ้ยพิฆาต – ภายนอกอาคาร
ในเรื่องฮวงจุ้ย มักจะมีเรื่องเล่าขานกันมากมายว่าอย่างนี้ อย่างนั้นไม่ดี แต่วันนี้ผมจะมานำเสนอฮวงจุ้ยแบบง่ายๆที่ใครๆก็ดูรู้เรื่อง อธิบายแบบง่ายๆ ไม่ต้องรู้หลักการหรือพื้นฐานอะไรมาก โดยเฉพาะในด้านฮวงจุ้ยเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องฮวงจุ้ยพิฆาตกันซึ่งในภาษาจีนเรารวมๆเรียกว่า ซาขี่ หรือชี่พิฆาต 煞氣 เป็นเอาว่าหากใครมีทำเลที่อยุ่อาศัยที่เป็นแบบฮวงจุ้ยพิฆาตนี้ รับรองว่าต้องมีเหตุวิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง
ถนนที่พุ่งแทงเข้ามาในบ้าน ไม่ว่าทิศใดก็ตามจะพุ่งมาทางหน้าบ้านหลังบ้าน ข้างบ้านล้วนไม่เป็นมงคล โดยฌฉพาะหากเปิดประตูหน้าบ้านแล้วมองเห็นถนนพุ่งเข้ามาตรงหน้า อันตรายมาก ในทางวิชาฮวงจุ้ยบ่งบอกถึงการสูญเสียทรัพย์ การเลือดตกยางออก อุบัติเหตุ ฯลฯ อย่างไรก็ตามวิธีแก้ก็พอมี หากเราเปลี่ยนกิจการที่อยู่อาศัยแบบทางสามแพร่งนั้นให้กลายเป็นพวกโรงงาน อุตสาหกรรม เครื่องจักรยนต์กลไก ก็สามารถแก้ได้ แต่หากอยู่อาศัยด้วยก็ต้องปรึกษา ซินแสผู้เชี่ยวชาญ ให้ช่วยแก้ไขครับ
ชี่พิฆาต-ลูกศรพิษจากข้างบ้าน
ภาษาจีนเรียกว่าอู้เจี่ยวซา 屋角煞 เป็นพลังจากมุมแหลมคมจากอาคารฝั่งใดฝั่งหนึ่งพุ่งชนเข้ามาในตัวบ้านของเรา หรือเรียกว่าพลังลูกศรพิษ หากพุ่งมาทางด้านซ้ายก็จะทำร้ายเจ้าของบ้านที่เป็นผู้ชาย หากพุ่งเข้ามาทางขวาก็จะทำร้ายเจ้าของบ้านที่เป็นผู้หญิง
กระจกเงา ทำลายฮวงจุ้ย
กระจกเงาและวัสดุที่ทำจากกระจกต่าง เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในการประกอบตกแต่งบ้านเรือนที่พักอาศัย หรือแม้กระทั้งใช้เป็นอุปกรณ์ในการเสริมฮวงจุ้ยให้กับบ้านเรือน หากว่ากระจกเงาได้รับการจัดวางในตำแหน่งที่ถูกต้องเหมาะสม ก็จะช่วยในการเพิ่มความกว้างและขนาดของห้องได้ ได้ความรู้สึกที่ไม่อึดอัด โล่งโปร่งสบาย นอกจากนี้ก็ยังจะช่วยเพิ่งแสงในห้องให้สว่างมากขึ้น แต่ถ้าหากใช้กระจกเงาแบบไม่ถูกต้อง วางในตำแหน่งที่ผิดและไม่เหมาะสม กลับจะทำลายขนาดและการจัดวางผังของห้อง เกิดความรู้สึกที่ถูกแบ่งแยก และทำให้ถูกมองเห็นได้ง่ายจากภายนอก และก็เป็นการลายฮวงจุ้ยของบ้านอยู่อาศัย ส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย และที่แน่นอนที่สุดก็คือการส่งผลกระทบต่อโชคลาภของผู้อยู่อาศัยทุกๆคน
กระจกเงาและกระจกใส ในหลักของฮวงจุ้ยใช้แตกต่างกัน กระจกมีแบบชนิดที่ใสและแบบทึกแสงหรือบางชนิดก็เคลือบสีชาหรือสีเทาดำ มองจากข้องในเห็นข้างนอก และมองจากข้างนอกไม่เห็นข้างในแต่สำหรับกระจกเงานั้นเป็นแบบทึบแสง ทำหน้าที่สะท้องแสงอย่างเดียว กระจกสองชนิดนี้ตามหลักของฮวงจุ้ยแล้วควรจะแยกออกจากกัน ไม่คววรใช้ผสมปนเปกัน
การใช้กระจกเงาของฮวงจุ้ย มีข้อกำหนดวิธีใช้ค่อนข้างแน่นอน มักจะใช้สำหรับห้องน้ำ ห้องแต่งตัว ส่วนห้องรับแขกและห้องนอนควรจะใช้ด้วยความระมัดระวัง และไม่ควรติดเอาไว้ทั่วบ้านแบบตามใจฉัน โดยเฉพาะกระจกเงาที่มองเห็นตัวเองได้ทั้งบ้าน หรือติดไว้ที่ประตูห้องต่างๆล้วนเป็นลางที่ไม่ดี และโดยเฉพาะอย่างยิ่งวางไว้ในตำแหน่งที่เป็นมงคลของบ้าน นัยว่าจะสะท้อนสิ่งที่เป็นมงคลออกไป
กระจกเงาส่วมากมักติดตั้งเอาไว้เพื่อทำลายซาชี่(ชี่พิฆาต) แก้เคล็ด ป้องกันปีศาจ ผู้คนก็มักจะนิยมใช้กระจกเงาติดเอาไว้เพื่อสลายสิ่งชั่วร้ายต่างๆแต่ก็ควรระมัดระวังด้วย เพราะกระจกเงานั้นมีหลากหลายแบบ หลายชนิดการใช้งาน เช่นกระจกนูน กระจกเว้า กระจกยันต์แปดทิศ กระจกเสือคาบดาบ กระจกผิวเรียบ ฯลฯ ซึ่งกระจกเหล่านี้มีไว้สำหรับสะท้อนพลังพิฆาต และสลายพลังร้ายไม่ได้ให้นำมาแขวนเอาไว้เฉยๆ เพราะกระจกเงาทำหน้าที่สะท้อนในสิ่งที่มาจากทางตรงข้ามเป็นเส้นตรง และสะท้อนกลับออกไปเป็นเส้นตรง หรือสะท้อนออกไปแบบไร้ทิศทางการที่จะหลีกให้พ้นจากการสะท้อนของกระจกเงาก็ต้องคำนึงถึงด้วย ทางที่ดีก็ควรจะปรึกษาผู้รู้ ซินแส เพื่อที่จะจะวางตำแหน่งของกระจกให้ถูกต้องไม่ควรที่จะเลือกตำแหน่งด้วยตนเอง หากไม่มีความรู้พอ
ดังนั้นในหลักการของวิชาฮวงจุ้ย การจกเงาทำหน้าที่สะท้อนพลังร้ายให้ออกไป เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่ควรที่จะให้กระจกเงาสะท้อนตัวเราจนนานเกินไป เช่นการดูกระจกนานๆ หรืออยู่ในห้องที่ต้องถูกกระจกเงาส่องถึง หรือส่องให้เห็นของเตียง มุมเตียงนอนก็ไม่เป็นมงคล เพราะจะทำให้เรามักจะนอนไม่หลับ และมีโรคประจำตัวที่รักษาไม่หายนอกจากนี้ก็ยังห้ามวางเอาไว้ที่ ตำแหน่งเตาไฟ ประตูห้องนอน ประตูใหญ่ และที่ตั้งหิ้งพระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ
แต่หรับกิจการอื่นๆ การ ดูฮวงจุ้ย เช่น โรงแรม ตลาด ร้านค้า ห้างต่างๆ สามารถที่จะนำกระจกมาตกแต่งได้ เพื่อที่จะดึงดูดลูกค้า หรือเพื่อที่จะทำให้ร้านค้าดูโอ่งโถงกว้างขวางน่าเข้า น่าซื้อ ในกรณีนี้กระจกจะทำหน้าที่เรียกลูกค้าและเสริมฮวงจุ้ยสำหรับกิจการค้าขาย
ฮวงจุ้ยบ้าน ที่ส่งผลเรื่องโชคลาภ
ในคำจีนโบราณกล่าวเอาไว้ว่า “โชคลาภคือสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิต ผู้คนล้วนแต่เสาะแสวงหา” โดยเฉพาะในยุคปัจุบันนี้นับว่าชัดเจนที่สุด ซึ่งยุคนี้ถ้าหากไม่มีเงินแล้ว ก็แทบว่ายากที่จะเลี้ยงชีวิตให้อยู่รอดได้ ยิ่งวันๆสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆก็พยายามถีบตัวสูงๆขึ้น หากไม่มีเงินก็อยู่ได้อย่างยากลำบากจริงๆ และในเรื่องของโชคลาภตามหลักวิชาฮวงจุ้ย มีหลักการว่า “น้ำหมายถึงเงิน หมายถึงโชคลาภ” ถ้าหากมีแหล่งน้ำที่ใหญ่ มีน้ำมาก และน้ำยิ่งลึก โชคลาภเงินทองก็จะเข้ามามาก และต่อเนื่องยาวนานแต่ในสังคมยุคสมัยใหม่นี้ เรียกได้ว่า ได้ห่างไกลจากแหล่งน้ำไปเสียจนห่างไกล ไม่เหมือนสมัยโบราณทำให้ผู้คนยุคนี้ปากกัดตีนถีบ หากเงินกันอย่างบ้าคลั่ง และนอกจากนี้ หลักของฮวงจุ้ยก็ถือว่า”ถนนและประตู” หรือทางเดิน
ก็คือประตูของโชคลาภที่จะเข้ามา และถนนจะเป็นตัวเคลื่อนไหวของชี่ ประตูก็คือการ เก็บชี่เข้ามา นี่คือจุดสำคัญที่จะก่อเกิดโชคลาภเข้ามาในบ้าน และสิ่งที่ควรระวังในเรืองฮวงจุ้ยที่จะส่งผลกระทบต่อ โชคลาภภายในบ้านมีดังนี้
1.บ้านที่กระจายลมทั้งแปดทิศหมายความว่าบ้านของคุณอาจจะอยู่โดดเดี่ยวโล่งกว้างทั้ง 4 มุมของบ้าน ไม่มีสิ่งก่อสร้างหรือต้นไม้มาบดบัง บ้านแบบนี้ฮวงจุ้ยเรียกว่า “บ้านกระจายลม 8ทิศ “หรือเรียกว่า”ลมผ่านท้องพระโรง” หรือหากมีที่โล่งกว้างรอบบ้านเพียง 3 ทิศก็ถือว่าเป็นเช่นเดียวกัน ลักษณะบ้านเช่นนี้จะโดนลมกระทบมาจากทั้ง 8 ทิศ ทำให้เก็บกักชี่เอาไว้ไม่อยู่ ทำให้ยากจนค่นแค้น เก็บเงินทองไม่อยู่ พอมีเงินก็ต้องมีเรื่องที่ต้องใช้จ่ายเงินนั้นออกไปก็คือ เก็บเงินเอาไว้ไม่อยู่ ยากจนตลอดชีวิต และห้องชุดในอาคารสูงๆก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน หรือเป็นห้องๆเดี่ยวทั้งชั้น มีที่ว่างรอบด้านทั้ง 4ทิศไม่มีอาคารหรือตึกสูงมาช่วยบัง และต้องโดนลมกระทบถูกทั้ง 8ทิศ ส่วนบ้านที่อยู่อาศัยที่ชอบเปิดประตูหน้าต่างทิ้งเอาไว้ตลอดเวลา หรือทำให้ห้องมีลมทะลุผ่านอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้นว่าจะไม่ทำให้ยากจนแต่ก็ทำให้เงินไม่พอใช้ มีเงินเข้าผ่านมือแล้วก็ออกไป เก็บเงินไม่อยู่ นอกจากนี้ก็ไม่ควรเปิดประตูหน้าต่างชนกัน หรือเปิดตรงกับประตูหน้าต่างอีกฝั่งหนึ่ง ก็จะทำให้ห้องที่เราอยู่กลายเป็นทางเดินของลมก็จะทำให้เก็บเงินไม่อยู่
วิธีแก้ไข บ้านที่มีลักษณะข้างต้นที่เปิดโล่งกว้างทั้ง 4ทิศ ก็ควรปลูกต้นไม้มาช่วยปิดบัง โดยเฉพาะไม้ยืนต้นที่เติบโตมั่นงคง มีรากแก้ว ช่วยปิดบัง เอาไว้สัก 2-3 ด้านจะช่วยได้มากและก็ต้องระวังไม่ให้ต้นไม่บังแสงแดด หรือทำให้บ้านมืดครึ้มมากจนเกินไป
2.ห้องรับแขกในบ้านของคุณเล็กมากจนเกินไป
ห้องรับแขกในบ้าน ตามหลักฮวยจุ้ยเรียกว่า “หมิงถัง” หรือ”เหม่งตึ๊ง” หรือ ท้องพระโรง ซึ่งทำหน้าที่เก็บกักชี่ภายในบ้านและถ้าหากว่าห้องรับแขกของบ้านคุณมีขนาดเล็กมากจนเกินไป เก็บกักขี่เอาไว้ไม่อยู่ โชคลาภก็จะไม่เพิ่มพูน แต่ถ้าหากว่าห้องรับแขกมีขนาดใหญ่ แต่ถูกสิ่งของที่จัดวางเอาไว้ไม่เป็นระเบียบ อึดอัด คับแคบก็จะส่งผลเสียเช่นเดียวกัน
3.ห้องรับแขกในบ้านของคุณ มืดอับและแสงสว่างไม่เพียงพอ
อย่างที่กล่าวมาแล้วในข้างต้นว่าห้องรับแขกมีผลต่อโชคลาภในบ้านมากเพียงใด และถ้าหากห้องรับแขกของคุณมีแสงน้อย หรือมืดอับ ทำให้เกิดพลังหยินเข้าครอบคลุม กดดันพลังหยาง ทำให้อับโชค โชคลาภไม่เข้ามา ควรจะได้รับการแก้ไขโดยการ เพิ่มช่องแสง หรือเปิดหน้าต่าง หรืออาจจะใช้หลอดไฟช่วยเพิ่มความสว่างด้วยก็จะดี
4.ห้องหับภายในบ้านสกปรกรกรุงรัง
อันนี้ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าบ้านไหน มีสิ่งของสกปรกรกรุงรัง นานปีไม่เคยเก็บกวาดทำความสะอาด ก็จะเป็นที่อยู่อาศัยของชี่ที่ไม่ดี หรือเรียกว่า “ฮุ่ยชี่” สิ่งนี้ก็จะทำลายโชคลาภของคนในบ้านเพราะที่ที่สกปรกรกรุงรัง จะไม่สามารถเก็บกักชี่ที่เป็นมงคลได้
5.การเลี้ยงปลาปลูกต้นไม้ อย่างไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย
หลายๆคนเคยได้ยินมาว่าการเลี้ยงปลาและปลูกต้นไม้ประดับภายในบ้านจะช่วยเสริมฮวงจุ้ยโชคลาภก็เลยพากันเลี้ยงปลา หาตู้ปลามาจัดวางกันใหญ่ หรือไม่ก็นำกระถางต้นไม้ มาประดับจนเปรอะไปหมด ก่อนอื่นเราก็ต้องควรรู้ว่าการ จัดวางตู้ปลา หรือ วางไม้ประดับเพื่อเสริมฮวงจุ้ยโชคลาภนั้นมีเงื่อนไขอยู่หลายๆประการ ไม่ใช่ว่าจะเอาไปวางตรงไหนก็ได้ สิ่งที่สำคัญในการจัดวางตู้ปลาและต้นไม้ให้เสริมโชคลาภนั้น 1.จะต้องมีขนาดให้เหมาะสมกับบ้านที่อยู่อาศัย 2.อยู่ในตำแหน่งที่อากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงสว่างส่องถึง 3.จะต้องวางเอาไว้นตำแหน่งที่เป็นมงคลของบ้านถ้าหากไม่อยู่ในเงื่อนไข 3 ข้อข้างต้น การจัดวางตู้ปลา และต้นไม้ ไม่อาจจะนำโชคลาภมาสู่บ้านได้ และอาจะทำให้คนในบ้านสูญเสียโชคลาภได้อีกด้วย
ฮวง จุ้ย บ้าน หากต้องการเชิญ อาจารย์ ไปตรวจแก้ฮวงจุ้ย บ้าน ร้านค้า ออฟฟิต กรุณาติดต่อ คุณกมล (บอย) โทรศัพท์ : 085-832-8228 Line@astroneemo
กลับสู่หน้าหลัก https://savecyber.com