TEIN โช๊คอัพ 

 

TEIN  โช๊คอัพ  เป็นอีกสิ่งหนึ่งของคนที่ชอบแต่งรถมักจะทำเป็นอย่างแรกๆ รวมถึงเจ้าของรถยนต์อีโคคาร์ด้วย เพราะโช็คอัพที่ให้มามันนุ่มนวลจนบางรุ่นบางยี่ห้อออกจะนุ่มและนิ่มจนเกินไป เค้าโค้งด้วยความเร็วอาจจะมีอาการโยนและโคลงให้ได้สัมผัส แต่ผมไม่ได้บอกว่าโช๊คอัพเดิมจากโรงงานไม่ดีนะครับ เพียงแต่เค้าปรับเซ็ทมาให้เราขับสบายนุ่มนวลที่สุด คือมันดีมากสำหรับท่านที่ขับรถไม่เร็วมากไปเรื่อยๆดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี ไม่แข็งกระด้าง แต่มันอาจจะไม่เหมาะกับท่านที่ชอบขับรถเร็ว เค้าโค้งด้วยความเร็ว และไม่ชอบช่วงล่างโช๊คอัพที่นุ่มนิ่ม

 

โช็คอัพช่วงล่างคุณภาพแบรนชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น คุณภาพสูง โช็คเป็นแบบ Twintube เป็นโช็คอัพที่ออกแบบมาให้สามารถใช้กับสปริงเดิมติดรถได้เลย ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งความนุ่มและหนึบได้อย่างแท้จริง ซึ่งทาง TEIN จะมีรุ่นยอดฮิตหลักๆอยู่ 5 รุ่น คือ Endurapro,Endurapro Plus+,Street Advance Z,Flex A และ Flex Z นั้นเองซึ่งจริงๆแล้ว TEIN ไม่ได้ทำแค่โช๊คอัพเท่านั้น แต่ยังมีทั้ง สปริงโหลดรถยนต์และ กล่องควบคุมการปรับโช็คอัพไฟฟ้าภายในห้องโดยสาร ทางร้าน RePower เป็นตัวแทนจำหน่ายโช๊ค TEIN อย่างเป็นทางการ มาดูความแตกต่างของ แต่ละรุ่นกันครับ

 

✴️TEIN ENDURAPRO โช็คอัพความสูงเท่าเดิมประสิทธิภาพสูงที่ตั้งค่า Pre-Loadที่เหมาะสมกับรถยนต์จากโรงงานและออกแบบมาให้ใส่กับสปริงเดิมติดรถได้เลย

✴️TEIN ENDURAPRO PLUS+ โช็คอัพความสูงเท่าเดิมประสิทธิภาพสูงที่สามารถปรับค่าความหนืดได้ 16 ระดับและออกแบบมาให้ใส่กับสปริงเดิมติดรถได้เลย

✴️TEIN STREET ADVANCE Z   เป็นแบรนด์โช๊คอัพที่โด่งดังมากจากประเทศญี่ปุ่น คนไทยก็ฮิตมากเช่นกัน เพราะถ้าใครคิดจะเปลี่ยนโช็คละก็แบรนด์แรกที่คิดออกก็คงไม่พ้น TEIN สำหรับ STREET ADVANCE เป็นโช๊คแก๊สกึ่งน้ำมัน โช๊คสตรัทปรับเกลียว สามารถปรับสูง – ต่ำได้ ปรับความหนืดได้ 16 ระดับ และเป็นโช๊คสเปคที่พัฒนาให้ถนนเมืองไทยโดยเฉพาะราคากลางๆพอจับต้องได้ และถูกออกแบบมาให้เหมาะกับถนนเมืองไทย และรองรับการทำงานร่วมกับ EDFC 

✴️TEIN FLEX Z โช็คอัพสตรัท สไลด์กระบอกที่สามารถปรับความหนืดได้ 16 ระดับ ที่ช่วยให้ครอบคลุมทุกสภาวะการขับขี่ และเหมาะสมสำหรับท่านที่ชอบใช้ความเร็วสูง

✴️TEIN FLEX A โช็คอัพสตรัท สไลด์กระบอกที่เหมาะกับผู็ที่ชื่นชอบการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ด้วยระบบ H.B.S ที่ช่วยให้การขับขี่ได้สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม

 

โช๊คเดิมโมดิฟาย Tein Street Advance Z

 

สำหรับท่านที่อยากจะโหลด และต้องการฟิลลิ่งแน่น หนึบ แต่งบประมาณมีไม่มาก มันก็มีวิธีทำครับแต่ผมไม่ค่อยอยากแนะนำเท่าไหร่นัก มันทำได้ด้วยการ อัดโช๊ค ตัดสปริง หรือไม่ก็เอาโช๊คและสปริงเดิมไปแปลงเป็นสตรัทปรับเกลียว การอัดโช๊คถ้าทำได้ตามมาตรฐานมีการทดสอบดีๆ มันก็พอใช้ได้ครับ ส่วนการตัดสปริงเป็นวิธีที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะการตัดสปริงด้วยแก๊สทำให้สปริงเสียความยืดหยุ่น แข็งกระด้าง พร้อมหักและแตกได้ทุกเมื่อ!!อันตราย ดังนั้น โช๊คและสปริงซิ่งถึงถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเพิ่มสมรรถนะการยึดเกาะถนน ปัจจุบัน มีหลายแบรนด์ให้เลือก ตั้งแต่ญี่ปุ่นแท้ๆ ก็แพงหน่อย หรือ จากไตหวันก็ราคาถูกหน่อย และยังมีแบรนด์คนไทยที่ได้มาตรฐานอีกราคาซื้อหาไหวแน่นอน

 

เดี๋ยวนี้ โช๊คอัพ พัฒนาไปมากโช๊คซิ่งสมัยนี้สามารถปรับความหนืดได้หลายระดับ และไม่แข็งกระด้างเหมือนยุคเก่าๆ เพราะหลายแบรนด์ก็มาพัฒนาและออกแบบให้เหมาะสมกับถนนเมืองไทย เพราะเมืองไทยถนนสุดยอดที่สุดแล้ว หลุมบ่อเพียบผ่านเมืองไทยได้ถือว่าโช๊คอัพแบรนด์นั้นอึด ทึก ทน ครับ รวมถึงวัสดุที่พัฒนามากขึ้น ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างมั่นใจมากขึ้น โช๊คอัพสมัยนี้พัฒนาออกมาได้คุณภาพใกล้เคียงกันหมดทุกแบรนด์แล้วครับสมัยนี้ ขึ้นอยู่กับบริการหลังการขาย และศูนย์ซ่อมมาตรฐานใครดีกว่าใครก็เท่านั้น

 

โช๊คประเภทนี้ถ้าคุณดวงดีเจอร้านเทพๆ ที่แกะมาโมดิฟายแล้วปัญหาน้อยงานจบในครั้งเดียวคุณก็โชคดีไป ฟิลลิ่งมันคล้ายโช๊คแต่งแบบปรับความสูงไม่ได้ แต่ราคาถูกกว่า ประหยัดงบ แต่ถ้าเจอร้านแบบทำไม่จบทำไปทำมาปวดหัวเสียเวลาแถมเผลอๆแก้ไปมาราคาอาจจะสูงกว่าโช๊คแต่งแบบปรับความสูงไม่ได้ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นถ้าคิดอยากได้โช๊คประเภทนี้คิดดูให้ดีๆก่อน

 

Tein Street Advance Z โช้คอัพที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้ 

 

  1. โช้คอัพน้ำมัน ใช้น้ำมันไฮดรอลิกในการเป็นตัวช่วยสร้างความหนืด โดยแบ่งเป็นน้ำมัน 80% ส่วนที่เหลือเป็นอากาศ ขณะที่โช้คกำลังทำงาน น้ำมันจะไหลผ่านวาล์วภายในลูกสูบ ทำให้เกิดเป็นฟองอากาศขึ้น ช่วยให้รถยนต์ทรงตัวได้ดี มีความนุ่มนวล เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป
  2. โช้คอัพแก๊ส อาศัยการทำงานร่วมกันของน้ำมันไฮดรอลิกและแก๊สไนโตรเจน เนื่องจากแก๊สไนโตรเจนเป็นก๊าซเฉื่อย มีโมเลกุลขนาดใหญ่ คุณสมบัติจึงดีกว่าอากาศ ช่วยลดฟองอากาศในน้ำมัน ทำให้คงความหนืดไว้เท่าเดิม รวมถึงระบายความร้อนได้ดี และช่วยยืดอายุลูกสูบภายในกระบอกโช้คให้ยาวนานขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปที่ต้องการเพิ่มสมรรถนะให้กับช่วงล่างของรถยนต์

สัญญาณเตือนเมื่อโช้คอัพกำลังมีปัญหา

  1. หน้ายางรถยนต์สึกหรือเรียบไม่เท่ากัน
  2. มีน้ำมันรั่วซึมจากตัวโช้คอัพ โดยสังเกตได้จากการเกาะของฝุ่นหรือเศษดินบริเวณที่มีการรั่วซึม
  3. มีอาการกระเด้งขึ้น-ลงระหว่างขับขี่ผ่านลูกระนาด คอสะพาน หรือบนพื้นผิวถนนที่ขรุขระ รับรู้ได้ถึงแรงกระแทกที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
  4. มีอาการหน้ารถเชิดขึ้นขณะที่ออกตัวด้วยความเร็วปกติ และหน้ารถทิ่มลงเมื่อมีการเบรกในความเร็วต่ำ บ่งบอกถึงอาการเสื่อมสภาพของโช้คอัพรถยนต์
  5. แกนโช้คอัพอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ เช่น คดงอ บิดเบี้ยว หรือรั่ว เป็นต้น
  6. เมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะรับรู้ได้ถึงการเสียการทรงตัวของรถยนต์ มีการแกว่งออกด้านข้าง

 

Tein Street Advance Z

 

⚡️สามารถปรับความนิ่มแข็งได้ถึง 16 ระดับ

⚡️โชคอัพรุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมกับโครงสร้างใหม่ที่ใช้ระบบ Zeal ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับพื้นถนนเมืองไทยราคาไม่แพงบริเวณเกลียวสามารถปรับความสูงได้และยังเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อนของสนิมได้ดีด้วยเทคโนโลยี ZT Coat

⚡️สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นตามไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยม

⚡️รองรับการทำงานร่วมกับEDFC ได้และออกแบบค่าความนิ่มความแข็งและทดสอบจากโรงงานผลิตโดยเลือกใช้ Advance Needle เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการปรับจูนความนิ่มความแข็งเพื่อให้ครอบคลุมทุกสภาวะในการขับขี่

 

savecyber.com

profender pajero sport โช๊ค Profender ผลิตจากประเทศไทย ที่ส่งออกแล้วทั่วโลก รวมถึงอเมริกา และ ยุโรป

 

profender pajero sport – Profender เป็นโช๊คผลิตจากประเทศไทย ที่ส่งออกแล้วทั่วโลก รวมถึงอเมริกา และ ยุโรป ส่วนใหญ่ตัวโช๊คจะเป็นระบบ Monotube ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งความนุ่มและหนึบช่วยลดอาการโคลงเคลง ที่จะชอบมีในรถ Pickup และ PPV ซึ่งโช๊ค Profender มีรุ่นและคุณสมบัติ ดังนี้

✴️Profender Monotube2.0 ปรับระดับนุ่มแข็งไม่ได้ คู่หน้าปรับสูงต่ำได้ 

✴️Profender Monotube Subtank เป็น Subtank แยก ปรับนุ่มแข็งได้ 8 ระดับ คู่หน้าปรับสูงต่ำได้

✴️Profender Queenseries มี Subtank ในตัว คู่หน้าปรับสูง-ต่ำได้และปรับนุ่มแข็งได้ 16 ระดับมาพร้อมสปริง คู่หลังปรับนุ่มแข็งได้ 8 ระดับ 

✴️Profender OEM2.5 เป็น Subtank แยก ปรับนุ่มแข็งได้ 8 ระดับ คู่หน้ามาพร้อมสปริง ปรับสูงต่ำได้ (แต่โหลดเตี้ยกว่า STD ไม่ได้)

 

PROFENDER ซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม

รถกระบะส่วนใหญ่เมื่อขับแล้วจะรู้สึกถึงแรงกระด้างมากกว่ารถธรรมดา เนื่องจากผู้ผลิตได้ออกแบบมาให้บรรทุกของหนัก ๆ หากใครที่ใช้รถกระบะในชีวิตประจำวันอาจจะรู้สึกหงุดหงิดกับการสะเทือนนี้เพราะด้านหลังเป็นแหนบที่ออกแบบมาเพื่อใช้บรรทุกและมีความนุ่มนวลน้อยกว่าระบบสปริง แต่หากผู้ใช้รถเลือกใช้โช๊คอัพ PROFENDER รุ่นโมโนทิวบ์ ตัวโช๊คจะมีแรงดึงสูง มีความสามารถรั้งแรงดีดที่เกิดจากการขนของหนัก ซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ช่วยลดการโยนตัวของรถ ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกมั่นคงและมั่นใจระหว่างขับขี่ profender pajero sport

 

PROFENDER ประสิทธิภาพดีไม่มีตก

ลูกสูบของโช๊คอัพรุ่นโมโนทิวบ์เป็นแบบ High Flow สามารถตอบสนองต่อแรงภายนอกฉับไว ทันที สามารถขับเปลี่ยนเลนไว ๆ ได้แบบไม่อันตราย ถึงแม้จะขับต่อเนื่องยาวนานติดต่อกัน ประสิทธิภาพก็ดีไม่มีตก วิ่งนานไม่มีเหนื่อย เนื่องจากตัวโช๊คระบายความร้อนได้เองอย่างรวดเร็ว น้ำมันในโช๊คไม่เป็นฟองเพราะมีแรงดันสูงบีบอัดฟองให้หายไป ซึ่งฟองอากาศเนี่ยแหละเป็นตัวร้ายที่ทำให้ประสิทธิภาพโช๊คตก และเสื่อมสภาพได้เร็ว

 

PROFENDER แรงดันสูงแต่ไม่กระด้าง

ใครที่เข้าใจผิดคิดว่าโช๊คอัพแรงดันสูงทำให้เกิดความกระด้าง ต้องทำความเข้าใจเสียใหม่ เพราะโช๊คอัพที่กระด้างเกิดจากการจูนวาล์วที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงการใส่ค่าสปริงที่แข็งเกินไป ไม่เกี่ยวกับระบบแรงดันสูงของโช๊คเลย เพราะแรงดันสูงที่โช๊คไม่เพียงพอต่อการกดของน้ำหนักรถลงทั้งคัน อีกอย่างโช๊คอัพ PROFENDER เป็นลูกสูบ High Flow สามารถเซ็ทให้นุ่มนวลได้ บอกได้เลยว่าจะติดโปรเฟนเดอร์ที่รถรุ่นไหนก็ขับได้อย่างปลอดภัย สบายใจทุกคัน

 

PROFENDER เสียแล้วอย่าทิ้ง ส่งซ่อมได้

โช๊คอัพโมโนทิวบ์ของแบรนด์นี้ หากใช้ไปสักระยะแล้วรู้สึกว่าโช็คมีปัญหาหรือซับประสิทธิภาพการทำงานไม่ดีเท่าเดิม อย่าทิ้ง! เพราะสามารถส่งซ่อมได้ ช่างจะตรวจสอบและเลือกดูว่าชิ้นไหนสามารถเปลี่ยนได้หรือชิ้นไหนที่ใช้งานได้ปกติ จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนโช๊คใหม่ทั้งชิ้น หลังจากซ่อมแล้วทางร้านจะรับประกันสินค้าให้เป็นระยะเวลา 6 เดือน แต่ถ้าอยากอัพเกรดโช๊คใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมก็สามารถปรึกษาช่างได้ตอนที่เปลี่ยนโช๊ค ประหยัดและคุ้มค่าอย่างแท้จริง

 

บริษัท Profender เป็นบริษัทจากจังหวัดนครปฐมที่มีอายุมานานแล้วถึง 14 ปีด้วยกัน คุณธงชัยเป็นรุ่นลูกที่มาสานต่อในการทำธุรกิจต่อจากคุณพ่อ ซึ่งช่วงเวลาที่มาสานต่อธุรกิจนี้เป็นช่วงที่บริษัทอุตสาหกรรมจากประเทศจีนเริ่มมาทำการตลาดในประเทศไทยแล้ว ราคาวัสดุต่างๆ ถูกกว่าบริษัทของไทยมากๆ คุณธงชัยจึงเริ่มแผนการในการพลิกวิกฤตจากการที่อุตสาหกรรมจีนมาตีตลาดในตอนนั้นด้วยขั้นตอนเหล่านี้

1. เริ่มต้นสำรวจตลาดธุรกิจโลก

เกิดอะไรขึ้นบ้างกับธุรกิจโช๊คอัพในช่วงเวลานั้น ยังมีตลาดตรงไหนที่บริษัท Profender สามารถเข้าไปทำการตลาดได้บ้าง และมันก็เป็นโชคดีของคุณธงชัยเมื่อภรรยาของคุณธงชัย ไปเจอว่า โช๊คอัพที่ยังสามารถทำการตลาดได้อยู่คือ การทำโช๊คอัพรถแข่ง คุณธงชัยจึงตัดสินใจเริ่มศึกษาและผลิตสินค้าต้นแบบไปขายในต่างประเทศทันที และมันก็ได้รับการตอบรับและการชื่นชมจากต่างชาติเป็นอย่างมากว่า นี่คือโช๊คอัพที่ดีที่สุดอีกหนึ่งยี่ห้อของพวกเขา

2. พัฒนาสินค้าให้ทันตามโลกตลอดเวลา

เคล็ดลับนี้คุณธงชัยถือว่าเป็นเคล็ดลับที่ Profender เป็นเจ้าแรกที่ทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นในตลาดของโช๊คอัพ เพราะส่วนใหญ่หลายๆ แบรนด์จะออกสินค้าเก่าแค่พัฒนานิดหน่อย แต่ของ Profender จะพัฒนาทุกอย่างใหม่พร้อมรองรับผู้ใช้หลายๆ แบบตลอดเวลาและก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งานมาตลอด

3. ให้ตีตลาดรอบนอกและค่อยย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้น

การทำธุรกิจของ Profender อาจจะไม่เหมือนกับการทำธุรกิจหลายๆ แบบที่ประสบความสำเร็จในไทยก่อนหน้านี้ เพราะ Profender เลือกที่จะใช้การตีตลาดในต่างประเทศก่อน ในประเทศอังกฤษ ออสเตรเลีย และหลายๆ ประเทศในทวีปยุโรปทำให้ชื่อเสียงของ Profender สามารถเติบโตได้รวดเร็วและเป็นที่รู้จักได้ไว ก่อนที่จะย้อนกลับมาทำธุรกิจให้ในประเทศไทยให้แข็งแรงด้วยการเปิด Profender Center ทั่วประเทศ 30 แห่งด้วยกัน

4. สร้างคนในองค์กรให้ถือคติ “เอาใจเขา มาใส่ใจเรา”

ประโยคนี้ถือว่าเป็นประโยคที่คุณธงชัยได้กำหนดให้พนักงานทั้ง 600 คนของ Profender ทุกคนได้เข้าใจและบอกทุกคนเสมอว่า ทำอะไรทุกอย่างต้องทำให้เต็มที่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ทุกครั้ง อย่าทำเพื่อให้ผ่านพ้นไป แต่จงทำให้ลูกค้าประทับใจและอยากกลับมาใช้งานผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้มากที่สุด อีกทั้งยังมีการเก็บผลสำรวจจากลูกค้าอยู่บ่อยครั้งทำให้ Profender สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวเองได้ตลอดเวลา

ขั้นตอนทั้งหมดนี้จึงถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ Profender ตลอด 14 ปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้คุณธงชัยได้พูดถึงเกี่ยวกับการพลิกวิกฤตและแก้ไขสถานการณ์ในช่วงที่โควิด 19 กำลังระบาดไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงมักเกิดขึ้นเสมอ แต่เราต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับเรื่องราวแบบนี้ตลอดเวลา Profender เองก็เช่นกัน บริษัทมียอดขายต่างๆ ที่ตกลง แต่ทางบริษัทเลือกที่จะใช้ช่วงเวลาที่หายไปเหล่านี้พัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมาอย่างรวดเร็วจากปกติใช้เวลาในการพัฒนาสินค้า 6 เดือน เหลือเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น ตรงนี้เองจึงทำให้ธุรกิจนี้สามารถกลับมาทำกำไรได้ในปี 2563 เกือบ 50 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นแล้วตรงนี้ คุณธงชัยจึงบอกว่า ทุกธุรกิจต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวจากเดิมให้มากๆ จากเหตุการณ์นี้แน่นอนไม่มีใครอยากเจอเหตุการณ์นี้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเราต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงไป ทดลองทำสิ่งใหม่ๆ ลองทำอะไรใหม่ๆ จากเดิมที่ตนเองถนัดและศึกษามาตรงนี้เองก็สามารถช่วยธุรกิจของตัวคุณเองได้เช่นกัน

 

Profender Monotube2.0 + Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ MITSUBISHI PAJERO SPORT

โช๊ค คู่หน้า Profender Monotube2.0

คู่หลัง Profender Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ

MITSUBISHI PAJERO SPORT

-โช๊คอัพ ระบบโมโนทิวป์ (Monotube 2.0)

-แกน ขนาด 16 มิล กระบอกชั่นเดียว

-มีลูกสูบ sub-tank แยกห้องระหว่างน้ำมันกับ แก๊สออกจากกันอย่างชัดเจน

-ระบบไนโตรเจนแรงดันสูง 100-200 psi

-ลูกสูบขนาด 46 mm

-กระบอกซับแท้งค์ ทำจากอลูมิเนียมเกรดเครื่องบิน 6061t6 แข็งแรง

-กระบอกซับแท้งค์ ช่วยระบายความร้อนได้ดีและเร็วกว่า โมโน2.0

-กระบอกซับแท้งค์ ช่วยสำรองปริมาณนำ้มันที่มากขึ้นกว่าระบบโมโน2.0ถึง 25%-30%

 

savecyber.com

ล้อแม็ก auto option

 

ล้อแม็กอาจเป็นเพียงอุปกรณ์ประดับรถยนต์ให้สวยงามเท่านั้น แต่เบื้องลึกมีผลกระทบทั้งด้านเด่นและด้อยอีกมากมาย เพราะล้อแม็กต้องถูกห่อหุ้มด้วยยางที่หมุนอยู่ตลอดกา รขับเคลื่อน และยึดติดอยู่กับระบบช่วงล่างซึ่งทำหน้าที่หลักในการ ทรงตัว

 

auto option พื้นฐานของล้อแม็กถูกพัฒนาขึ้นต่อเนื่องจากการใช้กระทะล้อเหล็กแบบดั้งเดิม โดยนำวัสดุที่มีน้ำหนักเบามาผลิตเป็นกระทะล้อ แทนการผลิตแบบเหล็กอัดขึ้นรูปแล้วนำมาเชื่อมประกบกัน แมกนีเซียมเป็นวัสดุที่ถูกนำมาผลิตแทนเหล็กเป็นกระทะ ล้อแบบใหม่ ตั้งแต่หลายสิบปีที่ผ่านมาการลดน้ำหนักกระทะล้อลงมีห ลายจุดประสงค์ อาจมีเพียงจุดประสงค์เดียวหรือหลายจุดประสงค์ร่วมกัน จากคุณสมบัติเด่นของล้อแม็กดังนี้

 

ช่วยระบายความร้อน 

เหล็กอมความร้อนมากกว่าแมกนีเซียมหรืออะลูมินั่มอัลล อย เมื่อกระทะล้อร้อน ยางก็ร้อนตาม และจานเบรก-ผ้าเบรกที่อมความร้อนก็จะลดแรงเสียดทานในการเบรกลง จุดประสงค์นี้มักเน้นในวงการรถแข่ง

 

ลดภาระระบบช่วงล่าง 

เช่นเดียวกับการยืดแขนตรงออกไปแล้วมีสิ่งของหนักหรือ เบาแขวนอยู่ที่มือ สิ่งของน้ำหนักเบาย่อมเบาแรงและขยับแขนได้ง่ายกว่า นอกจากนั้นยังเพิ่มอายุการใช้งานของระบบช่วงล่างได้เ ล็กน้อยอีกด้วย

 

ลดแรงต้านการหมุน 

auto option กระทะล้อและยางที่มีน้ำหนักมากย่อมหมุนได้ยากกว่า หากลดแรงต้านได้ อัตราเร่งจะดีขึ้น และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

 

สามารถเพิ่มขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ 

เพื่อใส่จานดิสก์เบรกขนาดใหญ่มากๆ หรือเพื่อความสวยงาม โดยยังสามารถควบคุมน้ำหนักของกระทะล้อไว้ได้จากวัสดุ น้ำหนักเบา จุดประสงค์นี้มักเน้นในวงการรถแข่งหรือรถยนต์ทั่วไปที่อยากเพิ่มความสวยหรืออยากใส่ยางแก้มเตี้ยลงแต่ต้องการรักษาเส้นรอบวง เดิมไว้

 

ความสวยงาม 

วัสดุที่นำมาผลิตล้อแม็กมีสีเงินวาววับ และสามารถออกแบบลวดลายได้หลากหลาย ต่างจากกระทะล้อเหล็กที่ต้องพ่นสีทับและมีลวดลายจำกั ด แท้จริงแล้วจุดประสงค์นี้เป็นผลพลอยได้ แต่กลายเป็นจุดเด่นหลักของล้อแม็กไปแล้ว

 

การผลิต                  

ในอดีตล้อแม็กได้รับความนิยมในกลุ่มรถแข่ง และมีจำหน่ายไม่แพร่หลายนัก เพราะมีต้นทุนการผลิตสูงจากความซับซ้อนของกระบวนการผ ลิต และโลหะแมกนีเซียมที่มีน้ำหนักเบามากๆ แม้มีราคาแพง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะรถแข่งมีค่าใช้จ่ายเหลือเฟือ ซึ่งต้องการลดแรงต้านการหมุนให้น้อยที่สุด และความร้อนจากจานเบรกก็สูงมาก

 

เมื่อความสวยงามกลายเป็นจุดเด่นของการเลือกใช้ล้อแม็ กสำหรับรถยนต์ทั่วไป อะลูมินั่มอัลลอยที่มีราคาถูกกว่า ผลิตง่าย และมีน้ำหนักพอเหมาะ จึงถูกนำมาทดแทนในการผลิตล้อแม็ก (แต่แยกออกไปเป็นหลายระดับราคาและคุณภาพ) ผู้ผลิตล้อแม็กคุณภาพสูง ชื่อดัง ราคาแพง มักเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง เพื่อให้ทนทานต่อแรงกระแทก โดยในขั้นตอนการหลอมมีการผสมระหว่างวัสดุหลัก คือ อะลูมินั่มอินกอต, แมกนีเซียม, สตอนเซียม และซิลิกอน ตามสูตรอันแตกต่างของผู้ผลิตแต่ละราย

 

ล้อแม็กที่ผลิตจากอะลูมินั่มอัลลอย ได้รับความนิยมต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า -ล้อแม็ก- ซึ่งย่อมาจาก -ล้อแมกนีเซียม- แม้ไม่ได้มีการผลิตด้วยแมกนีเซียมเป็นหลักแล้วก็ตาม

 

แบ่งตามวิธีผลิต 

มี 3 วิธีหลัก แตกต่างกันไปตามคุณภาพ ความยุ่งยากในการผลิต และต้นทุน

 

ตักเท

คุณภาพไม่สูง แต่ผลิตสะดวก ใช้เครื่องมือไม่ซับซ้อนและต้นทุนต่ำ หลอมเนื้อวัสดุด้วยความร้อนจนเหลว เทจากด้านบนลงสู่แม่พิมพ์ด้านล่าง เมื่อแข็งตัวแล้วถอดออกมากลึงให้เรียบ เจาะรู และเสริมความสวยต่อไป ล้อแม็กที่ผลิตด้วยวิธีนี้มีราคาถูก เนื้อไม่แน่น อาจมีฟองอากาศที่ไม่สามารถไล่ออกได้แทรกอยู่ภายใน จึงไม่ค่อยแข็งแรงและคด-แตกง่าย แพร่หลายที่สุดเพราะราคาถูก ถ้าเป็นอะลูมินั่มอัลลอยคุณภาพสูงและมีความละเอียดใน การผลิต ก็พอใช้ได้

 

แรงดันตํ่า

คุณภาพดี ต้นทุนสูง และมีราคาเหมาะสมกับความแข็งแรง แม่พิมพ์อยู่ด้านบน หลอมอะลูมินั่มอัลลอยด้วยความร้อนจนเหลวที่เตาด้านล่ าง ส่งผ่านท่อซึ่งต่อขึ้นสู่แม่พิมพ์ด้านบนด้วยแรงดันต่ ำพอเหมาะ ไม่น้อยหรือช้าเกินไปจนเต็ม เพื่อไล่ฟองอากาศจากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบน เมื่อแข็งตัวเรียบร้อยแล้วถอดออกมากลึงเรียบ เจาะรู และเสริมความสวยต่อไปได้รับความนิยมทั้งจากผู้ผลิตแล ะผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะล้อแม็กมีเนื้อแน่น ฟองอากาศน้อย แข็งแรงทนทานต่อการคด-แตก ถ้ามีโอกาสควรเลือกใช้

 

แรงดันสูง

คุณภาพดี ต้นทุนสูง และราคาแพง แม่พิมพ์ปิดผนึก หลอมอะลูมินั่มอัลลอยด้วยความร้อนจนเหลว ส่งผ่านท่อซึ่งต่อเข้าสู่แม่พิมพ์ด้วยแรงดันสูงจนเต็ ม พร้อมไล่ฟองอากาศออกไป เมื่อแข็งตัวเรียบร้อยแล้วถอดออกมากลึงเรียบ เจาะรู และเสริมความสวยต่อไป ได้รับความนิยมจากทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคไม่มากนัก แม้ล้อแม็กมีเนื้อแน่น ฟองอากาศน้อย แข็งแรงทนทานต่อการคด-แตก แต่ต้นทุนเครื่องมือสูงเกินความเหมาะสมกับคุณภาพที่ไ ด้ เลือกล้อแม็กที่ผลิตด้วยวิธีแรงดันต่ำที่ดีก็เพียงพอ แล้ว

 

แบ่งตามจำนวนชิ้น/วง

 

1 ชิ้น และ 2-3 ชิ้น (ไม่นับชิ้นที่ปิดดุมหรือนอตตรงกลาง) ล้อแม็กแบบ 1 ชิ้น แพร่หลายและได้รับความนิยมที่สุด เป็นชิ้นเดียวทั้งวง การผลิตไม่ซับซ้อนและต้นทุนไม่สูง

 

ล้อแม็กแบบแยกชิ้น

มีจุดประสงค์หลักคือต้องการลดน้ำหนัก หรือเพิ่มความสวย แต่มีราคาและต้นทุนสูง สามารถลดน้ำหนักได้โดยแยกหล่อชิ้นหน้าแปลนตรงกลาง และส่วนขอบใช้วิธีรีดวัสดุ เช่น อะลูมิเนียม ให้บางและเบา แล้วนำมาประกบกันด้วยการยึดนอตหรือเชื่อม เพราะการหล่อทั้งวงย่อมทำให้บางเบาหรือสวยไม่ได้เท่า การรีดขึ้นรูปส่วนขอบล้อแม็กแบบ 2 ชิ้น ผลิตขอบล้อ 1 ชิ้น และหน้าแปลนช่วงกลาง 1 ชิ้น

 

auto option ล้อแม็กแบบ 3 ชิ้น ผลิตขอบล้อ 2 ชิ้น แล้วนำมาเชื่อมกันก่อน หรือประกบยึดนอตพร้อมหน้าแปลนช่วงกลางอีก 1 ชิ้น

 

นอกจากล้อแม็กแบบแยกชิ้นมีความโดดเด่นในเรื่องการแยก ชิ้นผลิตเพื่อลดน้ำหนักแล้ว ยังสามารถแยกผลิตให้ล้อแม็กลวดลายเดียวมีหลายขนาดควา มกว้าง หรือความกว้างเดียวมีหลายลวดลาย ด้วยการจับคู่สลับกันระหว่างขอบล้อกับหน้าแปลนช่วงกล างอีกด้วยจำนวนชิ้นต่อล้อแม็ก 1 วง ยังเกี่ยวข้องกับความสวยงามและการแยกชิ้นซ่อมแซม ล้อแม็กหลายชิ้นมักดูสวยกว่า จนล้อแม็กชิ้นเดียวบางลวดลาย ออกแบบหลอกให้ดูเหมือนเป็นล้อแม็กหลายชิ้นด้วยการฝัง นอตตัวเล็กรอบๆ

 

ขนาด

การระบุขนาดของล้อแม็กมีอยู่ 2 จุดมีหน่วยเป็นนิ้ว คือ เส้นผ่าศูนย์กลาง หรือเรียกสั้นๆ ว่าขอบ…นิ้ว เช่น 13, 15,…นิ้ว ต้องพอดีกับเส้นผ่าศูนย์กลางของยาง (มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร) ที่จะนำมาใส่ และความกว้างหรือเรียกสั้นๆ ว่ากว้าง…นิ้ว มีหน่วยจำนวนเต็มหรือ .5 เช่น 5, 5.5, 8,…นิ้ว เกี่ยวข้องกับหน้ากว้างของยางที่จะนำมาใส่ เมื่อเรียกรวมกันจะระบุบนตัวล้อแม็ก เช่น ขนาด 6 X 15 นิ้ว หมายความว่าหน้ากว้าง 6 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง 15 นิ้ว

 

ระยะ PCD

PCD-PITCH CIRCLE DIAMETER หมายถึง ระยะห่างของรูนอตบนตัวล้อแม็กและดุมล้อที่ต้องเท่ากั น โดยวัดจากกึ่งกลางรูนอตทุกตัวลากเส้นเป็นวงกลม แล้ววัดผ่านเส้นผ่าศูนย์กลาง มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ถ้าเป็นจำนวนเลขคู่ 4 หรือ 6 รูนอตต่อ 1 ล้อ ก็สามารถวัดจากกึ่งกลางรูนอตด้านหนึ่งไปยังด้านตรงข้ ามได้เลย แต่ถ้าเป็นจำนวนเลขคี่ 3 หรือ 5 รูนอต ต้องวัดจากแนววงกลมกึ่งกลางรูนอตผ่านเส้นผ่าศูนย์กลาง

 

รถยนต์ขนาดเล็กมักมี 4 รูนอตต่อ 1 ล้อ และรถยนต์ขนาดใหญ่ขึ้นไปมักมี 5-6 รูนอต เพื่อความแน่นหนาในการยึดล้อเข้ากับดุมล้อ ระยะ PCD ของรถยนต์รุ่นใหม่แบบ 4 รูนอต นิยมที่ 100 มิลลิเมตร ส่วนระยะ PCD อื่นมีมากมาย เช่น 98, 108, 110, 114.3 (มาจาก 5 5/8 นิ้ว), 120, 130 มิลลิเมตร ฯลฯ

 

หากล้อแม็กกับดุมล้อมีระยะ PCD ไม่ตรงกัน มีหลายวิธีดัดแปลง เช่น เจาะดุม เจาะล้อแม็ก คว้านรูนอตเดิมแล้วอัดบู๊ชแบบเยื้อง และใส่อแดปเตอร์ ฯลฯ แต่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจด้อยกว่ามาตรฐานจนเกิดอาการล้อสั่นหรือไม่ได ้สมดุลขึ้นได้ และยังมีล้อแม็กหลายยี่ห้อหลายรุ่นให้เลือกอีกมากที่ มีระยะ PCD ตรงกับดุมล้อ หากชอบล้อแม็กลวดลายนั้นจริงอาจดัดแปลงได้ แต่ต้องใช้ฝีมือช่างและความละเอียดมากๆ (กลายเป็นเรื่องปกติของวงการตกแต่งรถยนต์ของคนไทยไปแ ล้ว)

 

ออฟเซต

OFFSET-ออฟเซต คือ ตำแหน่งของหน้าแปลนด้านหลังของล้อแม็กที่ต้องยึดติดกับดุมล้อ เมื่อเปรียบเทียบกับกึ่งกลางล้อแม็กด้านขวาง ระบุเป็นบวกหรือลบด้วยหน่วยมิลลิเมตรบนตัวล้อแม็กด้า นหน้าหรือด้านหลัง เช่น 0, +30, -25 ฯลฯ ล้อแม็กที่มีค่าออฟเซตเท่ากัน อาจยื่นออกมาจากดุมล้อไม่เท่ากัน ถ้าความกว้างของล้อแม็กไม่เท่ากัน เช่น ล้อแม็ก 2 วง มีค่าออฟเซต 0 มิลลิเมตรเท่ากัน คือ หน้าสัมผัสของล้อแม็กกับดุมอยู่ตรงกลางพอดี แต่วงหนึ่งมีความกว้าง 6 นิ้ว กับอีกวงมีความกว้าง 7 นิ้ว วงแรกจะยื่นออกมาจากดุม 3 นิ้ว และวงหลังจะยื่นออกมา 3.5 นิ้ว ทั้งที่มีค่าออฟเซต 0 มิลลิเมตรเท่ากัน

 

ค่าออฟเซตน้อยหรือลบมากเกินไป

ล้อแม็กจะยื่นออกมาจากดุมล้อมาก

ระยะออฟเซตมากหรือบวกมากเกินไป ล้อแม็กจะหุบเข้าไปในตัวถัง เช่นล้อแม็ก 2 วงมีขนาดเท่ากันทุกอย่าง ทั้งเส้นผ่าศูนย์กลางและหน้ากว้าง ยกเว้นค่าออฟเซต ล้อแม็กวงหนึ่ง -20 มิลลิเมตร และอีกวง +10 มิลลิเมตร วงแรกเมื่อใส่เข้ากับตัวรถยนต์จะยื่นออกมามากกว่าอีก วง 30 มิลลิเมตร (-20+10=30 มิลลิเมตร)

 

รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลังมักกำหนดให้ใช้ล้อแม็กที่มีค่าออฟเซตเป็นลบ หรือบวกไม่มากนัก ดูแล้วล้อแม็กจะเป็นหลุมลงไป และรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า (หรือขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นใหม่) มักใช้ล้อแม็กค่าออฟเซตเป็นบวก ดูแล้วล้อแม็กจะหน้าเต็มๆ เพราะในการออกแบบและทดสอบพบว่า ล้อแม็กที่มีค่าออฟเซตมากหรือบวกมาก เมื่อยางแตกรถยนต์จะเสียการทรงตัวน้อย

การเปลี่ยนล้อแม็กวงโตกับยางแก้มเตี้ย เช่น ล้อแม็กขอบ 16-17 นิ้ว กับยาง 45-50 ซีรีส์ ตามความนิยมเพิ่มความสวย คนส่วนใหญ่มักมีมุมมองเบื้องต้นว่ายางจะติดขอบบังโคล นด้านใน เพราะมีขนาดล้อแม็กเพิ่มขึ้น ทั้งที่อาจเกี่ยวข้องกับค่าออฟเซตที่น้อยเกินไป ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการยื่นหรือหุบเข้าไปของล้อแม็กกับ ขอบบังโคลนของตัวถัง เช่น เปลี่ยนล้อแม็กวงโตแล้วยางกระแทกขอบบังโคลนเมื่อรถยน ต์ถูกโหลดลดความสูงหรือยุบตัวมากๆ ทำให้หลายคนรีบสรุปว่าล้อแม็กมีเส้นผ่าศูนย์กลางมากเ กินไป เช่น ขอบ 16-17 นิ้ว ทั้งที่จริงแล้วอาจมีปัญหามาจากค่าออฟเซต ในความเป็นจริง ยางจะติดขอบบังโคลนด้านในหรือเปล่า ? อยู่ที่ 2 กรณีหลัก คือ ขนาดของล้อแม็กและยาง และค่าออฟเซตของล้อแม็ก

 

ถ้าไม่เลือกล้อแม็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่เกินไป เช่น โตโยต้า โคโรลล่า เลือกล้อแม็กขอบ 15-16 นิ้ว แล้วยางยังกระแทกขอบบังโคลนด้านในโดยส่วนใหญ่จะเกิดปัญหาจากค่าออฟเซตไม่เหมาะสม คือ ล้อแม็กและยางจะยื่นเลยออกมานอกแนวขอบบังโคลน เมื่อโหลดลดความสูงของตัวถังลงมาหรือรถยนต์ยุบตัวมาก ๆ ขอบบังโคลนด้านในจะกระแทกกับยางจนเกิดเสียงดังและยาง เสียหาย

 

ยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจนว่า แม้จะใส่ล้อแม็กแค่ 13 นิ้ว แต่ถ้าออฟเซตลบมากๆ จนล้อแม็กยื่นออกมาเลยขอบบังโคลนด้านใน ยางก็ยังมีโอกาสถูกกระแทกได้การเลือกเปลี่ยนล้อแม็กข นาดใหม่ ควรอ้างอิงค่าออฟเซตกับล้อแม็กมาตรฐานเดิม โดยอ่านจากตัวล้อแม็กบริเวณด้านหน้าหรือด้านหลังตามห ลักการ ไม่ควรเลือกล้อแม็กที่มีค่าออฟเซตต่างจากมาตรฐานเดิม เกิน 5-10 มิลลิเมตร แต่ในทางปฏิบัติสามารถประยุกต์ได้ ล้อแม็กที่ใส่แล้วสวยคือใส่แล้วดูเต็มบังโคลน แต่เมื่อรถยนต์ยุบตัว ยางต้องไม่กระแทกกับขอบบังโคลน หรือเรียกกันกลายๆ ว่า ปริ่มขอบบังโคลน

 

การเลือกแบบประยุกต์หรือสูตรสำเร็จก็คือ ลองใส่ล้อแม็กพร้อมยาง แล้วนำรถยนต์ขับเดินหน้า-ถอยหลังสัก 4-5 ครั้ง เพื่อให้ช่วงล่างปรับเข้าสู่ระยะปกติ หาคนนั่งในรถยนต์บนเบาะหลัง 2-3 คน พร้อมขย่มตัวถังเหนือล้อหลัง แล้วดูว่าริมขอบบังโคลนด้านในยุบลงมากระแทกยางหรือเป ล่า ถ้าสามารถพับหรือเจียร์ขอบบังโคลนด้านในหลบได้ก็จัดก ารไปเลย โดยต้องระวังไม่ให้สีด้านนอกเสียหาย แต่ถ้าติดมาก คือพับหรือเจียร์ขอบบังโคลนด้านในแล้วยังไม่น่าจะพ้น ก็หมดสิทธิ์ใส่ล้อแม็กชุดนั้น แม้ตัวรถยนต์ไม่ได้โหลดลดความสูงลง แต่ก็ต้องทดลองขย่มเผื่อไว้สำหรับการบรรทุกหนักหรือก ารกระแทกที่อาจเกิดขึ้นได้

 

ค่าออฟเซตมากหรือบวกเกินไป

ล้อและยางจะหุบเข้าไปในตัวถัง ดูไม่สวย อาจติดช่วงล่างบางชิ้น ฐานล้อระหว่างซ้าย-ขวาน้อยลง และสูญเสียประสิทธิภาพการทรงตัวลงไป

 

การดัดแปลงค่าออฟเซต

ความอยากสวยห้ามกันยาก เมื่อล้อแม็กลวดลายนั้นประทับใจมาก แต่ค่าออฟเซตน้อย-มากเกินไป จนล้อหุบ-ล้น หรือระยะ PCD ไม่เท่ากัน หรือจำนวนรูนอตไม่เท่ากันระหว่างดุมล้อกับล้อแม็ก สามารถดัดแปลงในหลายกรณีได้ดี แต่บางกรณีแย่และควรหลีกเลี่ยง

 

ค่าออฟเซตน้อยหรือติดลบเกินไป

ถ้าล้อแม็กจะล้นออกมาเกินปกติ แสดงว่าค่าออฟเซตน้อยหรือติดลบเกินไป เมื่อรถยนต์ยุบตัวลงหรือโหลด ยางอาจกระแทกกับขอบบังโคลนด้านใน ถ้าติดหรือกระแทกไม่มาก ก็สามารถพับหรือเจียร์ขอบบังโคลนหลบได้ แต่ต้องระวังไม่ให้สีด้านนอกเสียหายถ้ายังไม่พ้นลองพ ลิกดูด้านหลังล้อแม็กบริเวณหน้าสัมผัส ว่ามีเนื้อหนาพอจะเจียร์ให้บางลงสัก 2-3 มิลลิเมตรได้ไหม ถ้าเจียร์ได้ก็ยังพอเพิ่มค่าออฟเซตให้ล้อหุบเข้าไปได ้อีกเล็กน้อย แต่ต้องแน่ใจว่าล้อแม็กจะไม่บางเกินไปจนแตกหักง่าย

 

ค่าออฟเซตมากไป

หากล้อแม็กหุบเข้าไปเกินปกติ แสดงว่าค่าออฟเซตมากไป กรณีนี้ไม่เกี่ยวกับปัญหายางกระแทกขอบบังโคลน แต่อาจดูไม่สวย และล้อหรือยางจะติดขัดกับช่วงล่างบางชิ้นหรือซุ้มล้อ ด้านใน ถ้าไม่มาก สามารถใช้แผ่นอะลูมิเนียมรองแบนกลมบางๆ สเปเซอร์-SPACER ซึ่งมีจำนวนรูให้นอตร้อยผ่านเท่ากับระยะ PCD แทรกระหว่างล้อแม็กกับดุมล้อ เพื่อให้ล้อแม็กล้นออกมามากขึ้น

 

แก้ไขล้อแม็ก

มีหลายวิธี เช่น 4 รูนอต PCD ใกล้เคียงกัน แล้วมีค่าออฟเซตเหมาะสมอยู่แล้ว เช่น 4 รูนอต PCD 100 แก้ไขเป็น 114.3 มิลลิเมตร หรือ 120 แก้ไขเป็น 114.3 มิลลิเมตร มักดัดแปลงด้วยการคว้านรูนอตเดิมบนล้อแม็กให้ใหญ่ขึ้ น แล้วอัดบู๊ชเหล็กใหม่เข้าไปให้ได้ระยะหากเนื้อของล้อ แม็กด้านข้างรูนอตยังเต็มหรือเหลือพอทั้งด้านหน้า-ด้านหลัง สามารถเจาะรูเพิ่มจากเดิมได้ แต่ต้องได้ศูนย์และตรงกับระยะ PCD พอดี

 

อย่ามองข้ามขนาดรูกลางของล้อแม็ก

รถยนต์ทุกคันต้องมีแกนกลางของดุมล้อนูนออกมา เพื่อสวมทะลุเข้าสู่รูกลางบนตัวล้อแม็ก นอกจากต้องมีระยะ PCD, ค่าออฟเซต และขนาดโดยรวมของล้อแม็กเหมาะสมแล้ว ขนาดรูกลางของล้อแม็กต้องกว้างเท่ากันพอดีกับแกนดุมล ้อ เพื่อป้องกันการสะบัดหรือแกว่งของล้อแม็ก แม้นอตล้อจะยึดแน่นอยู่แล้วก็ตาม หากขนาดรูกลางของล้อแม็กเล็กเกินไป ย่อมสวมเข้ากับดุมล้อไม่ได้ ต้องกลึงคว้านด้วยความละเอียดให้มีขนาดรูกลางเท่ากับ แกนดุมล้อพอดี อย่าให้หลวมถ้าขนาดรูกลางของล้อแม็กใหญ่กว่าแกนดุมล้ อ ควรอัดบู๊ชหรือคว้านแล้วอัดบู๊ชให้พอดีกัน เพื่อป้องกันการแกว่ง

 

เลือกอย่างไร

มีหลายวิถีทางเลือก โดยเฉพาะด้านลวดลายและความสวยงาม คงไม่มีเครื่องมือหรือหลักการตัดสินชัดเจน เพราะรสนิยมย่อมมีความแตกต่างกันเปลี่ยนล้อแม็ก แต่ใช้ยางขนาดเดิม เปลี่ยนล้อแม็กพร้อมยางขนาดใหม่

 

  • PIRELLI P ZERO 275/30 R20
    14,000.00 ฿
  • PIRELLI P ZERO *N0 285/35,315/30 R22 PORCHE
    84,000.00 ฿
  • PIRELLI P ZERO 255/35R20,305/30R20 Aston Martin
    65,000.00 ฿

 

ร้านข้าวกล่อง อาม่า

ร้านข้าวกล่อง อาม่า

 

ร้านข้าวกล่อง อาม่า ด้วยยุคโควิด-19 อาจทำให้แต่ละคนต้อง ร้านข้าวกล่อง อาม่า ออนไลน์ เนื่องจากสะดวกสบาย ไม่ต้องออกจากบ้าน ก็ได้ทานอาหารอร่อยๆได้หลากหลายเมนู พร้อมของทานเล่น น้ำผลไม้ ชา กาแฟ ซึ่งจะต่างจากร้านอาหารตามสั่งทั่วไป ด้วยความรีบเร่งในปัจจุบันทำให้พ่อบ้านแม่บ้านยุคดิจิตอล หรือแม้แต่คนทำงานต่างก็ไม่มีเวลาทำกับข้าวกินเอง ส่งผลให้ต้องหาของกินง่ายๆ มารองท้องกัน 

 

จากการสำรวจพบว่าอาหารที่คนไทยทั่วไปคุ้นเคยกันในชีวิตประจำวัน เช่น ข้าวผัด ข้าวไข่เจียว ข้าวกะเพรา และทุกเมนูต้องมาพร้อมกับ “ความอร่อย” เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเบื่อกับเมนูเดิมๆ แต่การที่เราสั่งข้าวกล่อง ออนไลน์ เราสามารถเลือกได้หลากหลายเมนู ซึ่งจะต่างจากร้านอาหารตามสั่งทั่วไป เนื่องจากร้านอาหาร ออนไลน์ ได้คิดหาไอเดียให้แต่ละเมนู เพื่อให้เกิดความแตกต่างจากร้านอาหารปกติ โดยรสชาติอาหารแต่ละเมนูและฝีมือแม่ครัวต้องมีคุณภาพ ล้วนแล้วเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ ข้าวกล่อง ออนไลน์ ซึ่งจะต้องสด ใหม่ตลอด และมีเมนูอาหารที่โดดเด่น น่าสนใจ และมีความหลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่มีวันเบื่ออีกต่อไป 

 

ร้านเราดูแลทุกคน ไม่ว่าจะเป็น หนุ่มสาวออฟฟิต แม่บ้าน เด็กนักเรียน หรือกลุ่มองค์กร หน่วยงานต่างๆ ที่จัดงานสัมนา หรืองานประชุม รวมถึงผู้บริโภคที่เน้น ความสะดวกสบาย และเร่งรีบ ร้านของเราใส่ใจทุกรายละเอียด ไม่ว่าเรื่องหน้าตาข้าวกล่อง ราคา และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงที่บรรจุอาหาร ,หน้าตาของอาหาร ที่มีการตกแต่ง และปริมาณที่จะต้องมีความสัมพันธ์กับราคา โดยหน้าตาของอาหารจะต้องดูน่ารับประทาน และรสชาติ ต้องถูกปากลูกค้า บรรจุภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยได้มาตรฐาน และรักษ์โลก ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้กับร้านที่รับทำข้าวกล่อง เป็นอย่างมาก และร้านข้าวกล่อง อาม่า ได้เล็งเห็นถึงคุณภาพ ข้าวกล่อง ทุกกล่องที่เหมาะสมกับราคา รวมถึงรสชาติอาหารได้มาตรฐานทุกกล่อง รสชาติไม่ผิดเพี้ยน และรับรองได้เลยว่าไม่แพง ราคาเริ่มต้นเพียง 49 บาทเท่านั้น ยิ่งถ้าสั่งหลายกล่อง ก็ยิ่งถูกเข้าไปอีก 

 

รายการอาหาร ยอดนิยมของร้านข้าวกล่อง อาม่า

 

-ข้าวพริกแกงไก่ชิ้น

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ + ผัดพริกแกงไก่ เเคลอรี่(Cal.): 475

 

-ข้าวต้มยำน้ำข้นปลากระพง

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ+ปลากะพง เเคลอรี่(Cal.): 550

 

-ข้าวกะเพราปลาหมึกหมูกรอบ

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ+หมูกรอบ+ปลาหมึก+ใบกระเพรา เเคลอรี่(Cal.): 550

 

-ข้าวหน้าไก่

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ+ไก่ผัดซอส เเคลอรี่(Cal.): 560

 

-ขฺ้าวผัดหมู

ส่วนประกอบ: ข้าวผัด + เนื้อหมู เเคลอรี่(Cal.): 475

 

-ก๋วยเตี๋ยวคั่วทะเล+ไก่ทอดตะไคร้

ส่วนประกอบ: ก๋วยเตี๋ยวคั่วทะเล+ผักเครื่องเคียง+ไก่ทอดตะไคร้ เเคลอรี่(Cal.): 640 Cal

 

-ข้าวหอยลายผัดพริกเผา + กระพงทอดกระเทียม

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ+ข้าวหอยลายผัดพริกเผา + กระพงทอดกระเทียม เเคลอรี่(Cal.): 620 Cal

 

-ข้าวกะพงผัดขึ้นฉ่าย + กระเพราทะเล

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ+กะพงผัดขึ้นฉ่าย+กระเพราทะเล เเคลอรี่(Cal.): 620 Cal

 

-ข้าวพริกแกงหมูกรอบ+ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ+พริกแกงหมูกรอบ+ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เเคลอรี่(Cal.): 620 Cal

 

จุดเด่นของร้านข้าวกล่อง อาม่า

 

-สำรวจความคิดเห็นของลูกค้าที่มีต่อสินค้า 

สิ่งที่ร้านของเราพยายามศึกษา ก็คือการทราบถึงความต้องการของลูกค้าว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร รวมถึงการให้บริการด้านความสะดวกรวดเร็วของการบริการ โดยการรับทำข้าวกล่องนี้ จะต้องเสร็จให้ทันตามกำหนดเวลา 

 

-คุณภาพอาหาร สด ใหม่ 

ด้วยความชำนาญในการทำอาหารมาหลากหลายเมนู ทำให้ร้านอาม่าbox มีความเชี่ยวชาญในการเลือกวัตถุดิบการทำอาหารเป็นอย่างมาก ทุกอย่างสด ใหม่ เสมอ รับรองคุณภาพความสดใหม่ 

 

-รสชาติอาหารได้มาตรฐานทุกกล่อง รสชาติไม่เพี้ยน

ร้านเราคุมคุณภาพด้านรสชาติเป็นอันดับต้นๆ ด้วยฝีมือแม่ครัวของร้านอาม่าbox  เน้นการตวงตามสูตรอาม่า จึงทำให้รสชาติไม่ผิดเพี้ยน จะสั่งทานวันไหน รสชาติก็อร่อยเหมือนเดิม 

 

-คำนวณแคลให้ทุกเมนู สำหรับผู้รักสุขภาพทั้งหลาย

เอาใจคนรักสุขภาพ กับเมนูอาหารต่างๆ ที่คำนวณแคลให้แล้วทุกกล่อง ลูกค้าสามารถดูรายละเอียดได้ในเมนูอาหารเลย สะดวกใช่มั้ยหละ เพราะเราเป็นห่วงลูกค้าที่ออกกำลังกาย ไม่อยากให้ทานอาหารเกินแคล สั่งอาหารกับเราได้ทั้งความสะดวก และหุ่นสวยๆ ไปควบคู่กันเลย

 

-น้ำผักผลไม้ ดื่มทุกวันได้ประโยชน์สูงสุด

สำหรับใครที่รักการดูแลสุขภาพ ต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ในบทความนี้จาปินขอแนะนำ 10 เครื่องดื่มจากน้ำผัก ผลไม้ และสมุนไพร เพื่อช่วยบำรุงสุขภาพ และช่วยบรรเทาได้สารพัดโรค อีกทั้งยังมีรสชาติอร่อย ดื่มแล้วทำให้สดชื่น เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของบ้านเรา หากสามารถดื่มได้ทุกวัน จะช่วยให้สุขภาพของท่านมีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีแน่นอน อยากเชิญชวนทุกท่านเปลี่ยนจากการดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม มาดื่มเครื่องดื่มที่มีประโยชน์เหล่านี้แทนกันดีกว่าค่ะ

 

การทำอาหารของอาม่า แต่ละจานเปรียบเสมือนการทำให้คนในครอบครัวทาน เราจึงกล้าการันตีคุณภาพที่คุณจะได้รับจากอาหารทุกกล่อง อาหารทุกกล่องจึงปรุงใหม่ ถูกหลักอนามัย ด้วยความห่วงใยเหมือนคนในครอบครัว ทั้งรสชาติและปริมาณ ก็อิ่มอร่อยกันได้เลย เพียงกดสั่งผ่านเว็บไซต์ แล้วทักมาในไลน์ของร้าน แค่นี้ก็รอรับความอร่อยได้แล้วทุกมื้อ 

 

ปัจจุบันร้านอาหารไทยหลายๆร้าน ก็ได้เลือกนำเสนอเมนูที่ถ่ายทอดความอร่อยตามสูตรไทยโบราณ แบบดั้งเดิม ให้ได้ทานกันอย่างต่อเนื่อง วันนี้เราขอเอาใจคนรักอาหารไทย ด้วยการรวบรวมเมนูอาหารไทย ที่หาทานยาก มาให้เหล่านักชิมได้ตามไปลิ้มลอง ส่วนจะมีเมนู ชุดข้าวกล่อง อะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะน่าทานสักแค่ไหน 

 

ชุดข้าวกล่อง แกงพะแนง

เป็นแกงที่มีกะทิเป็นส่วนผสม น้ำแกงมีความขลุกขลิก ที่หลายๆคนชื่นชอบ รสชาติของแกงพะแนงจะมีความเผ็ดหวานกำลังดี มีกลิ่นหอมจากกะทิที่เคี่ยวจนแตกมัน ซึ่งถูกผัดเข้ากับเนื้อหมู โดยเนื้อหมูที่ร้านเราใช้คือ เนื้อหมูสันคอ เนื่องจากเนื้อหมูสันคอจะมีความนุ่มเป็นพิเศษ เมื่อผัดกับเครื่องแกงพะแนงเข้ากับเนื้อหมูรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้เกิดเป็นรสชาติกลมกล่อม ใครอยากชิมและชอบความสะดวก สั่งได้จากร้านอาหาร ดิลิเวอรี่ ได้แล้ว อยากกินวันไหนก็สั่งได้เลยค่ะ

 

ชุดข้าวกล่อง แกงมัสมั่น

เป็นแกงน้ำขลุกขลิกที่รวมความหอมอร่อยไว้ในถ้วยเดียว การปรุงมีความพิถีพิถันจนทำให้เกิดรสชาติกลมกล่อม ซึ่งมัสมั่นโดดเด่นในเรื่องของกะทิและพริกแกง ขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปไม่ได้เลย โดยจะเคี่ยวหัวกะทิจนแตกมัน ใส่พริกแกงมัสมั่นลงไปผัดให้หอม ใส่น่องไก่ลงไปผัดจนสุก เติมหางกะทิลงไป เคี่ยวจนเนื้อไก่เปื่อย ทานกับข้าวสวยแล้ว ทานกับโรตีหรือครัวซองก์ก็อร่อยได้เช่นกันค่ะ

 

ชุดข้าวกล่อง แกงส้ม

เป็นแกงที่มีรสชาติเปรี้ยวนำเผ็ดตาม เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพอย่างมากเพราะไม่ได้ผสมกะทิ เมนูนี้จะอร่อยได้ต้องมีเครื่องแกงที่เข้มข้น และวัตถุดิบที่สดใหม่ ทางร้านเราจะนำพริกแกงส้มที่โขลกด้วยสมุนไพรต่างๆ ไปละลายน้ำ ต้มให้เดือด ใส่ผักและเนื้อสัตว์ ปรุงรส เสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ โปะหน้าด้วยไข่เจียวสุดฟิน อีกทั้งลูกค้ายังจะได้ลิ้มรสความสดจากผักนานาชนิดที่เราเลือกใส่ลงไปอีกด้วย กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนแน่นอน เหมาะกับสาวๆที่กำลังไดเอทค่ะ

 

ชุดข้าวกล่อง แกงเขียวหวาน

เป็นแกงที่มีรสชาติกลมกล่อม หวานมัน ซึ่งเป็นอาหารไทยแท้ ที่มีกำเนิดในประเทศไทย แต่ได้รับอิทธิพลการใช้เครื่องเทศ และกะทิจากอินเดียและอาหรับ เนื้อสัตว์ที่ใช้ปรุง เช่น เนื้อวัว ปลา ไก่ หรือหมู เป็นส่วนประกอบหลัก ใส่ผัก ปรุงรสด้วยกะทิ มะเขือ น้ำตาล น้ำปลา ใบมะกรูด และใบโหระพา จุดที่สร้างความอร่อยที่แตกต่างจากเจ้าอื่นนั้น คือการเลือกใช้พริกสดสีเขียว สีแดง มาปรุงแทนการใช้พริกแห้ง นั่นเอง ทางเราคอนเฟิร์มเลยว่าเมนูนี้เป็นเมนูยอดฮิตอย่างมาก เนื่องจากรสชาติมีความเป็นแบบฉบับของไทยอย่างแท้จริง มีความหอม น้ำแกงข้นกำลังพอดี นิยมรับประทานกับข้าวสวย หรือทานกับขนมจีน สปาเก็ตตี้ โรตี ก็ฟินไปอีกแบบค่ะ

 

จากเมนู ชุดข้าวกล่อง ที่กล่าวมานี้ ถือเป็นเมนูที่ทำทานเองยากอยู่เหมือนกัน เพราะความอร่อยอยู่ที่เครื่องแกงแต่ละประเภท ซึ่งทางร้านของเรา จะเน้นเครื่องที่อัดแน่นไปด้วยสมุนไพร ทำให้แต่ละเมนูหอมน่ารับประทาน และปรุงด้วยวัตถุดิบสดใหม่ทุกวัน รับรองความอร่อยได้เลย สดใหม่วันต่อวันค่ะ

 

Line ID: @armabox

 

savecyber.com

Advanti

Advanti

 

Advanti – คนเราดำรงชีวิตควบคู่กับความสวยความงามเสมอ แม้แต่รถยนต์ เราเองก็อดปรับโฉมให้สวยสุดเฉียบไม่ได้ ซึ่งล้อแม็ก ไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อความปลอดภัย ประสิทธิภาพการทรงตัว และอายุการใช้งานของรถยนต์อีกด้วย วันนี้เราจะมาแนะนำ ล้อแม็กแต่ละแบรนด์มาให้ลูกค้าได้พิจารณากัน

 

ล้อแม็ก Advanti 

สินค้าเป็นแบรนด์ลูกแบรนด์แม่ของ Enkei ซึ่ง เป็นล้อ Flow Forming ราคาน่ารัก ขอบ15 ราคาเริ่มต้นหมื่นกว่าๆ เรื่องของล้อแม็กซ์เลือกตามความชอบของแต่ละบุคคล ซึ่งมีหลากหลายสีหลากหลายรุ่น ให้ลูกค้าได้เลือก ชอบตัวไหนลูกค้าสามารถลองมาเทียบได้ครับ มีล้อดีไซน์แบบใหม่ เทคโนโลยีดีขึ้น ราคาจับต้องได้

 

Advanti Racing เป็นบริษัทในเครือ Enkei Tuning โรงงานที่ผลิต Advanti มีอยู่ 5 แห่งคือมาเลย์ ไต้หวัน และในจีน 3 แห่ง ไม่ว่าจะโรงงานไหน มาตรฐาน Advanti เดียวกันหมด

 

Advanti ขอบ 15 เหมาะกับอีโคคาร์

Advanti ขอบ 18 เหมาะสำหรับ รถกลางถึงใหญ่

 

ล้อแม็ก ENKEI

ล้อแม็กซ์ ENKEI เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ล้อแม็กซ์ชั้นนำที่มีอายุ และประสบการณ์ยาวนาน ด้วยการก่อตั้งตั้งแต่ปี 1950 ที่ชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น โดย ล้อแม็กซ์ ENKEI ก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนาล้อที่มีนวัตกรรม และคุณภาพสูงสุดให้กับนักแข่งและผู้ที่ชื่นชอบในการขับขี่รถยนต์ ในปัจจุบัน ล้อแม็กซ์ ENKEI มีการออกแบบที่หลากหลาย ควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีมาโดยตลอดทั้งการพัฒนาล้อเพื่อการแข่งขัน และเพื่อรถยนต์ตามท้องถนน อีกทั้งยังสร้างสมประสบการจากการผลิตล้อเพื่อรถยนต์ OEM อีกหลากหลายยี้ห้อ ล้อแม็กซ์ ENKEI มีจุดเด่นในการออกแบบล้อให้เข้ากับชนิดของรถยนต์ได้อย่างโดดเด่น และสวยงามล้อแม็กซ์ ENKEI มีรุ่นยอดนิยม และรู้จักกันดี คือ RPF1 ที่เป็นขวัญใจขาซิ่ง และ RPT1 ที่กระบะชอบใส่กัน

 

ล้อแม็ก VOSSEN

ล้อสุดหรู VOSSEN ที่เรียกได้ว่าเป็นศิลปะทางวิศวกรรมได้เลยทีเดียว กับการทำล้อแม็กซ์ที่ใช้การทำมือต้นกำเหนิดจากไมอามีฟลอริดา – สหรัฐอเมริกา ล้อแม็กซ์ VOSSEN เป็นแบรนด์ล้อขึ้นรูปด้วยกรรมวิธีการกดแท่งอะลูมิเนียมด้วยแรงอัดสูง ทำให้สามารถออกแบบได้หลายรูปแบบ ล้อแม็กซ์ VOSSEN มีความเป็นเอกลักษณ์ด้วยขั้นตอนการผลิตที่เรียกได้ว่าเข้าขั้นงานศิลปะเลยทีเดียว ล้อแม็กซ์ VOSSEN ไม่แปลกเลยว่าทำไม ล้อแม็กซ์ VOSSEN ถึงมีราคาสูงระดับต้นๆเลยทีเดียว

 

ล้อแม็ก GRAM LIGHTS

หลายๆ คนคงได้ยินกับชื่อ ล้อแม็กซ์ RAYS ล้อซิ่งที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำหนักเบาแข็งแรงใช้ในสนามแข่ง ล้อแม็กซ์ GRAM LIGHTS ก็เป็นแบรนด์ล้อแม็กซ์ที่อยู่ในเครือของ RAYS Engineering ล้อแม็กซ์ GRAM LIGHTS เป็นแบรนด์ที่เน้นด้านสมรรถนะ เช่นเดียวกัน แต่เป็นแบรนด์ที่ใช้การขึ้นรูปด้วยการหล่อ โดยล้อแม็กซ์ GRAM LIGHTS จะเน้นการตอบสนองการขับขี่จึงมีรูปลักษณ์การออกแบบอย่างที่เราคุ้นตา

 

ล้อแม็ก KONIG

ล้อแม็กซ์ KONING อีกหนึ่งล้อแม็กซ์เพื่อสมรรถนะจุดเด่นการออกแบบ คือ น้ำหนักเบา แต่แข็งแกร่ง เน้นตอบสนองการใช้งานระดับ MotorSport ที่มีชื่อเสียงมากว่า 40 ปี โดย ล้อแม็กซ์ KONING ยังมีแบรนด์ล้อแม็กซ์ดังๆในอุตสาหกรรมยานยนต์อีกหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Advanti Racing Maxxim, Bravado Performance, และ Mamba Off-road นอกจากนั้น ล้อแม็กซ์ KONING ยังมีการผลิตล้อให้กับบริษัทรถยนต์อยางแพร่หลายในรูปแบบ OEM โดย ล้อแม็กซ์ KONING ยังมีมาตรฐานที่แข็มงวดมั่นใน และพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น ล้อแม็กซ์ KONING ยังเป็นผู้นำเรื่องเทคโนโลยี Flow Forming อีกด้วย

 

ล้อแม็ก WORK

ล้อแม็กซ์ WORK เป็นล้อแม็กซ์ระดับไฮเอ็นของทั้งวงการมอเตอร์สปอร์ต และรูปแบบการแต่งทั่วไปในญี่ปุ่น และรุ่นที่เป็นที่รู้จักกันดีของ ล้อแม็กซ์ WORK นั้นคือ WORK Equip และ WORK Meister เรียกได้ว่าเป็นที่รู้จักในหมู่คนแต่งรถกันอย่างแพร่หลายในญี่ปุ่นจนขยายมาถึงประเทศไทย ล้อแม็กซ์ WORK มีประวัติยาวนานเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 1977 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ โอซากา ประเทศญี่ปุ่นภายใต้ชื่อ Work Co,. Ltd ล้อแม็กซ์ WORK นั้นจะมีลักษณะการออกแบบที่โดดเด่นในลักษณะที่เป็นล้อ 2 ชิ้น มาประกอบกัน

 

ล้อแม็ก VOLK

ล้อแม็กซ์ VOLK อีกหนึ่งแบรนด์ในอาณาจักรของ RAYS Engineering ที่เรียกได้ว่า ล้อแม็กซ์ VOLK เป็นแบรนด์เรือธงของ RAYS Engineering เลยก็ว่าได้ ล้อแม็กซ์ VOLK มีชื่อเรียกกันอย่างแพร่หลายในชื่อ VOLK RACING Wheel ที่บ่งบอกได้ถึงมาตรฐานที่สูง และเทคโนโลยีจากสนามแข่ง ล้อแม็กซ์ VOLK มีจุดเด่นคือ การขึ้นรูปด้วยการอัดขึ้นรูป ทำให้ทั้งเบา และแข็งแรง เหมาะกับการรองรับสมรรถนะการขับขี่ได้อย่างเต็มกำลัง พร้อมงานออกแบบที่คุ้นตาของ ล้อแม็กซ์ VOLK ไม่ว่าจะเป็น TE37 หรือ CE28 ที่เป็นที่นิยมในประเทศไทยอย่างแพร่หลาย

 

ล้อแม็ก O.Z.

ล้อแม็กซ์ O.Z เป็นแบรนด์ผู้ผลิตล้ออัลลอยสำหรับตลาดยานยนต์ชั้นนำ อย่างเช่นล้อที่ใช้แข่งขันในหลายๆรายการ ไม่ว่าจะเป็น F1, Rally, DTM, Indy และอื่นๆ นอกจากนั้น ล้อแม็กซ์ O.Z ยังเป็นล้อเพื่อการผลิต OEM ของรถยนต์สมรรถนะสูงระดับซุปเปอร์คาร์บางรุ่นของ Ferrari, Lamborghini, Maserati, Aston Martin, Lotus และ McLaren ด้วยประวัติการอยู่บนสนามที่ยาวนานของ ล้อแม็กซ์ O.Z ทำให้ ล้อแม็กซ์ O.Z เป็นแบรนด์ที่จะเห็นได้เยอะสุดในวงการรถแข่ง

 

ล้อแม็ก AMERICAN RACING

ล้อแม็กซ์ AMERICAN RACING ต้นตำหรับของล้อเพื่อการแข่ง Drag ด้วยแนวคิดที่จะสร้างล้อที่มีความแข็งแรง และเบาเพื่อการแข่งทางตรงทำให้เกิดการพัฒนาเป็นล้อแม็กซ์นิเซียมที่สำหรับการแข่ง Drag โดยเฉพาะ และโด่งดังกับการออกแบบที่ทันสมัยจนได้รับความนิยม และก่อตั้งเป็น ล้อแม็กซ์ AMERICAN RACING กับโมเดลที่สร้างชื่ออย่าง American Racing Torq Thrust Wheel ล้อแม็กซ์ AMERICAN RACING จึงเป็นล้อที่มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ Muscle car ตามสไตล์ของอเมริกา

 

ล้อแม็ก RONAL

ล้อแม็กซ์ RONAL ล้อมาตรฐานยุโรปที่ออกแบบด้วยนวัตกรรมแบบยุโรป ที่ทำให้รถยนต์ OME แบรนด์ดังในยุโรปหลายต่อหลานรุ่น ล้อแม็กซ์ RONAL ยังสร้างชื่อเสียงการออกแบบในลักษณะของรถยนต์คราสสิคตั้งแต่ปี 1983 ล้อแม็กซ์ RONAL มีเอกลักษณ์การออกแบบที่ดูหรูหรา และคราสสิค นอกจากนั้น ล้อแม็กซ์ RONAL มีล้อที่ผลิตจากโรงงานรักโลกที่ไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เลย เป็นที่แรกของโลก นั้นคือ ล้อแม็กซ์ RONAL รุ่น R70-Blue

 

ล้อแม็ก BBS

ล้อแม็กซ์ BBS ล้อที่มีทั้งประสบการณ์ และประวัติยาวนานถึง 37 ปี ด้วยแรงผลักดันการออกแบบของวงการมอเตอร์สปอร์ต ล้อแม็กซ์ซ์ BBS เชื่อมั่นในทุกการผลิตด้วยเทคโนโลยีกดอัดแน่น ที่แน่นการออกแบบให้เป็นล้อแม็กซ์อัลลอยที่มีน้ำหนักเบา และมีจิตวิญญาณในการแข่งขันอยู่ในการออกแบบแต่ละรุ่น พร้อมคุณภาพการผลิตที่ใช้มาตรฐานที่สู่ตั้งแต่ขั้นตอนการขึ้นรูปจนกระทั้ง ขั้นตอนเก็บรายละเอียดขั้นสุดท้าย

 

การเลือกล้อแม็กซ์ให้เหมาะกับรถ นอกจากความสวยงามแล้ว ควรคำนึงถึงความคงทน และเลือกให้เหมาะกับรูปแบบการใช้งาน เพื่อล้อแม็กซ์ลูกรักจะอยู่คู่รถคันงามไปนานๆ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ล้อแม็กซ์ลูกรักเกิดดุ้ง คด แตก หรือเป็นรอย อยากหาร้านซ่อมที่ไว้วางใจได้ เชิญมาหาเรา แม็กซ์เอ็กซ์เพลสเซอร์วิส เราให้บริการทำสีล้อ ซ่อมล้อแตก ดัดดุ้งล้อ เชื่อมล้อและรับปรึกษาทุกเรื่องของล้อแม็ก REPOWER

 

KW Suspensions หรือ ที่คนส่วนมากเรียกว่า KW เป็นโช๊คนำเข้าจากประเทศเยอรมันนีที่เป็นโช๊ครูปแบบ Twintube ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งความนุ่ม

และหนึบได้อย่างแท้จริง ซึ่งรุ่นนี้ KW Suspensions จะมีรุ่น Street Use ยอดฮิตอย่าง KW V3 หรือ KW Variant 3 นั้นเองซึ่งจริงๆแล้ว

KW Suspensions มีรุ่นโช๊คมากมาย ทางร้าน RePower ตัวแทนจำหน่ายโช๊ค KW Suspensions อย่างเป็นทางการ

 

ขอแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้ครับผม

KW Suspensions ผลิตจาก Stainless พิเศษที่เรียกว่า “inox-line” ซึ่งทำให้ทดทานต่อการใช้งานเป็นพิเศษ พร้อมทั้งมีการประกอบทั้งหมดแบบ

in-house production ความหมายคือ ทุกชิ้นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ KW ทั้งหมดถูกผลิตขึ้นที่ประเทศเยอรมันนีแบบ 100% นั้นเอง โดยจะมีรุ่น

หลักๆ ใน Street Use ทั้งหมด 4 รุ่น คือ KW Suspensions Variant 1 , KW Suspensions Variant 2 , KW Suspensions Variant 3 และ KW Street

Comfort นั้นเอง มาดูกันเลยว่าแต่ละรุ่น แตกต่างกันอย่างไรครับ

 

✴️KW Variant 1 หรือ KW V1 โช๊คสตรัท ปรับสูง-ต่ำ (ปรับ Pre-Load ได้)

✴️KW Variant 2 หรือ KW V2 โช๊คสตรัท ปรับสูง-ต่ำ (ปรับ Pre-Load ได้) + ค่า Rebound 16 ระดับ

✴️KW Street Comfort  โช๊คสตรัท ปรับสูง-ต่ำ (ปรับ Pre-Load ได้) + ค่า Rebound 16 ระดับ โดยเน้นค่าความแข็งสปริงให้นุ่มนวลมากกว่า KW Variant 2 และ โหลดลงน้อยกว่า

✴️KW Variant 3 หรือ KW V3 โช๊คสตรัท ปรับสูง-ต่ำ (ปรับ Pre-Load ได้) + ค่า Rebound 16 ระดับ + ค่าBump 12 ระดับ ซึ่งทำให้เป็นโช๊ค 2-way ซึ่งสามารถนุ่มและหนึบได้อย่างแท้จริง

หมายเหตุ : KW Suspensions มีรุ่นย่อยในการผลิตอยู่หลากหลายรุ่นรวมถึงโช๊คไฟฟ้า ก่อนสั่งโปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดของท่าน

 

ด้วยระบบกันสะเทือนแบบคอยล์โอเวอร์ KW V4 เราผสมผสานหนึ่งในเทคโนโลยีการแข่งรถชั้นนำของเราเข้ากับความเหมาะสมในชีวิตประจำวันที่เพิ่มขึ้นอย่างมากสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงจำนวนมาก ซึ่งช่วยให้สามารถปรับการหน่วงระยะการสะท้อนกลับและการหน่วงระยะการบีบอัดความเร็วต่ำและความเร็วสูงได้อย่างอิสระ KW จัดหา V4 ด้วยการตั้งค่าประสิทธิภาพเฉพาะรถ ด้วยแดมเปอร์แบบปรับได้ ผู้ขับสามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วหากจำเป็นโดยใช้ปุ่มหมุนตั้งค่าบนแดมเปอร์

 

การติดตั้ง

การตั้งค่าแดมเปอร์ที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้าจากโรงงานพร้อมการปรับแดมเปอร์ 3 ทางแยกกัน

แดมเปอร์ประสิทธิภาพสูงที่ปรับได้สามทางพร้อมการตั้งค่าอิสระของสเตจรีบาวด์โดยเทคโนโลยี “TVR-A” รวมถึงแดมเปอร์สเตจการบีบอัดความเร็วต่ำและความเร็วสูงโดยเทคโนโลยี “TVCLH-A” คือ บนพื้นฐานของเทคโนโลยีการแข่งรถที่ประสบความสำเร็จของผู้ชนะหลายคนในการแข่งขัน ADAC Zurich 24h Nürburgring และขึ้นอยู่กับรุ่นเฉพาะของรถที่ยึดด้วยอะลูมิเนียมด้านบน คอยล์โอเวอร์ KW V4 ใหม่ได้รับการพัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงบางรุ่นเท่านั้น เนื่องจากเทคโนโลยีระบบกันสะเทือน KW ที่ซับซ้อนจึงสามารถได้รับประโยชน์จากการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นในขีดจำกัดของไดนามิกในการขับขี่

 

TVR-A rebound stage Damping (Twin Valve Rebound – ปรับได้)

เทคโนโลยี “TVR-A” สองขั้นตอนที่ได้รับการจดสิทธิบัตรช่วยให้ปริมาตรขนาดเล็กไหลผ่านบายพาสความเร็วต่ำรูปกรวยที่ปรับได้ในกรณีของความเร็วแดมเปอร์ช้า ในขณะที่ความเร็วลูกสูบสูงขึ้น วาล์วระยะการสะท้อนกลับหลักจะเปิดขึ้น สำหรับกระแสน้ำปริมาณมาก สิ่งนี้ให้การปรับปรุงครั้งใหญ่ในแง่ของความสบายในการขับขี่โดยไม่ส่งผลต่อความเร็วสูงในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย มีการคลิกที่แม่นยำ 16 ครั้งสำหรับการตั้งค่าแต่ละรายการ คุณจึงเลือกได้ระหว่างความสะดวกสบายหรือการควบคุมร่างกายที่มากขึ้น

 

TVCLH-A การบีบอัดสเตจแดมเปอร์ (Twin Valve Compression Low Highspeed – Adjustable):

ด้วยการคลิกที่แม่นยำ 6 ครั้งในความเร็วต่ำและการคลิกที่แม่นยำ 14 ครั้งในช่วงความเร็วสูงของช่วงลดแรงสั่นสะเทือน ส่วนตัดขวางในวาล์วจะลดลงหรือเพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้การหน่วงระยะการบีบอัดที่มากหรือน้อย เทคโนโลยี “TVCLH-A” มีลักษณะเฉพาะส่วนโค้งที่มีหน้าตัดขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยให้ใช้แรงที่ความเร็วต่ำได้สูงเพื่อการค้ำยันตัวรถที่เหมาะสมที่สุดโดยไม่ต้องยกตัวถังขึ้นในกรณีที่ความเร็วแดมเปอร์ที่เกิดจากล้อสูง (ในการขับขี่) เหนือขอบถนน) การตั้งค่าความเร็วต่ำและความเร็วสูงแยกต่างหากจะมาพร้อมกับการตั้งค่าการสะท้อนกลับเพิ่มเติม (“เทคโนโลยี TVR-A”) เสมอสำหรับการตั้งค่าแดมเปอร์ 3 ทางแบบแยกอิสระ

 

ลดอย่างต่อเนื่อง

ชุดคอยล์โอเวอร์ KW V4 อนุญาตให้ลดสูงสุดหรือเฉพาะบุคคลภายในช่วงการปรับที่ทดสอบแล้ว เนื่องจากเกลียวสี่เหลี่ยมคางหมูที่ทนต่อสิ่งสกปรกและวงแหวนเกลียวโพลีเอไมด์ การลดระดับอย่างต่อเนื่องจึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย แม้หลังจากหลายปีผ่านไป

 

เกณฑ์มาตรฐานสำหรับคอยล์โอเวอร์

เช่นเดียวกับคอยล์โอเวอร์ KW ทั้งหมด วิศวกรของ KW ได้พัฒนารอบการทดสอบที่ครอบคลุมบน Nürburgring Nordschleife และในศูนย์ทดสอบของเราที่แท่นขุดเจาะ KW 7-post จะมีการตั้งค่าแดมเปอร์ KW เฉพาะรถยนต์ที่ประเมินโดยผู้ที่ชื่นชอบรถทั่วโลก ดังนั้นคุณจะได้สัมผัสกับรถของคุณโดยตรงและมีพลังมากขึ้นด้วยชุดคอยล์โอเวอร์ KW

 

ท้ายที่สุด คุณไม่ได้ซื้อแค่ชุดคอยล์โอเวอร์ใดๆ แต่เป็นชุดคอยล์โอเวอร์ KW ที่ได้รับการพัฒนาและปรับแต่งเป็นพิเศษสำหรับประเภทรถของคุณโดยเฉพาะ KW ในฐานะผู้ผลิตใช้ทรัพยากรของตัวเอง ส่วนประกอบคุณภาพสูง และเทคโนโลยีแดมเปอร์แบบเดียวกับผู้ผลิตในปริมาณมากเท่านั้น ด้วยระบบกันสะเทือนแบบคอยล์โอเวอร์ KW V4 การเคลื่อนที่ของตัวรถและระยะพิทช์ของตัวรถจะลดลงระหว่างการบีบอัด คุณจึงได้ประโยชน์จากการควบคุมโดยตรงและการควบคุมที่สปอร์ตยิ่งขึ้นในขณะขับขี่

 

ประสบการณ์ของเราเพื่อความสุขในการขับขี่ของคุณ

ในฐานะผู้ผลิตเป็นผู้นำตลาดและผู้คิดค้นระบบกันสะเทือนแบบแยกส่วนสำหรับการใช้งานบนท้องถนนและการแข่งรถ ไม่ว่าที่ใดในโลก ผู้ขับขี่แบบสปอร์ต ผู้ผลิตรถยนต์ และผู้กลั่นกรองพึ่งพาคอยล์โอเวอร์

 

ชุดคอยล์โอเวอร์ KW ทุกชุดผ่านการทดสอบความเครียดอย่างกว้างขวางในระหว่างการผลิต และได้รับการพัฒนาและผลิตโดยตรงในสำนักงานใหญ่ของบริษัทของเราในฟิชเทนเบิร์ก เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงของการจัดการคุณภาพ KW ของเรา สิ่งสำคัญคือเราต้องรับประกันการรับประกันหลายปี สำหรับชุดคอยล์โอเวอร์ KW ของเรา ซึ่งเหนือกว่าคุณภาพของผู้ผลิตอุปกรณ์ดั้งเดิม รวมถึงโซลูชั่นระบบกันสะเทือนที่มีการใช้งานมากกว่า 4,600 รายการ

 

 

REPOWER CORPORATION

ศูนย์บริการยางรถยนต์ , ล้อแม๊กซ์ , ช่วงล่าง 

และ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์อย่างครบวงจร

ติดต่อ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร. 099-398-9900 , 098-555-4500 , 088-818-1718 

หรือ Line : @RePower

kw v3

KW suspensions Variant 3 – HLS 2 / Hydraulic lift system 2 เเต่งรถ NISSAN GT-R Thailand

 

KW Suspensions โช๊ค coilover KW ผลิตจากประเทศเยอรมันนี KW Suspensions หรือ ที่คนส่วนมากเรียกว่า KW เป็นโช๊คนำเข้าจากประเทศเยอรมันนีที่เป็นโช๊ครูปแบบ Twintube ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งความนุ่มและหนึบได้อย่างแท้จริง ซึ่งรุ่นนี้ KW Suspensions จะมีรุ่น Street Use ยอดฮิตอย่าง KW V3 หรือ KW Variant 3 นั้นเองซึ่งจริงๆแล้ว KW Suspensions มีรุ่นโช๊คมากมาย ทางร้าน RePower ตัวแทนจำหน่ายโช๊ค KW Suspensions อย่างเป็นทางการ ขอแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้ครับผม

 

kw v3 KW Suspensions ผลิตจาก Stainless พิเศษที่เรียกว่า “inox-line” ซึ่งทำให้ทนทานต่อการใช้งานเป็นพิเศษ พร้อมทั้งมีการประกอบทั้งหมดแบบ in-house production ความหมายคือ ทุกชิ้นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ KW ทั้งหมดถูกผลิตขึ้นที่ประเทศเยอรมันนีแบบ 100% นั้นเอง โดยจะมีรุ่นหลักๆ ใน Street Use ทั้งหมด 4 รุ่น คือ KW Suspensions Variant 1 , KW Suspensions Variant 2 , KW Suspensions Variant 3 และ KW Street Comfort นั้นเอง มาดูกันเลยว่าแต่ละรุ่น แตกต่างกันอย่างไรครับ

 

✴️KW Variant 1 หรือ KW V1 โช๊คสตรัท ปรับสูง-ต่ำ (ปรับ Pre-Load ได้)

✴️KW Variant 2 หรือ KW V2 โช๊คสตรัท ปรับสูง-ต่ำ (ปรับ Pre-Load ได้) + ค่า Rebound 16 ระดับ

✴️KW Street Comfort  โช๊คสตรัท ปรับสูง-ต่ำ (ปรับ Pre-Load ได้) + ค่า Rebound 16 ระดับ โดยเน้นค่าความแข็งสปริงให้นุ่มนวลมากกว่า KW Variant 2 และ โหลดลงน้อยกว่า

✴️KW Variant 3 หรือ KW V3 โช๊คสตรัท ปรับสูง-ต่ำ (ปรับ Pre-Load ได้) + ค่า Rebound 16 ระดับ + ค่าBump 12 ระดับ ซึ่งทำให้เป็นโช๊ค 2-way ซึ่งสามารถนุ่มและหนึบได้อย่างแท้จริง

หมายเหตุ : KW Suspensions มีรุ่นย่อยในการผลิตอยู่หลากหลายรุ่นรวมถึงโช๊คไฟฟ้า ก่อนสั่งโปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดของท่าน

 

NISSAN GT-R ติดตั้งระบบ ช่วงล่าง 

KW suspensions Variant 3 – HLS 2 / Hydraulic lift system 2

 

สำหรับชุด HLS 2 หรือ Hydraulic lift system 2  รถที่ติดตั้งชุดลิฟท์สามารถยกได้สูงสุด 45 มม. เพื่อการยกและลดระดับอย่างต่อเนื่องและระยะห่างจากพื้นดินมากขึ้นเพียงกดปุ่ม !! ขับข้ามสิ่งกีดขวางที่ไม่สามารถผ่านได้ด้วยความสูงของรถปกติ ขึ้นอยู่กับประเภทและรุ่นของยานพาหนะ ชุดยกมีให้เลือกใช้เป็นโซลูชันเฉพาะสำหรับรถในแต่ละรุ่นครับ

 

ร้าน RePower “รีเพาเวอร์” สำหรับช่วงล่างนั้น RePower มีประสบการณ์ติดตั้งมากมาย กว่า 1,000 คัน ซึ่งมีตั้งแต่ Supercar , รถยุโรป รวมถึง 4×4 ด้วยและรถญี่ปุ่นเล็ก ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะช่วงล่างแบบไหนก็มั่นใจได้กับมาตรฐานงานติดตั้งที่ RePower นอกจากนั้นการติดตั้งช่วงล่าง ที่ดีและเรามุ่งเน้น คือ การติดตั้งที่ได้รับมาตรฐานไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับรถยนต์หรือชิ้นส่วนอื่นๆของตัวรถยนต์ และ การปรับค่า หรือที่เรียกว่า การ “fine-tune”ซึ่งก็คือการปรับค่าให้เข้ากับบุคคลนั้นๆซึ่ง เป็นสิ่งที่สำคัญมาก สำหรับการติดตั้งช่วงล่าง เพราะ จะทำให้ลูกค้าได้รับ Feeling ที่ดีที่สุด สำหรับ ลูกค้าท่านนั้นๆ

 

ประวัติโดยย่อ ของ KW Suspension

 

KW Suspension KW Automotive GmbH ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 และเป็นที่รู้จักกันดีมานานหลายสิบปีเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมสำหรับการปรับแต่งรถยนต์และโปรแกรมช่วงล่างที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบัน KW Automotive GmbH ได้รับการขยายสาขาไปยังสถานที่ตั้ง 5 แห่งทั่วโลกและมีประมาณ พนักงาน 200 คน ผลิตภัณฑ์ KW ประกอบด้วยสปริงเหนือระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตไปจนถึงระบบกันสะเทือนแบบคอยล์โอเวอร์“ สายไอน็อกซ์” ในสามรุ่นที่ทำให้หมาด ๆ ซึ่งสามารถพิจารณาได้ว่าพวกเขานำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายในอุตสาหกรรมรถยนต์ทัวริง นอกจากนี้ KW Automotive ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับการแข่งรถมอเตอร์สปอร์ต โปรแกรมแข่งรถที่เรียกว่าการแข่งขัน KW ได้สร้าง KW automotive GmbH และสนใจทีมแข่งจำนวนมากในสนามแข่งมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นนอกเหนือจากระบบกันสะเทือนของ KW แล้วพวกเขายังสร้างแบรนด์ LSD-Doors ซึ่งเป็น บริษัท ภายใต้องค์กรร่ม KW automotive GmbH ระบบบานพับประตูที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้สามารถเปิดประตูรถขึ้นไปได้เหมือนใน Lamborghini บานพับแบบอนุกรมจะถูกแทนที่ด้วยอุปกรณ์ LSD เฉพาะรถ ประตูเดิมได้รับการบำรุงรักษา

 

KW suspension Thailand นำเสนอระบบกันสะเทือนประเภทต่างๆที่สามารถรับประกันว่าผู้ขับขี่ต้องใช้ชุด KW Coilover ที่มีรูปแบบการลดแรงสั่นสะเทือนบนท้องถนนที่แตกต่างกัน ระบบกันสะเทือน KW ให้ช่วงล่างที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกความต้องการและโปรแกรมการจัดส่งของเราสำหรับรถยนต์คลาสสิก ดังนั้นผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบรถยนต์คลาสสิกจะต้องพึงพอใจกับสถานะทางเทคนิคของยุคต้นทศวรรษที่หกสิบหกเจ็ดสิบหรือแปดสิบ ดังนั้นคุณจะได้สัมผัสกับรถของคุณโดยตรงและไดนามิกมากยิ่งขึ้นด้วยชุด KW Coilover นอกจากนี้ระบบกันสะเทือน KW ยังมีรายงานส่วนประกอบทางเทคนิคและเสนอความเป็นไปได้ในการลดขั้นตอนภายในช่วงที่ได้รับการอนุมัติ ระบบกันสะเทือนแบบคลาสสิกมีให้เลือกใช้ในรุ่นแดมเปอร์ที่แตกต่างกันและขึ้นอยู่กับรถเรายังใช้สตรัทที่มีสนับมือบังคับเลี้ยวซึ่งทำให้การประมวลผลหรือการใช้สตรัทแลกเปลี่ยนไม่จำเป็นอีกต่อไป ท้ายที่สุดคุณไม่ได้ซื้อชุดคอยล์โอเวอร์ใด ๆ แต่เป็นระบบกันสะเทือน KW ที่ได้รับการพัฒนาและปรับให้เหมาะกับประเภทรถของคุณโดยเฉพาะ KW ในฐานะผู้ผลิตใช้ทรัพยากรของตัวเองส่วนประกอบคุณภาพสูงและเทคโนโลยีแดมเปอร์แบบเดียวกับผู้ผลิตปริมาณมาก

 

KW Coilover suspension V2 เป็นชุดระบบกันสะเทือนสำหรับผู้ขับขี่รถสปอร์ตที่ต้องการรถที่ปรับแต่งให้ต่ำลงพร้อมความสามารถในการปรับแต่งในการตั้งค่าและสามารถมีผลต่อการบังคับควบคุมและความสะดวกสบายด้วยการลดการตอบสนองใน 16 คลิก วิธีนี้ช่วยให้คุณตั้งค่าแดมเปอร์ KW ให้แน่นขึ้นหรือสบายขึ้นโดยไม่ส่งผลกระทบต่อวาล์วด้านล่างของขั้นตอนการบีบอัด

KW Coilover suspension V3 เป็นอุปกรณ์เสริมที่เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่เน้นสมรรถนะและผู้ที่ชื่นชอบการปรับแต่งที่ต้องการความสปอร์ตสูงในรถของพวกเขา แดมเปอร์ที่มีเทคโนโลยี“ TVR-A” และ“ TVC-A” ซึ่งสามารถปรับลดการสะท้อนกลับและการบีบอัดแยกกันทำให้สามารถตั้งค่าแดมเปอร์ได้อย่างครอบคลุม ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะส่งผลโดยตรงต่อพฤติกรรมการบังคับเลี้ยวการทรงตัวทิศทางการยึดเกาะยางและลักษณะการบังคับควบคุมเพื่อให้สามารถควบคุมได้อย่างปลอดภัยที่ขีด จำกัด KW Variant 3 ช่วยให้สามารถลดค่าสูงสุดหรือรายบุคคลได้ภายในช่วงการปรับที่ทดสอบ เนื่องจากด้ายรูปสี่เหลี่ยมคางหมูที่ทนต่อสิ่งสกปรกและแหวนเกลียวใยสังเคราะห์การลดระดับอย่างต่อเนื่องสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายแม้จะผ่านไปหลายปี

 

 ผลงานการติดตั้ง KW Suspension โดยทีมงาน RePower “รีเพาเวอร์” โดยมีผลงานการติดตั้งมากกว่า 500 คัน++

ซึ่งผลที่ได้ คือ ลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความไว้วางใจกับทาง RePower เป็นอย่างดี เพราะได้รับสินค้าที่ตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริง

สินค้ารับประกัน 2 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

พร้อมติดตั้ง ราคาเริ่มต้นที่ 60,000.- บาทเท่านั้น

โดยแน่นอนครับ ลูกค้าส่วนใหญ่จะรู้จักกับ KW หรือ KW Suspension ในรุ่น KW V3 หรือ KW Variant3 นั่นเอง วันนี้ทางเรา RePower จะขออธิบายรุ่นต่างๆที่เป็น Street Use ซึ่งบอกได้เลยครับว่าเพียงพอต่อการขับขี่ แล้วรวมถึงถ้าจะลงสนามแบบ Sunday Drive กับเพื่อนๆก็ยังสามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ 

 

Frequently Ask Question :: คำถามที่พบบ่อย

 

– โช๊ค KW Suspension ทำให้รถจะเตี้ยลงหรือไม่

แน่นอนครับว่าหากติดตั้งช่วงล่างระบบ Coilover หรือ โช๊คสตรัท ความสูงรถจะเตี้ยลงจากมาตรฐานโดยเฉลี่ยประมาณ 1.0-1.5 นิ้ว (25 – 40 มม.) โดยข้อได้เปรียบของรถที่เตี้ยลงเกี่ยวเนื่องกับ Center of Gravity หรือ จุดศูนย์ถ่วง ซึ่งช่วยลดอาการโคลงของรถได้เป็นอย่างดี

 

-โช๊ค KW Suspension มีเบ้าโช๊คมาด้วยหรือไม่

ไม่มีครับ ที่ทาง KW Suspension เลือกใช้เบ้าเดิมติดรถเพราะตามทฤษฎีแล้วเบ้าเดิมของค่ายผู้ผลิตรถยนต์ออกแบบมาได้ดีที่สุด อีกทั้งโรงงาน KW Suspension เองมีเครื่องมือในการผลิตสปริงได้หลากหลายรูปแบบทั้ง Linear Shape และ Spherical Shape จึงไม่ต้องใช้เบ้าโช๊คใหม่เพื่อรองรับตัวสปริงให้เข้ากับตัวถังรถยนต์นั้นๆครับ

 

– โช๊ค KW Suspension เป็นระบบแบบไหน

โช๊คจากค่าย KW Suspension ทุกรุ่นเป็นแบบ Twintube ซึ่งจะสามารถติดตั้งได้กับรถหลากหลายรุ่นและแบรนด์ เช่น BMW G30 G20, Mercedes Benz C43, Tesla 3, Toyota Alphard, Mini Cooper GP3, Audi TT

 

– โช๊ค KW Suspension มีกี่รุ่น

สำหรับรุ่นยอดนิยมจะมี 4 รุ่นครับ; KW Variant 1, KW Variant 2, KW Variant 3 และ KW DDC

 

-โช๊ค KW Variant 3 ปรับได้กี่ระดับ

โช๊ค KW Variant 3 เป็นโช๊คแบบ 2-way หรือ 2 แกน สามารถปรับช่วง Rebound(คืนตัว) ได้ 16 ระดับ และ Bump(ยุบตัว) ได้ 12 ระดับ

หากนำตัวเลขทั้ง 2 แบบมาคำนวณเท่ากับโช๊ค KW Variant 3 มีรูปแบบการปรับมากถึง 192 รูปแบบ

kw v4 – KW Suspensions หรือ ที่คนส่วนมากเรียกว่า KW เป็นโช๊คนำเข้าจากประเทศเยอรมันนีที่เป็นโช๊ครูปแบบ Twintube ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งความนุ่ม

และหนึบได้อย่างแท้จริง ซึ่งรุ่นนี้ KW Suspensions จะมีรุ่น Street Use ยอดฮิตอย่าง KW V3 หรือ KW Variant 3 นั้นเองซึ่งจริงๆแล้ว

KW Suspensions มีรุ่นโช๊คมากมาย ทางร้าน RePower ตัวแทนจำหน่ายโช๊ค KW Suspensions อย่างเป็นทางการ

 

ขอแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้ครับผม

KW Suspensions ผลิตจาก Stainless พิเศษที่เรียกว่า “inox-line” ซึ่งทำให้ทดทานต่อการใช้งานเป็นพิเศษ พร้อมทั้งมีการประกอบทั้งหมดแบบ

in-house production ความหมายคือ ทุกชิ้นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ KW ทั้งหมดถูกผลิตขึ้นที่ประเทศเยอรมันนีแบบ 100% นั้นเอง โดยจะมีรุ่น

หลักๆ ใน Street Use ทั้งหมด 4 รุ่น คือ KW Suspensions Variant 1 , KW Suspensions Variant 2 , KW Suspensions Variant 3 และ KW Street

Comfort นั้นเอง มาดูกันเลยว่าแต่ละรุ่น แตกต่างกันอย่างไรครับ

 

✴️KW Variant 1 หรือ KW V1 โช๊คสตรัท ปรับสูง-ต่ำ (ปรับ Pre-Load ได้)

✴️KW Variant 2 หรือ KW V2 โช๊คสตรัท ปรับสูง-ต่ำ (ปรับ Pre-Load ได้) + ค่า Rebound 16 ระดับ

✴️KW Street Comfort  โช๊คสตรัท ปรับสูง-ต่ำ (ปรับ Pre-Load ได้) + ค่า Rebound 16 ระดับ โดยเน้นค่าความแข็งสปริงให้นุ่มนวลมากกว่า KW Variant 2 และ โหลดลงน้อยกว่า

✴️KW Variant 3 หรือ KW V3 โช๊คสตรัท ปรับสูง-ต่ำ (ปรับ Pre-Load ได้) + ค่า Rebound 16 ระดับ + ค่าBump 12 ระดับ ซึ่งทำให้เป็นโช๊ค 2-way ซึ่งสามารถนุ่มและหนึบได้อย่างแท้จริง

หมายเหตุ : KW Suspensions มีรุ่นย่อยในการผลิตอยู่หลากหลายรุ่นรวมถึงโช๊คไฟฟ้า ก่อนสั่งโปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดของท่าน

 

ด้วยระบบกันสะเทือนแบบคอยล์โอเวอร์ KW V4 เราผสมผสานหนึ่งในเทคโนโลยีการแข่งรถชั้นนำของเราเข้ากับความเหมาะสมในชีวิตประจำวันที่เพิ่มขึ้นอย่างมากสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงจำนวนมาก ซึ่งช่วยให้สามารถปรับการหน่วงระยะการสะท้อนกลับและการหน่วงระยะการบีบอัดความเร็วต่ำและความเร็วสูงได้อย่างอิสระ KW จัดหา V4 ด้วยการตั้งค่าประสิทธิภาพเฉพาะรถ ด้วยแดมเปอร์แบบปรับได้ ผู้ขับสามารถเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วหากจำเป็นโดยใช้ปุ่มหมุนตั้งค่าบนแดมเปอร์

 

การติดตั้ง

การตั้งค่าแดมเปอร์ที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้าจากโรงงานพร้อมการปรับแดมเปอร์ 3 ทางแยกกัน

แดมเปอร์ประสิทธิภาพสูงที่ปรับได้สามทางพร้อมการตั้งค่าอิสระของสเตจรีบาวด์โดยเทคโนโลยี “TVR-A” รวมถึงแดมเปอร์สเตจการบีบอัดความเร็วต่ำและความเร็วสูงโดยเทคโนโลยี “TVCLH-A” คือ บนพื้นฐานของเทคโนโลยีการแข่งรถที่ประสบความสำเร็จของผู้ชนะหลายคนในการแข่งขัน ADAC Zurich 24h Nürburgring และขึ้นอยู่กับรุ่นเฉพาะของรถที่ยึดด้วยอะลูมิเนียมด้านบน คอยล์โอเวอร์ KW V4 ใหม่ได้รับการพัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงบางรุ่นเท่านั้น เนื่องจากเทคโนโลยีระบบกันสะเทือน KW ที่ซับซ้อนจึงสามารถได้รับประโยชน์จากการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นในขีดจำกัดของไดนามิกในการขับขี่

 

TVR-A rebound stage Damping (Twin Valve Rebound – ปรับได้)

เทคโนโลยี “TVR-A” สองขั้นตอนที่ได้รับการจดสิทธิบัตรช่วยให้ปริมาตรขนาดเล็กไหลผ่านบายพาสความเร็วต่ำรูปกรวยที่ปรับได้ในกรณีของความเร็วแดมเปอร์ช้า ในขณะที่ความเร็วลูกสูบสูงขึ้น วาล์วระยะการสะท้อนกลับหลักจะเปิดขึ้น สำหรับกระแสน้ำปริมาณมาก สิ่งนี้ให้การปรับปรุงครั้งใหญ่ในแง่ของความสบายในการขับขี่โดยไม่ส่งผลต่อความเร็วสูงในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย มีการคลิกที่แม่นยำ 16 ครั้งสำหรับการตั้งค่าแต่ละรายการ คุณจึงเลือกได้ระหว่างความสะดวกสบายหรือการควบคุมร่างกายที่มากขึ้น

 

TVCLH-A การบีบอัดสเตจแดมเปอร์ (Twin Valve Compression Low Highspeed – Adjustable):

ด้วยการคลิกที่แม่นยำ 6 ครั้งในความเร็วต่ำและการคลิกที่แม่นยำ 14 ครั้งในช่วงความเร็วสูงของช่วงลดแรงสั่นสะเทือน ส่วนตัดขวางในวาล์วจะลดลงหรือเพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้การหน่วงระยะการบีบอัดที่มากหรือน้อย เทคโนโลยี “TVCLH-A” มีลักษณะเฉพาะส่วนโค้งที่มีหน้าตัดขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยให้ใช้แรงที่ความเร็วต่ำได้สูงเพื่อการค้ำยันตัวรถที่เหมาะสมที่สุดโดยไม่ต้องยกตัวถังขึ้นในกรณีที่ความเร็วแดมเปอร์ที่เกิดจากล้อสูง (ในการขับขี่) เหนือขอบถนน) การตั้งค่าความเร็วต่ำและความเร็วสูงแยกต่างหากจะมาพร้อมกับการตั้งค่าการสะท้อนกลับเพิ่มเติม (“เทคโนโลยี TVR-A”) เสมอสำหรับการตั้งค่าแดมเปอร์ 3 ทางแบบแยกอิสระ

 

ลดอย่างต่อเนื่อง

ชุดคอยล์โอเวอร์ KW V4 อนุญาตให้ลดสูงสุดหรือเฉพาะบุคคลภายในช่วงการปรับที่ทดสอบแล้ว เนื่องจากเกลียวสี่เหลี่ยมคางหมูที่ทนต่อสิ่งสกปรกและวงแหวนเกลียวโพลีเอไมด์ การลดระดับอย่างต่อเนื่องจึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย แม้หลังจากหลายปีผ่านไป

 

เกณฑ์มาตรฐานสำหรับคอยล์โอเวอร์

เช่นเดียวกับคอยล์โอเวอร์ KW ทั้งหมด วิศวกรของ KW ได้พัฒนารอบการทดสอบที่ครอบคลุมบน Nürburgring Nordschleife และในศูนย์ทดสอบของเราที่แท่นขุดเจาะ KW 7-post จะมีการตั้งค่าแดมเปอร์ KW เฉพาะรถยนต์ที่ประเมินโดยผู้ที่ชื่นชอบรถทั่วโลก ดังนั้นคุณจะได้สัมผัสกับรถของคุณโดยตรงและมีพลังมากขึ้นด้วยชุดคอยล์โอเวอร์ KW

 

ท้ายที่สุด คุณไม่ได้ซื้อแค่ชุดคอยล์โอเวอร์ใดๆ แต่เป็นชุดคอยล์โอเวอร์ KW ที่ได้รับการพัฒนาและปรับแต่งเป็นพิเศษสำหรับประเภทรถของคุณโดยเฉพาะ KW ในฐานะผู้ผลิตใช้ทรัพยากรของตัวเอง ส่วนประกอบคุณภาพสูง และเทคโนโลยีแดมเปอร์แบบเดียวกับผู้ผลิตในปริมาณมากเท่านั้น ด้วยระบบกันสะเทือนแบบคอยล์โอเวอร์ KW V4 การเคลื่อนที่ของตัวรถและระยะพิทช์ของตัวรถจะลดลงระหว่างการบีบอัด คุณจึงได้ประโยชน์จากการควบคุมโดยตรงและการควบคุมที่สปอร์ตยิ่งขึ้นในขณะขับขี่

 

ประสบการณ์ของเราเพื่อความสุขในการขับขี่ของคุณ

ในฐานะผู้ผลิตเป็นผู้นำตลาดและผู้คิดค้นระบบกันสะเทือนแบบแยกส่วนสำหรับการใช้งานบนท้องถนนและการแข่งรถ ไม่ว่าที่ใดในโลก ผู้ขับขี่แบบสปอร์ต ผู้ผลิตรถยนต์ และผู้กลั่นกรองพึ่งพาคอยล์โอเวอร์

 

ชุดคอยล์โอเวอร์ KW ทุกชุดผ่านการทดสอบความเครียดอย่างกว้างขวางในระหว่างการผลิต และได้รับการพัฒนาและผลิตโดยตรงในสำนักงานใหญ่ของบริษัทของเราในฟิชเทนเบิร์ก เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงของการจัดการคุณภาพ KW ของเรา สิ่งสำคัญคือเราต้องรับประกันการรับประกันหลายปี สำหรับชุดคอยล์โอเวอร์ KW ของเรา ซึ่งเหนือกว่าคุณภาพของผู้ผลิตอุปกรณ์ดั้งเดิม รวมถึงโซลูชั่นระบบกันสะเทือนที่มีการใช้งานมากกว่า 4,600 รายการ

✍️ร้านเปิดให้บริการ จันทร์ – เสาร์

หยุดทุกวันอาทิตย์

เปิดตั้งแต่เวลา 9:00 ถึง 19:00 น.

🏎 RePower Corporation.

📍 ถนนงามวงศ์วาน ติดทางรถไฟก่อนออกวิภาวดี

ลิ้งแผนที่ https://g.page/Repowerthailand?share

📌www.repowerthailand.com

📱Line : @RePower ( มี@ด้วยนะครับ )

☎️ Mobile :

099-398-9900

098-555-4500

ข้าวกล่อง ชุดข้าวกล่อง

ข้าวกล่อง ชุดข้าวกล่อง ในปัจจุบันการดำเนินชีวิตของคนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่ละคนใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ ต้องการความสะดวกสบาย และทุกวันนี้โลกไร้พรมแดน เทคโนโลยีทางการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์  โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์ มือถือ แท๊ปเล็ต ต่างก็เข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญต่อชีวิตเราทุกคน ทำให้พฤติกรรมของคนเราเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคอาหาร ชุดข้าวกล่อง ซึ่งนิยมสั่งแบบดิลิเวอรี่ หลายคนยอมที่จะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกนิด เพื่อแลกกับความสะดวก และเวลาอันมีค่าของพวกเขา จึงทำให้คนเปลี่ยนจากการไปร้านอาหาร เป็นการสั่งอาหารออนไลน์แทน จึงเป็นที่มาของธุรกิจ Food Delivery แบบส่งให้ถึงที่ เกิดขึ้นมามากมายหลายราย

อาหารมีความหลากหลายอย่างมาก แต่อาหารไทยรสชาติต้นตำรับ ยังคงมีความนิยมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย หรืออยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม อาหารไทย มีหลากหลายเมนูให้เลือกทาน ไม่ว่าจะเป็น เมนูต้ม เมนูผัด เมนูแกง เมนูทอด เมนูนึ่ง เมนูปิ้ง-ย่าง รวมถึงวัตถุดิบต่างๆ ตั้งแต่ เมนูหมู เมนูปลา เมนูไก่ เมนูปลาหมึก เมนูกุ้ง เมนูหอย ครบทุกมิติของการทำอาหาร เพียงแค่เลือกว่าอยากทานอะไร อาหารประเภทไหน ก็สามารถสั่งผ่านทางเว็บไซต์ได้ง่ายๆ ด้วยความหลากหลายของเมนูอาหารไทยที่มากมาย เราสามารถได้ลิ้มลองรสชาติได้อย่างง่ายๆ เพียงแค่กดสั่ง ข้าวกล่อง จากร้าน “ข้าวกล่องอาม่า”

ปัจจุบันร้านอาหารไทยหลายๆร้าน ก็ได้เลือกนำเสนอเมนูที่ถ่ายทอดความอร่อยตามสูตรไทยโบราณ แบบดั้งเดิม ให้ได้ทานกันอย่างต่อเนื่อง วันนี้เราขอเอาใจคนรักอาหารไทย ด้วยการรวบรวมเมนูอาหารไทย ที่หาทานยาก มาให้เหล่านักชิมได้ตามไปลิ้มลอง ส่วนจะมีเมนู ชุดข้าวกล่อง อะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะน่าทานสักแค่ไหน

ชุดข้าวกล่อง แกงพะแนง

เป็นแกงที่มีกะทิเป็นส่วนผสม น้ำแกงมีความขลุกขลิก ที่หลายๆคนชื่นชอบ รสชาติของแกงพะแนงจะมีความเผ็ดหวานกำลังดี มีกลิ่นหอมจากกะทิที่เคี่ยวจนแตกมัน ซึ่งถูกผัดเข้ากับเนื้อหมู โดยเนื้อหมูที่ร้านเราใช้คือ เนื้อหมูสันคอ เนื่องจากเนื้อหมูสันคอจะมีความนุ่มเป็นพิเศษ เมื่อผัดกับเครื่องแกงพะแนงเข้ากับเนื้อหมูรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้เกิดเป็นรสชาติกลมกล่อม ใครอยากชิมและชอบความสะดวก สั่งได้จากร้านอาหาร ดิลิเวอรี่ ได้แล้ว อยากกินวันไหนก็สั่งได้เลยค่ะ

ชุดข้าวกล่อง แกงมัสมั่น

เป็นแกงน้ำขลุกขลิกที่รวมความหอมอร่อยไว้ในถ้วยเดียว การปรุงมีความพิถีพิถันจนทำให้เกิดรสชาติกลมกล่อม ซึ่งมัสมั่นโดดเด่นในเรื่องของกะทิและพริกแกง ขาดสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปไม่ได้เลย โดยจะเคี่ยวหัวกะทิจนแตกมัน ใส่พริกแกงมัสมั่นลงไปผัดให้หอม ใส่น่องไก่ลงไปผัดจนสุก เติมหางกะทิลงไป เคี่ยวจนเนื้อไก่เปื่อย ทานกับข้าวสวยแล้ว ทานกับโรตีหรือครัวซองก์ก็อร่อยได้เช่นกันค่ะ

ชุดข้าวกล่อง แกงส้ม

เป็นแกงที่มีรสชาติเปรี้ยวนำเผ็ดตาม เป็นเมนูที่เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพอย่างมากเพราะไม่ได้ผสมกะทิ เมนูนี้จะอร่อยได้ต้องมีเครื่องแกงที่เข้มข้น และวัตถุดิบที่สดใหม่ ทางร้านเราจะนำพริกแกงส้มที่โขลกด้วยสมุนไพรต่างๆ ไปละลายน้ำ ต้มให้เดือด ใส่ผักและเนื้อสัตว์ ปรุงรส เสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ โปะหน้าด้วยไข่เจียวสุดฟิน อีกทั้งลูกค้ายังจะได้ลิ้มรสความสดจากผักนานาชนิดที่เราเลือกใส่ลงไปอีกด้วย กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนแน่นอน เหมาะกับสาวๆที่กำลังไดเอทค่ะ

ชุดข้าวกล่อง แกงเขียวหวาน

เป็นแกงที่มีรสชาติกลมกล่อม หวานมัน ซึ่งเป็นอาหารไทยแท้ ที่มีกำเนิดในประเทศไทย แต่ได้รับอิทธิพลการใช้เครื่องเทศ และกะทิจากอินเดียและอาหรับ เนื้อสัตว์ที่ใช้ปรุง เช่น เนื้อวัว ปลา ไก่ หรือหมู เป็นส่วนประกอบหลัก ใส่ผัก ปรุงรสด้วยกะทิ มะเขือ น้ำตาล น้ำปลา ใบมะกรูด และใบโหระพา จุดที่สร้างความอร่อยที่แตกต่างจากเจ้าอื่นนั้น คือการเลือกใช้พริกสดสีเขียว สีแดง มาปรุงแทนการใช้พริกแห้ง นั่นเอง ทางเราคอนเฟิร์มเลยว่าเมนูนี้เป็นเมนูยอดฮิตอย่างมาก เนื่องจากรสชาติมีความเป็นแบบฉบับของไทยอย่างแท้จริง มีความหอม น้ำแกงข้นกำลังพอดี นิยมรับประทานกับข้าวสวย หรือทานกับขนมจีน สปาเก็ตตี้ โรตี ก็ฟินไปอีกแบบค่ะ

จากเมนู ชุดข้าวกล่อง ที่กล่าวมานี้ ถือเป็นเมนูที่ทำทานเองยากอยู่เหมือนกัน เพราะความอร่อยอยู่ที่เครื่องแกงแต่ละประเภท ซึ่งทางร้านของเรา จะเน้นเครื่องที่อัดแน่นไปด้วยสมุนไพร ทำให้แต่ละเมนูหอมน่ารับประทาน และปรุงด้วยวัตถุดิบสดใหม่ทุกวัน รับรองความอร่อยได้เลย สดใหม่วันต่อวันค่ะ

ในยุค โควิด 19 ใครๆก็สั่งอาหารดิลิเวอรี่ ซึ่งสะดวกสบายอย่างมาก ไม่ว่าเราอยากทานเมนูไหนแค่กดสั่ง แล้วรอคนมาส่งเท่านั้นเอง ไม่ต้องออกเดินทางไปซื้อเอง ทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทางอีกด้วย แถมไม่ต้องเจอรถติด หรือหลงทางอีก เพียงกดสั่ง ชุดข้าวกล่อง ปุ๊บก็ได้ทานปั๊บ สะดวกสุดๆไปเลย เหมาะกับยุคโควิด 19 อย่างมากเลยค่ะ

ข้าวกล่อง อาม่า

 

ข้าวกล่อง อาม่า ในปัจจุบันการสั่งข้าวกล่องนิยมมาก ในผู้ที่ชอบความสะดวกสบาย เพราะเมื่อคนเรามีความเร่งรีบในการใช้ชีวิต การรับประทานอาหารที่โต๊ะอาหารที่บ้านหรือร้านอาหาร รวมไปถึงการประกอบอาหารเองที่บ้าน อาจจะไม่สะดวกมากนัก ในช่วงเวลาที่คนเราเกิดความเร่งรีบ ไม่ต้องเสียเวลาเอาไปใส่จานหรือนำไปประกอบอาหาร  armabox.net

 

ทำให้ “ข้าวกล่อง” ถือเป็นปัจจัยสำคัญ อีกอย่างหนึ่งในการใช้ชีวิต เพราะข้าวกล่องมีความสะดวกสบายในการพกพา หิวเมื่อไหร่เปิดกล่องกินเมื่อนั้นเลย โดยข้าวกล่องแต่ละกล่องได้ปรุงตามความต้องการของทุกคนไว้แล้ว เพียงแค่เลือกเมนูอาหารที่อยากทาน โดยทาง ข้าวกล่องอาม่า

อาม่า ของเรามีรูปภาพอาหารประกอบการตัดสินใจให้กับลูกค้า ซึ่งทำให้ง่ายต่อการเลือกซื้ออีกด้วย

 

ยิ่งช่วงสถานการณ์ โควิด 19 อาจทำให้หลายๆ คนไม่สะดวกออกไปทานอาหารเอง เพราะต้องอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ  เราจึงมีทางเลือกหนึ่งทาง คือ สั่งอาหาร Delivery จาก ร้านข้าวกล่อง ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายเมนู ตามที่อยากจะทานกันเลย วันนี้เราจะมาแนะนำเมนูยอดฮิตจากทาง ร้านข้าวกล่อง อาม่า อาทิเช่น 

 

-ข้าวพริกแกงไก่ชิ้น

ผัดแบบขลุกขลิก ใส่ถั่วฝักยาว เนื้อไก่เน้นๆ ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล คลุกให้พริกแกงเคลือบจนทั่ว ทีเด็ดของเมนูนี้อยู่ที่ความเข้มข้นของพริกแกง มีความหอมสมุนไพร ส่วนเรื่องความเผ็ดสั่งได้ตามใจเลยค่ะ อาม่าใจดี ยิ่งทานกับข้าวสวยร้อนๆ ฟินมาก

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ + ผัดพริกแกงไก่ เเคลอรี่(Cal.): 475

 

-ข้าวต้มยำน้ำข้นปลากระพง

หอมกรุ่นด้วยเครื่องต้มยำ ไม่ว่าจะเป็นข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ต้มยำน้ำข้นราดด้วยนม ให้ความมัน ความเข้มข้น ใส่ปลากระพงชิ้นโตๆ รสชาติช่างเข้ากันอย่างมาก พูดเลยว่ารสชาติกลมกล่อมสุดๆ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าฟิน ซดน้ำได้อย่างคล่องคอกันเลยทีเดียว

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ+ปลากะพง เเคลอรี่(Cal.): 550

 

-ข้าวกะเพราปลาหมึกหมูกรอบ

ผัดกะเพราเป็นเมนูสิ้นคิดจริงหรือ?? ถ้าเราปรับเปลี่ยนวัตถุดิบจากหมูสับมาเป็นปลาหมึก และ หมูกรอบหละ มันก็แปลกได้แล้วนะ สำหรับเมนูนี้เหมาะมากกับคนที่ชอบทานทั้งปลาหมึกและหมูกรอบ แปลกใหม่กว่าร้านอื่นตรงที่นำสองอย่างนี้มาผสมผสานกัน ได้ทั้งความกรอบของปลาหมึกสดๆ และหมูกรอบ ที่กัดปุ๊บก็ฟินปั๊บ นำมาผัดกับใบกะเพราแล้วหอมกรุ่นจนข้างบ้านต้องทัก ราดกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยเหาะไปเลยค่ะ

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ+หมูกรอบ+ปลาหมึก+ใบกระเพรา เเคลอรี่(Cal.): 550

 

-ข้าวหน้าไก่

หลายคนนึกถึงเมนูไก่ แล้วนึกไม่ออกว่าจะสั่งเมนูอะไร นี่เลย เมนูง่ายๆ แต่อร่อย ข้าวหน้าไก่ เนื้อนุ่มๆ เคี้ยวเต็มปาก ใครได้ลองต้องติดใจ เพราะรสชาติเข้มข้น ไม่เลี่ยน หอมพริกไทย และซอสที่ผัดลงกับกะทะ ให้ความลงตัวกับเมนูนี้เป็นอย่างมาก เมนูง่ายๆแต่อร่อยได้ใจไปเลย

ส่วนประกอบ: ข้าวหอมมะลิ+ไก่ผัดซอส เเคลอรี่(Cal.): 560

 

-ขฺ้าวผัดหมู

เมนูธรรมดาๆ แต่ไม่ธรรมดา ข้าวผัดหมู ผักสีสันสดใส เนื้อหมูเน้นๆ หน้าตาน่าทาน ผัดกับซอสปรุงรส รสชาติกลมกล่อม กลิ่นซอสติดกะทะ ฟินไปอีก ข้าวผัด ร้านข้าวกล่อง อาม่า รับรองไม่เละไม่แฉะ ผัดกับข้าวหอมมะลิ ร่วนๆ กินแล้วเพลินเลย  แคลน้อยด้วยน๊า

ส่วนประกอบ: ข้าวผัด + เนื้อหมู เเคลอรี่(Cal.): 475

 

แต่ละเมนูของเรา ทำสดใหม่ทุกวัน เน้นวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ให้เต็มปริมาณ พร้อมเสริฟความอร่อยให้กับลูกค้าทุกท่าน “ข้าวกล่องอาม่า” ใส่ใจในเรื่องสุขภาพของลูกค้า โดยการคำนวณปริมาณแคลอรี่ให้ทุกเมนู ซึ่งง่ายต่อการเลือกเมนูสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ และไดเอทอาหาร ทุกท่านสามารถทานอาหารร้านเราแล้วไม่ต้องกลัวอ้วนกันเลย ได้ทั้งความสะดวก อร่อย เต็มเปี่ยมไปด้วยสุขภาพที่ดี  

 

และทาง ร้านข้าวกล่อง อาม่า ยังให้ความสะดวกสำหรับ องค์กรต่างๆ ที่สั่งข้าวกล่องปริมาณมาก สำหรับ การจัดประชุม จัดเบรค อีกด้วย พร้อมส่งตามเวลาที่กำหนด ทางเราใส่ใจรสชาติอาหารแต่ละกล่อง โดยเฉพาะทุกกล่องรสชาติได้มาตรฐานเดียวกัน อร่อย ถูกสุขลักษณะ ทุกกล่อง เพราะเราคือครัวมืออาชีพ พร้อมผลิตตามออเดอร์ได้ทันเวลา องค์กรต่างๆที่สั่งกับทางเรา ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะจัดส่งให้ไม่ทัน ครัวเราเป็นครัวใหญ่ สามารถผลิตได้มากถึงวันละ 1000 กล่อง งานประชุมเล็กหรือใหญ่ ก็สั่งกับทางเราได้ค่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราก็มีข้อแนะนำสำหรับการจะจัดเตรียมงานประชุมให้สำหรับผู้จัดงานประชุม ว่าควรคำนึงถึงอะไรบ้างในการจัดประชุม

 

ข้อแนะนำที่ควรทราบในการจัดอาหาร สำหรับงานประชุม ด้วยข้าวกล่อง มีดังนี้

 

  1. จำนวนคนที่จะมารับประทาน ควรเผื่อจำนวนคนไว้ด้วยค่ะ
  2. การแพ้อาหารของแต่ละคน
  3. สถานที่จัดงาน
  4. จัดอาหารเนื่องด้วยโอกาสอะไร
  5. เวลาและการบริการ
  6. งบประมาณ

 

การทำอาหารของอาม่า แต่ละจานเปรียบเสมือนการทำให้คนในครอบครัวทาน เราจึงกล้าการันตีคุณภาพที่คุณจะได้รับจากอาหารทุกกล่อง อาหารทุกกล่องจึงปรุงใหม่ ถูกหลักอนามัย ด้วยความห่วงใยเหมือนคนในครอบครัว ทั้งรสชาติและปริมาณ ก็อิ่มอร่อยกันได้เลย เพียงกดสั่งผ่านเว็บไซต์ แล้วทักมาในไลน์ของร้าน แค่นี้ก็รอรับความอร่อยได้แล้วทุกมื้อ ไม่เพียงแต่สั่งข้าวกล่องทานเองเท่านั้น อาม่าบ๊อกยังมีชุดสังฆทานอีกด้วย

 

สังฆทานคืออะไร ? สังฆทาน แยกคำได้ว่า “สังฆะ” แปลว่า หมู่ กลุ่ม หรือส่วนรวม และ “ทาน” แปลว่าการให้ ความหมายโดยรวมคือ ถวายเป็นของสงฆ์ ดังนั้นคำว่า สังฆทาน แปลได้ว่า เป็นทานที่ตั้งใจถวายแก่พระสงฆ์โดยไม่เจาะจงรูปใดรูปหนึ่ง ให้เป็นของส่วนรวม โดยจะถวายอะไรก็ได้ที่เหมาะสมกับชีวิตสมถะของพระภิกษุสงฆ์ตามกำลังทรัพย์และกำลังศรัทธา เป็นการแสดงถึงความตั้งใจจะถวายด้วยศรัทธาอันเป็นสาธารณะ และนี้แหละคือความหมายของคำว่าสังฆทาน

 

ยุคสมัยเปลี่ยน แต่การทำบุญถวายสังฆทาน ก็ยังคงอยู่กับวัฒนธรรมไทยของเรา และทุกวันนี้ การจะหาซื้อของถวายสังฆทานช่วงโควิด เป็นอะไรที่ดูจะยุ่งยาก ข้างนอกผู้คนแออัด โควิคก็ติดกันง่าย เมื่อคุณไม่อยากจะออกจากบ้าน อาม่าบ๊อก พร้อมนำเสนอความสะดวกสบาย ให้กับคุณได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร ของว่าง หรือ แม้แต่ชุดถวายสังฆทาน เพื่อนำไปทำบุญที่วัด ผ่านช่องทางออนไลน์ ของเรา “อาม่าบ๊อก” ได้แล้ววันนี้ 

 

อาม่าบ๊อก ขอนำเสนอ ชุดสังฆทานเดลิเวอรี่ ส่งตรงถึงมือคุณ สามารถทำบุญ ได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งทางอาม่าบ๊อกมีเซ็ตถวายสังฆทาน ให้เลือกหลากหลายแบบ ขึ้นกับความต้องการ ของลูกค้าได้เลย 

 

-ชุดถวายสังฆทาน

รายการสังฆทาน ทั้งหมด 15 อย่าง ต่อ1ชุด มีดังนี้

  1. ชุดธูปเทียน 2. กล่องทิชชู่ 3. การ์ดคำกล่าวถวาย 4. ปลากระป๋อง 5. โจ๊กถ้วย 6. ฟองน้ำพร้อมใยขัด 7. ยาสีฟัน 8. สบู่ก้อน 9. น้ำยาล้างจาน 10. ยากันยุงกย.15  11. เเป้งเย็นตรางู 12. ผงซักฟอก 13. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  14. กระดาษทิชชู่ 15. นมlactasoy(2กล่อง)

 

-เซต ถวายพระพุทธรูป / ถวายผู้วายชนม์

กับข้าว ประกอบไปด้วย ข้าวหอมมะลิ+กับข้าว 2 อย่าง+ขนมหวาน+น้ำเปล่าขวดเล็ก (บรรจุใส่ถ้วยพร้อมช้อน) ทางลูกค้าสามารถเลือกได้ว่า จะใส่เป็นกับข้าวอะไร ทางอาม่าบ๊อกจะคอยดูแลจัดเตรียมให้

 

การถวายเครื่องสังฆทาน 

สังฆทาน หากเเยกตามความหมายเเล้ว สังฆะ แปลว่า กลุ่ม หรือหมู่ ส่วน ทาน แปลว่าการให้ รวมความหมายได้ว่า ทานที่ถวายให้แก่กลุ่มพระสงฆ์ โดยไม่เจาะจงพระสงฆ์รูปใดรูปหนึ่ง ผู้ทำบุญสามารถถวายอะไรก็ได้ที่เห็นว่าเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของพระสงฆ์

 

เครื่องสังฆทานมีอะไรบ้าง

สิ่งที่ควรมีในชุดถวายสังฆทาน ควรเป็นปัจจัยสี่ ทั้งของเครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของพระสงฆ์ 

 

เครื่องใช้ที่จำเป็นต่อพระสงฆ์

เริ่มกันด้วย “ข้าวของเครื่องใช้” ในชีวิตประจำวัน ที่ขาดไม่ได้ โดยในส่วนนี้ อาจต้องพิถีพิถันในการเลือกซักนิด เพื่อให้ได้ของใช้จำเป็นที่มีความหลากหลาย ที่สำคัญ เมื่อนำไปถวายแล้ว พระสงฆ์น่าจะได้ใช้งานจริง อาทิ

 

หมวดทำความสะอาดร่างกาย สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ยาสระผม มีดโกน ใบมีดโกน

หมวดเครื่องนุ่งห่ม  ผ้าไตรจีวร ผ้าขนหนู (ผืนเล็ก/ผืนใหญ่)

หมวดของใช้อื่น ๆ  ธูปเทียน ไฟแช็ก ไฟฉาย ถ่ายไฟฉาย ร่ม ผงซักฟอก น้ำยาล้างจานหรือล้างห้องน้ำ กระดาษทิชชู่ รองเท้าแตะ ชุดจานชามและช้อนส้อม หนังสือบทสวดมนต์เล่มเล็ก สมุดและเครื่องเขียน ไม้ถูกพื้น แปรงล้างห้องน้ำ

 

ผู้ที่ถวายสังฆทานจะได้ทาน 3 ประการ ดังนี้

1. วัตถุทาน – ช่วยลดความตระหนี่ของผู้ถวาย ฝึกเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน

2. อภัยทาน – ช่วยลดความโกรธ ฝึกรู้จักการให้อภัยโดยการแผ่เมตตาหลังการทำบุญ

3. ธรรมทาน – การถวายหนังสือแด่พระสงฆ์เมื่อท่านนำไปอ่านแล้วเกิดความรู้ ถือเป็นทานที่เกิดจากการให้ธรรมะ

 

การถวายสังฆทาน เมื่อนำสิ่งของไปและพระสงฆ์รู้ความประสงค์ ท่านก็จะให้จุด ธูป เทียน แล้วก็ว่า นโม 3 จบ แล้วกล่าวถวาย สังฆทาน ดังนี้

 

““อิมานิ มะยัง ภันเต, ภัตตานิ, สะปะริวารานิ, ภิกขุสังฆัสสะ, โอโณชะยามะ, สาธุ โน ภันเต, ภิกขุสังโฆ, อิมานิ, ภัตตานิ, สะปะริวารานิ, ปะฏิคคัณหาตุ, อัมหากัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ”

 

ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอถวายภัตตาหาร กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ แด่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ ซึ่งภัตตาหาร กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนานเทอญ”

 

พระสงฆ์จบจะ สาธุๆ แล้วก็ถวายของที่เป็นสังฆทานทั้งหมด ให้ท่าน แล้วท่านก็จะให้ศีล ให้พร ยถา สัพพี ผู้ถวายสังฆทาน ก็กรวดน้ำ แผ่ส่วนบุญกุศล เป็นอันเสร็จพิธีทำบุญถวายสังฆทาน

 

ไม่ว่าจะโอกาสไหนๆ เราก็สามารถทำบุญได้อย่างสะดวกสบายด้วยการสั่งเครื่องสังฆทานเดลิเวอรี่ผ่านช่องทางออนไลน์ของ อาม่าบ๊อก เซ็ตทำบุญ เซ็ตถวายสังฆทาน เซ็ตถวายพระพุทธรูป / ถวายผู้วายชนม์ จัดส่งรวดเร็ว ภายในกทม. สั่งได้แล้ววันนี้ ไม่ว่าจะงานบุญ งานบุญวันเกิด เราจัดได้ทุกเซ็ต ให้อาม่าบ๊อกดูแลเรื่องบุญๆนะคะ

 

รับทำข้าวกล่อง อาม่า หรือ อาหารกล่องอาม่า บ๊อก สามารถรับทำ ได้ตั้งแต่ ขั้นต่ำ 20 กล่อง ถึง 1000+ กล่อง และเรายังสามารถ ทำข้าวกล่องจำนวนมาก ข้าวกล่องสามารถใช้ได้ ในทุกวาระ อาทิเช่น งานประชุมสัมมนา งานเลี้ยงพนักงาน งานบำเพ็ญกุศล (งานศพ) งานแจกทาน และงานการกุศล จัดงานเลี้ยง ข้าวกล่อง ได้หลากหลายรูปแบบ เรามีให้เลือก ทั้ง เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา กุ้ง ปลาหมึก เนื้อปู และ มังสวิรัติ ข้าวกล่อง อาม่า บ๊อก  สามารถดัดแปลงได้ ทั้ง ข้าวสวย ข้าวผัด ข้าวเหนียว เส้นหมี่ขาว เส้นหมี่เหลืองฮ่องกง และ ก๊วยเตี๊ยว ต่างๆ

Profender

Profender โปรเฟนเดอร์

 

Profender โช๊ค ผลิตจากประเทศไทย ที่ส่งออกแล้วทั่วโลก รวมถึงอเมริกา และ ยุโรป โปรเฟนเดอร์ เป็นโช๊คผลิตจากประเทศไทย ที่ส่งออกแล้วทั่วโลก รวมถึงอเมริกา และ ยุโรป ส่วนใหญ่ตัวโช๊คจะเป็นระบบ Monotube ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งความนุ่มและหนึบช่วยลดอาการโคลงเคลง ที่จะชอบมีในรถ Pickup และ PPV ซึ่งโช๊ค Profender มีรุ่นและคุณสมบัติ ดังนี้

✴️Profender Monotube2.0 ปรับระดับนุ่มแข็งไม่ได้ คู่หน้าปรับสูงต่ำได้ 

✴️Profender Monotube Subtank เป็น Subtank แยก ปรับนุ่มแข็งได้ 8 ระดับ คู่หน้าปรับสูงต่ำได้

✴️Profender Queenseries มี Subtank ในตัว คู่หน้าปรับสูง-ต่ำได้และปรับนุ่มแข็งได้ 16 ระดับมาพร้อมสปริง คู่หลังปรับนุ่มแข็งได้ 8 ระดับ 

✴️Profender OEM2.5 เป็น Subtank แยก ปรับนุ่มแข็งได้ 8 ระดับ คู่หน้ามาพร้อมสปริง ปรับสูงต่ำได้ (แต่โหลดเตี้ยกว่า STD ไม่ได้)

 

PROFENDER ซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม

รถกระบะส่วนใหญ่เมื่อขับแล้วจะรู้สึกถึงแรงกระด้างมากกว่ารถธรรมดา เนื่องจากผู้ผลิตได้ออกแบบมาให้บรรทุกของหนัก ๆ หากใครที่ใช้รถกระบะในชีวิตประจำวันอาจจะรู้สึกหงุดหงิดกับการสะเทือนนี้เพราะด้านหลังเป็นแหนบที่ออกแบบมาเพื่อใช้บรรทุกและมีความนุ่มนวลน้อยกว่าระบบสปริง แต่หากผู้ใช้รถเลือกใช้โช๊คอัพ PROFENDER รุ่นโมโนทิวบ์ ตัวโช๊คจะมีแรงดึงสูง มีความสามารถรั้งแรงดีดที่เกิดจากการขนของหนัก ซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม ช่วยลดการโยนตัวของรถ ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกมั่นคงและมั่นใจระหว่างขับขี่

 

PROFENDERประสิทธิภาพดีไม่มีตก

ลูกสูบของโช๊คอัพรุ่นโมโนทิวบ์เป็นแบบ High Flow สามารถตอบสนองต่อแรงภายนอกฉับไว ทันที สามารถขับเปลี่ยนเลนไว ๆ ได้แบบไม่อันตราย ถึงแม้จะขับต่อเนื่องยาวนานติดต่อกัน ประสิทธิภาพก็ดีไม่มีตก วิ่งนานไม่มีเหนื่อย เนื่องจากตัวโช๊คระบายความร้อนได้เองอย่างรวดเร็ว น้ำมันในโช๊คไม่เป็นฟองเพราะมีแรงดันสูงบีบอัดฟองให้หายไป ซึ่งฟองอากาศเนี่ยแหละเป็นตัวร้ายที่ทำให้ประสิทธิภาพโช๊คตก และเสื่อมสภาพได้เร็ว

 

PROFENDERแรงดันสูงแต่ไม่กระด้าง

ใครที่เข้าใจผิดคิดว่าโช๊คอัพแรงดันสูงทำให้เกิดความกระด้าง ต้องทำความเข้าใจเสียใหม่ เพราะโช๊คอัพที่กระด้างเกิดจากการจูนวาล์วที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงการใส่ค่าสปริงที่แข็งเกินไป ไม่เกี่ยวกับระบบแรงดันสูงของโช๊คเลย เพราะแรงดันสูงที่โช๊คไม่เพียงพอต่อการกดของน้ำหนักรถลงทั้งคัน อีกอย่างโช๊คอัพ PROFENDERเป็นลูกสูบ High Flow สามารถเซ็ทให้นุ่มนวลได้ บอกได้เลยว่าจะติดโปรเฟนเดอร์ที่รถรุ่นไหนก็ขับได้อย่างปลอดภัย สบายใจทุกคัน

 

PROFENDERเสียแล้วอย่าทิ้ง ส่งซ่อมได้

โช๊คอัพโมโนทิวบ์ของแบรนด์นี้ หากใช้ไปสักระยะแล้วรู้สึกว่าโช็คมีปัญหาหรือซับประสิทธิภาพการทำงานไม่ดีเท่าเดิม อย่าทิ้ง! เพราะสามารถส่งซ่อมได้ ช่างจะตรวจสอบและเลือกดูว่าชิ้นไหนสามารถเปลี่ยนได้หรือชิ้นไหนที่ใช้งานได้ปกติ จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนโช๊คใหม่ทั้งชิ้น หลังจากซ่อมแล้วทางร้านจะรับประกันสินค้าให้เป็นระยะเวลา 6 เดือน แต่ถ้าอยากอัพเกรดโช๊คใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมก็สามารถปรึกษาช่างได้ตอนที่เปลี่ยนโช๊ค ประหยัดและคุ้มค่าอย่างแท้จริง

 

Profenderเป็นโช๊คผลิตจากประเทศไทย ที่ส่งออกแล้วทั่วโลก รวมถึงอเมริกา และ ยุโรป

ส่วนใหญ่ตัวโช๊คจะเป็นระบบ Monotube ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งความนุ่มและหนึบช่วยลดอาการโคลงเคลง ที่จะชอบมีในรถ Pickup และ PPV ซึ่งโช๊ค Profenderมีรุ่นและคุณสมบัติ ดังนี้

 

-Profender Monotube2.0 ปรับระดับนุ่มแข็งไม่ได้ คู่หน้าปรับสูงต่ำได้ 

-Profender Monotube Subtank เป็น Subtank แยก ปรับนุ่มแข็งได้ 8 ระดับ คู่หน้าปรับสูงต่ำได้

-Profender Queenseries มี Subtank ในตัว คู่หน้าปรับสูง-ต่ำได้และปรับนุ่มแข็งได้ 16 ระดับมาพร้อมสปริง คู่หลังปรับนุ่มแข็งได้ 8 ระดับ 

-Profender OEM2.5 เป็น Subtank แยก ปรับนุ่มแข็งได้ 8 ระดับ คู่หน้ามาพร้อมสปริง ปรับสูงต่ำได้ (แต่โหลดเตี้ยกว่า STD ไม่ได้)

 

สำหรับช่วงล่างนั้น RePower มีประสบการณ์ติดตั้งมากมายกว่า 1,000 คัน ซึ่งมีตั้งแต่ Supercar , รถยุโรป รวมถึง 4×4ด้วยและรถญี่ปุ่นเล็ก ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะช่วงล่างแบบไหนก็มั่นใจได้กับมาตรฐานงานติดตั้งที่ RePower นอกจากนั้นการติดตั้งช่วงล่างที่ดีและเรามุ่งเน้น คือการติดตั้งที่ได้รับมาตรฐานไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับรถยนต์หรือชิ้นส่วนอื่น ๆของตัวรถยนต์ และ การปรับค่าหรือที่เรียกว่า การ”fine-tune”ซึ่งก็คือการปรับค่าให้เข้ากับบุคคลนั้น ๆซึ่ง เป็นสิ่งที่สำคัญมาก สำหรับการติดตั้งช่วงล่าง เพราะ จะทำให้ลูกค้าได้รับ Feelingที่ดีที่สุดสำหรับ ลูกค้าท่านนั้นๆ

 

โช๊ค Profender OEM2.5 + Monotube2.5 Piggyback FORD EVEREST

 

-โช๊คอัพแก๊สกึงน้ำมัน ที่มาพร้อมสปริง พิเศษ

-สปริง สามารถเลือกค่าน้ำหนักให้เหมาะกับลักษณะของรถได้

-แกน ขนาด 18 มิล ที่ให้ความนุ่มนวล และทนทานต่อการใช้งาน

-ลูกสูบ 60 มิล ที่สามารถสร้างแรงต้านของสปริงได้ดี

-กระบอก ขนาด 66 มิล ที่ช่วยในการระบายความร้อนได้ดี

-เป็นโช๊คอัพ ระบบแก๊สกึ่งน้ำมันกระบอกชั้นเดียว Monotube

-เหมาะสมทุกลักษณะการใช้งาน และ Heavy Duty

 

โช๊ค Profender Queenseries + Subtank Piggyback พร้อมสปริง STD TOYOTA NEW FORTUNER

 

โช๊ค Profender Queenseries + Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ

-คู่หน้า Profender Queenseries

-คู่หลัง Profender Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ

 

โช๊ค Profender Monotube2.0 NISSAN NAVARA NP300

-โช๊คอัพ Profender Monotube 2.0 ตอบสนองทุกเส้นทางควบคุมการขับขี่ได้ดี

-ตัวโช๊คเป็นระบบ Monotube ด้านหน้าปรับเกลียวรองรับการยก 2″ ในตัวเอง

-ส่วนด้านหลังสามารถติดตั้งแบบหัวกลับ(Upside down)

-ตัวกระบอกสามารถเปิดซ่อมได้ มั่นใจขึ้นกับสมรรถนะในการขับขี่ ไม่แข็งกระด้าง

 

โช๊ค Profender Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ + สปริง Profender ความสูง STD

-โช๊คอัพ ระบบโมโนทิวป์ (Monotube 2.0)

-แกน ขนาด 16 มิล กระบอกชั่นเดียว

-มีลูกสูบ sub-tank แยกห้องระหว่างน้ำมันกับ แก๊สออกจากกันอย่างชัดเจน

-ระบบไนโตรเจนแรงดันสูง 100-200 psi

-ลูกสูบขนาด 46 mm

-กระบอกซับแท้งค์ ทำจากอลูมิเนียมเกรดเครื่องบิน 6061t6 แข็งแรง

-กระบอกซับแท้งค์ ช่วยระบายความร้อนได้ดีและเร็วกว่า โมโน2.0

-กระบอกซับแท้งค์ ช่วยสำรองปริมาณนำ้มันที่มากขึ้นกว่าระบบโมโน2.0ถึง 25%-30%

 

โช๊ค Profender Queenseries + Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ ISUZU MU-X

 

-คู่หน้าProfender Queenseries

-คู่หลังProfender Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ + Piggyback

-โช๊คอัพ ระบบโมโนทิวป์ (Monotube)

-มีห้องซับแท้งค์ภายใน

-กระบอกชุบผิว 3 ชั้น

-กระบอกชั่นเดียว

-มีลูกสูบ sub-tank แยกห้องระหว่างน้ำมันกับ แก๊สออกจากกันอย่างชัดเจน

-ระบบไนโตรเจนแรงดันสูง 100-200 psi

-ลูกสูบขนาด 46 mm

-สามารถปรับ น้ำหนักได้ 16 ระดับความนุ่ม

-มาพร้อมสปริงพิเศษ

 

โช๊คProfender Queenseries + Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ ISUZU MU-X

 

-คู่หน้าProfender Queenseries

-คู่หลังProfender Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ

-โช๊คอัพ ระบบโมโนทิวป์ (Monotube)

-มีห้องซับแท้งค์ภายใน

-กระบอกชุบผิว 3 ชั้น

-กระบอกชั่นเดียว

-มีลูกสูบ sub-tank แยกห้องระหว่างน้ำมันกับ แก๊สออกจากกันอย่างชัดเจน

-ระบบไนโตรเจนแรงดันสูง 100-200 psi

-ลูกสูบขนาด 46 mm

-สามารถปรับ น้ำหนักได้ 16 ระดับความนุ่ม

-มาพร้อมสปริงพิเศษ

 

โช้คอัพProfender queen series ตัวนี้เป็นรุ่นใหม่ที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับท่านที่ชอบProfenderแบบสามารถปรับนุ่มหนึบได้ และจับกับสปริงProfender จัดไปทั้งชุดครบๆเลยครับ โช้คหน้าสามารถปรับได้ 16ระดับ มาพร้อมสปริง โช้คหลังสามารถปรับได้8ระดับ และมีโช้คหลังแบบซับแทงค์ Piggy back ปรับ8ระดับได้เช่นกันครับ

โรคหลายบุคลิก

จทำความรู้จักกับ ‘ โรคหลายบุคลิก’

 

โรคหลายบุคลิก เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจและเศร้าในเวลาเดียวกัน เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งได้สร้างอัตลักษณ์กว่า 2,500 อัตลักษณ์เพื่อปกป้องตัวเองจากพ่อแท้ๆที่ทารุณกรรมทางเพศและทำร้ายเธอมากว่า 7 ปี ตั้งแต่เธออายุเพียง 4 ขวบเท่านั้น โดยคดีนี้เป็นคดีแรกที่ศาลยอมรับและให้แต่ละอัตลักษณ์ของเธอขึ้นพูดและเป็นพยานในชั้นศาลอีกด้วย !

วันนี้ Agnos จะพามาทำความรู้จักกับ โรคหลายบุคลิกและเรื่องราวสุดแปลกนี้กัน

อันดับแรกเรามาทำความรู้จักกับ โรคหลายบุคลิก กันก่อน !

หลายๆคนอาจเคยได้ยินเรื่อง ‘โรคหลายบุคลิก’ กันมาบ้าง จากภาพยนตร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังดังระดับฮอลลีวูดอย่างเรื่อง Split (2016) หรือหนังเกาหลีที่ทั้งซึ้งทั้งตลก อย่าง Kill me,Heal me (2015) แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงล่ะ ?

โรคนี้มันอันตรายเหมือนในหนัง Split และจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งเหมือนในหนัง Kill me,Heal me หรือเปล่า ?


โรคหลายบุคลิก คืออะไร ?

โรคหลายบุคลิก คือ (Dissociative Identity Disorder – DID)  โรคทางจิตเวชแบบหนึ่ง ที่ผู้ป่วยจะมีบุคลิกเพิ่มขึ้นมามากกว่าหนึ่งคนขึ้นไป โดยตัวตนกับบุคลิกของเราจะสลับกันปรากฏตัวนั่นเอง

ความทรงจำ การกระทำ การรับรู้ ความคิด และความรู้สึกจะแยกกันโดยสิ้นเชิง ทำให้ผู้ป่วยอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ เมื่อบุคลิกอีกหนึ่งบุคลิกโผล่มา แต่ในบางกรณีอาจมีความทรงจำร่วมกันได้


โรคหลายบุคลิกเกิดจากอะไร ?

ส่วนมากสาเหตุของโรคนี้ คือ การได้รับการกระทบกระเทือนทางร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรงมาเป็นเวลานาน เช่น การโดนทำร้ายร่างกาย ถูกล่วงละเมิดทางเพศในวัยเด็ก หรือสูญเสียคนที่รักไป

แพทย์เชื่อว่าเมื่อเราต้องเจอกับเหตุการณ์ที่รุนแรงร่างกายและจิตใจของเราอาจรับมือไม่ไหว จึงสร้างอีกหนึ่งบุคลิกหรือตัวตนขึ้นมาเพื่อให้ตัวตนเดิมของเราไม่ต้องรับรู้กับเหตุการณ์นั้นๆ ถือได้ว่าเป็นกลไกป้องกันตัวเองของสมองเรานั่นเอง


อาการของโรคหลายบุคลิก

อาการและความรุนแรงของโรคหลายบุคลิกอาจแตกต่างออกไปในแต่ละคน ในบางรายตัวตนที่เพิ่มเข้ามาอาจไม่ได้อันตรายมากนัก แต่ในบางรายตัวตนที่เพิ่มเข้ามาอาจมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวและอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่นได้

โดยอาการที่พบมากในโรคหลายบุคลิกได้แก่ :

  • สูญเสียความทรงจำ
  • มีอาการหลอน เช่น เห็นภาพหลอน หรือได้ยินเสียงจากภายในที่คอยควบคุมตัวเอง
  • รู้สึกกังวลตลอดเวลา
  • รู้สึกไม่มีอำนาจในการควบคุมตัวเอง
  • เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นต่อความคิดและร่างกาย เช่น อยู่ดีๆก็มีแรงเยอะกว่าปกติ หรือคิดว่าตัวเองกลายเป็นเด็ก
  • ภาวะซึมเศร้า
  • อาการแพนิค
  • พฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไป เช่นกินเยอะหรือน้อยกว่าปกติ

 

เมื่ออัตลักษณ์เปลี่ยนไป ร่างกายเปลี่ยนตามมั้ย ?

เมื่ออัตลักษณ์ของผู้ป่วยเปลี่ยนไป ความสามารถและความคิดของผู้ป่วยอาจเปลี่ยนไปด้วย เช่น ตัวตนจริงๆของเราถนัดขวา แต่เมื่ออัตลักษณ์นั้นๆปรากฏตัวออกมา เรากลับสามารถเขียนมือซ้ายได้อย่างถนัด หรือจากที่เราเคยสายตาสั้น แต่พออัตลักษณ์ปรากฏตัวออกมา เรากลับมองเห็นได้ชัดเจนโดยไม่ต้องพึ่งแว่นสายตา เป็นต้น

 

ผู้ป่วยสามารถมีได้กี่อัตลักษณ์ ?

ยังไม่มีตัวเลขที่แน่ชัด แต่อาจมีได้มากกว่าหนึ่งจนไปถึงหลักพันเลยทีเดียว

 

แล้วใครกันล่ะ ที่ควบคุมให้อัตลักษณ์คนไหนปรากฏตัวออกมา ?

นักวิจัยเชื่อว่าในอัตลักษณ์ทั้งหมด จะมีอัตลักษณ์ผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมการปรากฏตัวของอัตลักษณ์อื่นๆ โดยหน้าที่นี้จะมีชื่อว่า ‘Gatekeeper’ ยังไม่มีชื่อเรียกในภาษาไทย แต่สามารถแปลตรงตัวได้ว่า ผู้เฝ้าหรือรักษาประตู

ซึ่ง Gatekeeper จะมีหน้าที่เป็นผู้ตัดสินใจว่าในสถานการณ์ไหนใครควรออกปรากฏตัว โดยการตัดสินใจส่วนมากจะเพื่อปกป้องทั้งร่างกายและจิตใจของตัวตนเราจริงๆ

 

เราสามารถสูญเสียตัวตนจริงๆได้มั้ย ?

ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าผู้ป่วยสามารถสูญเสียตัวตนจริงๆได้หรือไม่ แต่นักวิจัยเผยว่า อาจมีการเข้าใจผิดของอัตลักษณ์ว่าตัวเองนั้นคือเจ้าของร่างกายนี้จริงๆ

 

อัตลักษณ์สามารถเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่คนได้มั้ย ?

ถึงแม้จะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่อัตลักษณ์ของผู้ป่วยสามารถเป็นสิ่งอื่นได้นอกเหนือจากมนุษย์ เช่น สัตว์ ภูติผี ปีศาจ หรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตในจิตนาการที่ผู้ป่วยคิดขึ้นมา

 

โรคนี้สามารถรักษาได้มั้ย ?

โรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่จะอาการจะดีขึ้นได้และควบคุมอัตลักษณ์ไม่ให้ออกมา หรือทำให้หายไปได้ จากการรักษาแบบการทำจิตบำบัด การบำบัดความคิดและพฤติกรรม รวมถึงการใช้ยา

 

เรื่องราวของหญิงสาวที่มี 2,500 อัตลักษณ์ใน 1 ร่าง

เจนี เฮย์นส์ (Jenni Haynes)  ตัดสินใจฟ้องศาลเกี่ยวกับพ่อของเธอในปี 2009 ข้อหาทารุณกรรมทางเพศและทำร้ายร่างกายเมื่อตอนที่เธออายุได้เพียง 4 ขวบ จนถึง 11 ขวบ จนทำให้เธอสร้างตัวตนกว่า 2,500 ตัวตนขึ้นมาจากอาการป่วยโรคหลายบุคลิก

โดยเจนีในวัย 4 ขวบ ถูกพ่อแท้ๆของเธอข่มขู่และล้างสมองตลอดเวลาว่าเขานั้นสามารถอ่านใจของเธอได้ ถ้าเจนีกล้าไปบอกคนอื่นเรื่องการทารุณกรรม เขาจะฆ่าแม่ของเจนีและคนรอบข้างตัวเธอ ทำให้เจนีในวัย 4 ขวบไม่กล้าที่จะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือใดๆ

นอกจากนี้พ่อของเจนียังบังคับให้เจนีกลับบ้านทันทีเมื่อเลิกเรียน จึงทำให้เจนีนั้นไม่ค่อยมีเพื่อน บวกกับความคิดที่ว่าหากเธอไปเป็นเพื่อนกับใคร เพื่อนคนนั้นอาจจะโชคไม่ดีโดนพ่อของเธอทำร้ายไปด้วย

หลังจากที่พ่อกับแม่หย่ากัน เจนีได้มีโอกาสย้ายไปอยู่กับครอบครัวของฝั่งแม่ ทำให้มีโอกาสได้ไปรักษาร่างกายและบาดแผล

บาดแผลของเจนีนั้นรุนแรงและสาหัสมาก เธอมีบาดแผลตามตัว ทวารหนัก ลำไส้ กรามร้าวและหัก รวมถึงมีปัญหาในการมองเห็นอีกด้วย เธอยังต้องเข้ารับการผ่าตัดทำทวารเทียม เนื่องจากการทารุณกรรมทางเพศอันโหดร้ายในอดีต

จนกระทั้งในปี 2009 เจนีได้รวบรวมความกล้าและหลักฐานมากมายเพื่อยื่นฟ้องพ่อของเธอในข้อหาทำร้ายร่างกายและทารุณกรรมทางเพศ โดยเป็นเรื่องที่แปลกใหม่มาก เนื่องจากศาลอนุมัติให้อัตลักษณ์ 6 คนที่อยู่ภายในตัวเธอออกมาให้ปากคำและเป็นพยานได้

สุดท้ายพ่อของเขาถูกฟ้องกว่า 300 ข้อหาและสั่งจำคุกกว่า 45 ปี ซึ่งสามารถพูดได้ว่าพ่อของเธอจะต้องใช้ชีวิตที่เหลือในคุก เนื่องจากในตอนนั้นเขามีอายุ 74 ปีแล้ว

อัตลักษณ์ของเจนี

ถึงแม้เธอจะมีมากกว่า 2,500 อัตลักษณ์ แต่บางอัตลักษณ์นั้นปรากฏตัวเป็นเวลาเพียงสั้นๆและหายสาบสูญไป แต่จะมีอยู่ เพียงไม่กี่อัตลักษณ์ที่ปรากฏตัวบ่อยและมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือเธอ

  • ซิมโฟนี (Symphony) อัตลักษณ์แรกที่ปรากฏตัวขึ้น เป็นเด็กสาวอายุ 4 ขวบที่มีเสียงแหลมและชอบพูดเร็วเป็นอัตลักษณ์ที่ทำหน้าที่ออกไปรับการทารุณกรรมจากพ่อแทนเจนี และอาจเป็น Gatekeeper ที่คอยสลับเปลี่ยนอัตลักษณ์อื่นๆอีกด้วยแพทย์เชื่อว่าเนื่องจากเธออาจถูกทำร้ายครั้งแรกในวัย 4 ขวบ ทำให้ต่อมาเธอสร้างบุคลิกที่เป็นเด็กสาวอายุ 4 ขวบขึ้นมา

    เธอได้ขึ้นศาลเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่เลวร้ายในอดีตของเธอด้วย

 

  • มัสเซิล (Muscles) เป็นวัยรุ่นชายรูปร่างดี สูงและชอบใส่เสื้อแขนกุดโชว์กล้ามแขน เขาเป็นคนที่ใจเย็นและจะปรากฏตัวขึ้นเมื่ออัตลักษณ์อื่นๆถูกทำร้ายรุนแรงกว่าปกติ หรือเมื่อเจนีและซิมโฟนีรับไม่ไหวเขาได้ขึ้นให้การเกี่ยวกับรายละเอียดบาดแผลตามร่างกายและการทารุณกรรม

 

  • โวเคโน่ (Volcano) ชายหนุ่มที่มีรูปร่างสูงและแข็งแรง ชอบสวมชุดหนังสีดำทั้งตัวและย้อมผมสีบลอน
  • จูดาส (Judas) ชายหนุ่มผมแดงที่ใส่การเกงนักเรียนสีเทาและเสื้อแขนยาวสีเขียว จูดาสได้ขึ้นให้การกับศาลและบอกเล่าเรื่องราวในอดีตของเจนีอีกด้วย
  • ลินดา (Linda / Maggot) หญิงสาวรูปร่างผอมสูงเจ้าเสน่ห์ ที่ทั้งสวยและฉลาดในชุดกระโปรงสีชมพูและมัดผมเป็นมวย จะปรากฏตัวออกมาเมื่อเจนีมีปัญหาที่โรงเรียน
  • ริคกี้ (Ricky) เด็กชายอายุ 8 ขวบที่ใส่สูทสีเทา ผมสีแดง
  • ริค (Rick) ชายหนุ่มที่ใส่แว่นเหมือนกับพ่อของเจนีและมีใบหน้าลักษณะเหมือนคนแคระ

 

หากมีป่วยกายแน่นอนว่าต้องมีป่วยใจ และอาการป่วยทางจิตใจไม่ใช่เรื่องน่าอาย การขอความช่วยเหลือก็เช่นกัน

Agnos ขอเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนและกำลังใจให้ผู้ที่มีภาวะหรืออาการทางจิตใจ ให้ก้าวข้ามผ่านไปได้ !

หมั่นสังเกตอาการของตัวเองและคนใกล้ตัวเสมอ เพราะอาการเล็กๆน้อยๆ อาจทำไปสู่ภาวะและโรคอื่นๆได้

หากใครมีอาการที่กังวล สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อเช็กอาการเบื้องต้นได้ ฟรี 24 ชม !

 

 


อ้างอิง : https://did-research.org/did/alters/cores

https://did-research.org/did/alters/functions

https://www.pobpad.com/โรคหลายบุคลิก-dissociative-identity-disorder

https://www.bbc.com/thai/features-49627363

https://www.dailymail.co.uk/femail/article-10832627/The-woman-2-500-personalities-British-rape-victim-subjected-sexual-abuse-father.html

https://www.dailymail.co.uk/news/article-11256875/Rape-survivor-Jeni-Haynes-announces-relationship-three-years-Richard-John-Haynes-sentencing.html

https://www.bbc.com/thai/features-49627363