h-drive euro spec

h-drive euro spec – การใช้งานจริงสําหรับถนนหรือวงจรและกิจกรรมที่หลากหลาย สําหรับทุกเส้นทางการตั้งค่าที่เหมาะสม ระบบกันสะเทือน H.Drive Euro ช่วยให้สามารถควบคุมการตั้งค่าต่าง ๆ อย่างช้า ๆ และเป็นรายบุคคลเพื่อประสบการณ์การขับขี่และความสะดวกสบายในการขับขี่

H.drive ยูโรระงับโมโนทูปก๊าซความดันทําให้สําหรับยานพาหนะยุโรปและพรีเมี่ยม การปรับลดระยะการรีบาวด์ที่ปรับได้เป็นรายบุคคลช่วยให้มั่นใจได้ถึงการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นในส่วนถนนที่รวดเร็วและการควบคุมยานพาหนะที่ง่ายขึ้น ความสะดวกสบายในการขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ไม่ดีอาจได้รับอิทธิพลอย่างมากจากการลดระดับการฟื้นตัวที่กําหนดเอง ออกแบบด้วยลูกสูบเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ที่ 52 มม. (ยานพาหนะบางคัน) สําหรับยานพาหนะในยุโรป ปลอมอลูมิเนียมบนเมาท์ของ แผ่นอลูมิเนียมปลอมสําหรับน้ําหนักที่ลดลง และเพิ่มความทนทานและความแข็งแรง วงเล็บอลูมิเนียมเคลือบด้วยสีดําอโนไดซ์เพื่อปรับปรุงความต้านทานการกัดกร่อน

 

 

เราจึงมีผลิตภัณฑ์ที่พร้อมจะก่อให้กับเดินทางของคุณไม่มีอันตราย และก็ สบาย รถยนต์กลับมามีคุณภาพเต็มความสามารถอีกที ด้วยโช๊คอัพที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากลจากพวกเรา ซึ่งมีหลายประเภทตามรูปแบบการใช้งานของคนขับขี่ h-drive ราคา h-drive euro spec โช๊ค tein endurapro plus แม้กระนั้นจะมีแบบไหนบ้างนั้น พวกเราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกันเลย

1.DOBINSONS สปริงนำเข้าจาก ประเทศออสเตรเลีย ข้อสปริงที่มีขนาดใหญ่แข็งแรง ม้วนสปริงมีความถี่มาก จะสามารถซึมซับแรงชน เก็บรอยต่อถนนได้ดีมากว่าเดิม

2.FOX โช๊คอัพที่ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นโช๊คอัพที่ดี เป็นระบบ Monotube แบบอัพไซด์ดาวน์ รวมทั้ง จะมาพร้อมสปริง Eibach เหมาะสำหรับท่านที่ชอบฟิลลิ่งแน่นหนึบใช้ความเร็ว และก็ยังมีโช๊คอัพ Fox2.0LSC แบบชุดด้านหลังดูดซับแทงค์ปรับได้ 10ระดับ ให้ได้เลือกซื้อกันอีกด้วย

3.IRONMAN 4×4 ผลิตด้วยเครื่องใช้ไม้สอยที่ดกกว่า การเชื่อมที่แข็งแรง กรรมวิธีการผลิตที่นำสมัย ผลเป็น ส่วนประกอบที่เหนือชั้น ไม่มีโช๊คตัวไหนมาเปรียบเทียบได้ และยังมีโช๊คอัพ Ironman foamcellPro รุ่นท็อป ที่มีลักษณะพิเศษ และ มีขนาดใหญ่มาก

4.OVERLAND โช๊คอัพจากญี่ปุ่น เป็นระบบ Monotube แม้กระนั้นจะมีลักษณะพิเศษ คือ ด้านหน้าจะเป็นสตรัทปรับเกียว สามารถเลื่อนเนื้อความสูงต่ำได้ และยังสามารถรีวาวล์ใหม่ได้ นอกจากนี้ยังมีโช๊คอัพ Overland Raccoon Jump Plus ให้ได้เลือกซื้อกันอีกด้วย

5.OZY โช๊คอัพ OzyMonotube ปรับได้ 24 ระดับ สามารถปรับความอ่อนนุ่ม-หนึบได้ และก็ โช๊คอัพ Ozymono Monotube กึ่งหนึ่งก๊าสครึ่งน้ำมัน ลูกสูบผู้เดียวขนาดใหญ่จะแยกห้องก๊าซกับห้องน้ำมันได้อย่างแจ่มแจ้ง h-drive ราคา h-drive euro spec โช๊ค tein endurapro plus และก็ ยังมีโช๊คอัพ Ozymono ในราคาประหยัดให้ได้เลือกซื้ออีกด้วย

6.PROFENDER โช๊คอัพแบรนด์ไทย ขายในไทย และจากนั้นก็ ส่งออกต่างถิ่น มีหลายรุ่นแต่จะเน้นย้ำสำคัญๆเป็นระบบ Monotube กับ ระบบ Twintube โช๊คอัพดีมีคุณภาพ หาเหมาะกับเรามีโช๊คอัพ และก็ สปริง ที่สามารถตอบปัญหาให้ลูกค้าหลายยี่ห้อ หลายรุ่น สังกัดสิ่งที่มีความต้องการของลูกค้า บริการด้วยเครื่องมือทันสมัย และก็ ตามมาตรฐาน พร้อมกลุ่มช่างที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านหนทางพินิจ โช๊คอัพ รถยนต์ ของเราว่าผิดปกติไหม? ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแล้วหรือยัง? โดยเป็นแนวทางง่ายๆที่ทุกคนสามารถพิเคราะห์อาการเบื้องต้นได้ด้วยตัวเองวันนี้เรา h-drive ราคา h-drive euro spec โช๊ค tein endurapro plus มีเรื่องมีราวราวเกี่ยวกับโช๊คอัพรถยนต์มาฝากชาว คนรักษ์รถยนต์ ให้ได้ติดตามกันครับ คือเรื่องของแนวทางพินิจพิเคราะห์ ‘โช๊คอัพรถยนต์’ ของพวกเราว่าเปลี่ยนไปจากปกติหรือเปล่า? ถึงเวลาที่จะจะต้องแปลงแล้วหรือยัง? โดยเป็นแนวทางง่ายที่ทุกคนสามารถตรวจดูอาการพื้นฐานได้ด้วยตัวเองแม้จะไม่มีความรู้เรื่องรถยนต์ก็ตาม โช๊คอัพ เป็นอย่างไรใครกันแน่ทราบบ้าง?สำหรับรถยนต์แล้ว คือวัสดุอุปกรณ์ตอนล่างชิ้นสำคัญที่จะสามารถช่วยสำหรับเพื่อการรับแรงชน ลดแรงกระเทือนของตัวรถยนต์ ช่วยถ่วงการขยับขึ้นลงของตัวถังรถยนต์ให้รถยนต์กระดอนต่ำลงนั่นเอง โดยโช๊คอัพรถยนต์ หรือ Shock Absorbers นี้เป็นวัสดุอุปกรณ์สถานที่ทำงานด้วยระบบน้ำมันไฮดคอยลิค (น้ำมันโช๊ค) เป็นการซับแรงกระแทกจากสปริงแล้วก็แหนบที่ได้รับมาจากการที่รถยนต์เคลื่อนผ่านพื้นผิวสัมผัสถนนหนทางที่ไม่เรียบเนียนเสมอ รวมทั้งช่วยควบคุมการเลี้ยงตัวของรถยนต์

H.DRIVE รุ่น EURO

  • โช๊คอัพในระบบ MONOTUBE
  • ออกแบบลูกสูบที่มีขนาด 44 มม.
  • ปรับสูงต่ำแบบสไลด์กระบอก
  • ปรับค่าความหนืดได้ 32 ระดับ
  • สปริงที่ถูกออกแบบมาพร้อมค่า K เพื่อตอบสนองในการใช้งานจริงบนท้องถนน
  • วัสดุผลิตจากอลูมิเนียมเพื่อลดน้ำหนักและเพิ่มความทนทานและความแข็งแรง
  • ออกแบบมาเพื่อความนุ่มนวล เน้นใช้งานบนนท้องถนน

ราคา 35,900 บาท

H.DRIVE ประสบการณ์การขับขี่

              สปริงที่มีความแข็งแรงสูงทําจากเหล็กโครเมี่ยมซิลิคอนเป็นยานพาหนะที่ปรับเฉพาะในแดมเปอร์ช่วงล่างตามลําดับในอัตราสปริงเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานมันมีหลายโคเปอร์ ในอัตราสปริงที่ก้าวหน้าสปริงแขวนคอของขดลวดสปริงที่แข็งแกร่งแตกต่างกัน เมื่อแรงทําหน้าที่ขดลวดที่อ่อนแอจะยอมแพ้ในตอนแรกแล้วขดลวดฤดูใบไม้ผลิที่แข็งแกร่งขึ้น ปรับความสูง- ต่ําของรถไม่ส่งผลกระทบต่อความนุ่มนวลของทุกรายละเอียด ในการปรับแต่งเป็นสิ่งสําคัญที่จะทําให้ประสิทธิภาพสูง การปรับแคมเบอร์ใน Euro Suspension สามารถปรับได้ในการขับขี่สไตล์ของคุณ

 

จุดเด่นของโช้ค h drive

  • ระบบวาล์วโช๊คเป็นแบบ Mono Tube ตอบสนองการขับขี่ได้ดี สามารถใช้งานบนท้องถนนเมืองไทยได้อย่างสบาย
  • สามารถปรับความหนืดของโช๊คได้ถึง 32 ระดับ
  • ปรับความสูงของรถได้ด้วยการสไลด์กระบอกโช๊ค(ตรงจุดนี้จะไม่ส่งผลกับค่า K)
  • ผลิตจากอลูมิเนียมฟอร์จ แข็งแรง ทนทาน แต่น้ำหนักเบา
  • รับประกันสินค้า 1 ปีเต็ม
  • ใช้ได้กับรถยนต์หลากหลายรุ่นที่มีจำหน่ายในเมืองไทย

 

 

 

รีวิวสตรัท H-Drive 2

ถือเป็นสตรัทปรับเกลียวอีกหนึ่งชุดที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงการการขับในสนามแข่ง สตรัท H-Drive ชุดนี้ก็ก็สามารถดึงเอาสมรรถนะของ Honda Civic ออกมาใช้งานได้อย่างน่าประทับใจ

สำหรับใครที่เป็นเจ้าของ Honda Civic FC และคิดว่าช่วงล่างเดิมนั้น ยังไม่ดีพอ ยังไม่เร้าใจพอ สตรัทปรับเกลียว H-Drive Spec-S ก็เป็นตัวเลือกที่น่าคบหาไม่น้อยเลยทีเดียว รับรองได้ว่า ถ้าได้ลองใช้แล้ว จะเข้าใจความหมายของคำว่า Civic อย่างลึกซึ้งถึงใจแน่นอน

กลับสู่หน้าหลัก – savecyber

โช๊ค h drive

โช๊ค h drive – โช้คอัพ (Shock Absorber)เป็นวัสดุอุปกรณ์สำคัญ ที่ช่วยรองรับแรงกระแทก แล้วก็ลดแรงสั่นสะเทือนของรถ มีหน้าที่ช่วยควบคุมการดีดตัวของสปริง-แหนบ หรือตอนล่างให้คล้ายคลึงไปกับสภาวะของผิวถนนในตอนที่รถยนต์วิ่ง โช้คอัพที่มีคุณภาพสูง จะช่วยลดการเสียดสีแล้วก็การกร่อนของยาง ตลอดจนอะไหล่ตอนล่าง โดยเฉพาะลูกหมาก บู๊ชยาง ระบบกันสั่นสะเทือน ตลอดจนช่วยให้รถยนต์เกาะถนนหนทางก้าวหน้าอีกทั้งทางตรงและก็ขณะเข้าโค้ง

อายุขัยของโช้คอัพอายุการใช้งานของโช้คอัพ ขึ้นกับการใช้แรงงานและแนวทางการจัดตั้งที่สมบูรณ์และถูก โดยธรรมดาแล้วจะแก่การใช้แรงงานเฉลี่ยราวๆ 50,000-100,000 กิโลเมตร หรือ 3 ปี โดยผู้ผลิตจะเสนอแนะให้วิเคราะห์โช้คอัพทุกๆ20,000 กิโล แต่ว่าสิ่งที่น่าตกใจคือ จากสถิติรถยนต์เข้าศูนย์บริการพบว่า 1 ใน 4 คันโช้คอัพพังประเภทของโช้คอัพ

ราคา

H-DRIVE เป็นโช๊คผลิตจากประเทศไต้หวัน ส่วนใหญ่ตัวโช๊คจะเป็นระบบ Monotube ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งความนุ่มและหนึบมีผลิตรถเก๋งส่วนใหญ่ ทั้งรถญี่ปุ่น และรถยุโรป พร้อมรับประกัน 2 ปี ไม่มีจำกัดระยะทาง

ตัวโช๊คจะเป็นโช๊คสตรัทและสไลด์กระบอกได้ ปรับระดับความนุ่มแข็งได้ 30 ระดับ แบ่งออกเป็น 2 รุ่นหลักๆ ดังนี้

1.H-Drive S.Spec : จะผลิตให้กับรถญี่ปุ่น ขนาด เล็กราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 29,900 บาท

2.H-Drive S.Spec : จะผลิตให้กับรถญี่ปุ่น ขนาด กลาง-ใหญ่ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 33,900 บาท

3.H-Drive Euro Spec : จะผลิตให้กับรถยุโรป ราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท

โช๊คสตรัทปรับเกลียว H-Drive

โช๊คสตรัทปรับเกลียว TEINโช๊คสตรัทปรับเกลียว GAB รุ่น SS / SE / HE

฿27,900.00

โช๊คสตรัทปรับเกลียว H-Drive แบรนด์ดังจากอเมริกา คุณภาพคุ้มเกินราคาครับ ฟิวลิ่งหนึบนุ่ม ไม่กระด้างใช้ในชีวิตประจำวันได้สบายๆๆ เลย สเปกสินค้า
ตัวสตรัท ผลิตจากอลูมิเนียม น้ำหนักเบา แต่แข็งแรง,ทนทาน ไม่ชำรุดเหลือเสียหายง่าย ไม่เป็นสนิม
ตัวแกนโช้ค เป็นระบบ Mono Tube ตอบสนองพื้นถนน เวลาขับขี่ได้ดี หนึบ มั่นใจทุกการขับขี่ ระบายความร้อนได้เร็วกว่าโช้คเดิม
บูชผลิตจาก ยูริเทน ทนทาน ใช้ได้นาน สามารถปรับ ความสูง-ต่ำ ได้ด้วยการสไลด์กระบอกโช้ค ได้ทั้งคู่หน้าและคู่หลัง โดยที่ไม่ส่งผลกับค่าสปริง สามารถปรับความสูงต่ำได้มากกว่า
สามารถปรับความหนืด ได้ตั้งแต่ 16-32 ระดับ โดยปรับจากนุ่มไปถึงแข็งตามความต้องการได้

-แบ่งตามโครงสร้างของกระบอก ดังเช่นโช้คอัพกระบอกโดดเดี่ยว (Mono Tube) โช้คอัพกระบอกคู่ (Double Tube)

-แบ่งตามรูปแบบการนำไปใช้งาน ยกตัวอย่างเช่นโช้คอัพดำเนินงานจังหวะเดียว โช้คอัพทำงานสองจังหวะ

-แบ่งตามคุณลักษณะ h-drive eco spec h-drive b spec h drive eco spec เป็นต้นว่าโช้คอัพน้ำมัน จะใช้น้ำมันไฮดรอลิคส์เป็นตัวกึ่งกลางดำเนินการเพียงอย่างเดียว โช้คอัพก๊าซ โช้คอัพจำพวกนี้ใส่น้ำมันไฮดรอคอยลิกส์ และก็แก๊สไนโตรเจนเข้าไปข้างในกระบอกโช้คอัพ

อาการ “โช้คอัพ” ชำรุด

“โช้คอัพ”ที่ชำรุดทรุดโทรมจะส่งผลให้ระบบรองรับน้ำหนักและก็การบังคับเลี้ยวของรถยนต์แปรไป เป็นต้นว่า รถยนต์จะมีลักษณะอาการโคลงเคลงหรือโยนตัวขณะเลี้ยว ดอกยางสึกผิดปกติ การบังคับรถยากขึ้น และกำเนิดเสียงดัง

“โช้คอัพ”ทรุดโทรมจะมีผลยังไง

-เกิดการกระแทกอย่างรุนแรง เมื่อโช้คอัพแตกหรือรั่วซึม โช้คอัพจะไม่สามารถที่จะถ่วงการยึดหรือยุบของสปริงได้ เมื่อล้อบดทับบนก้อนกรวดหรือตกหลุม สปริงจะมีการยุบและยืดตัวอย่างเต็มเปี่ยมจนสุดระยะ ได้ผลให้เกิดการชนของส่วนประกอบ

-เสียการทรงตัว จะควบคุมการขับได้ไม่ดี เพราะเหตุว่าสปริง รวมทั้งระบบรองรับน้ำหนักของรถยนต์จะเต้นกระทั่งลอยจากพื้นถนน และถ้าหากเกิดเวลาที่ขับขี่รถเข้าโค้ง จะก่อให้สมดุลสำหรับเพื่อการทรงตัวของรถอีกทั้งคันเสียไปจนกระทั่งบางทีอาจเกิดอุบัติเหตุได้

-ยางสึกแตกต่างจากปกติ h-drive eco spec h-drive b spec h drive eco spec การชำรุดของโช้คอัพจะมีผลต่อการสึกของยางมากขึ้น โดยยางจะมีลักษณะการสึกเป็นหลุม ลึกเป็นพักๆยางรถยนต์จะสัมผัสกับถนนไม่เต็มหน้า

-ระยะเบรกมากขึ้น การขับขี่รถยนต์ที่มีการทรุดโทรมของโช้คอัพ 50% ส่งผลต่อระยะเบรกที่เพิ่มขึ้น 2.6 เมตร ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

-เพิ่มอาการเหาะน้ำ (Hydroplane)การชำรุดของโช้คอัพ ทำให้เพิ่มการเสี่ยงต่ออาการบินน้ำ ในตอนที่วิ่งบนถนนที่มีน้ำหรือในขณะฝนตก

-มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุในกลางคืน การชำรุดของโช้คอัพทำให้รถโคลงเคลงตัว ซึ่งจะมีผลให้ไฟหน้าของรถยนต์ส่องไม่คงเดิม ทำให้คนที่ขับรถสวนมา อาจตาพร่ามัว และนำไปสู่อุบัติเหตุเคล็ดวิธีควรจะรู้แนวทางสำรวจการพังของ “โช้คอัพ”

-การสังเกตจากสภาพข้างนอก ยกตัวอย่างเช่นบางครั้งก็อาจจะสังเกตจากสภาพการสึกของดอกยาง อาการที่รู้สึกได้จากการขับขี่บนท้องถนนที่ทำให้การขับขี่ไม่นิ่มนวล ซึ่งอาการแตกต่างจากปกติอาจเป็นเพราะเนื่องจากโช้คอัพ

-เครื่องทดลองโช้คอัพ (Shock Tester Machine)

-การขับทดลอง (Road Test)

– การเปรียบเทียบกับของใหม่ (Compare with new shock)พิจารณาภาวะโช้คอัพพื้นฐานด้วยตัวเอง

-ทำเป็นโดยการหยุดรถยนต์นิ่งๆใช้น้ำหนักร่างกายขย่มลงบนตัวถัง ใกล้กับโช้คอัพตัวที่ต้องการตรวจดู ขย่มลงไปสัก 5 ครั้งแล้วก็ปลดปล่อย ถ้าหากตัวรถจำต้องขยับขึ้นลงอีก 1-3 ครั้ง แสดงว่าโช้คอัพยังควบคุมความยืดหยุ่นได้ แม้กระนั้นถ้าหากตัวรถขยับขึ้นลงมากยิ่งกว่า 3 ครั้ง มีความหมายว่าโช้คอัพหมดความหนืด ไม่อาจควบคุมความยืดหยุ่นได้ เรียกว่าโช้คอัพตาย ไม่สามารถยืดยุบได้ตามธรรมดาข้อควรคำนึงเมื่อเปลี่ยนแปลงโช้คอัพใหม่

-การติดตั้งโช้คอัพมีรายละเอียดออกจะมาก เพราะฉะนั้นควรจะได้รับการติดตั้งจากช่างผู้เชี่ยวชาญ

-หากแม้โช้คอัพเป็นอุปกรณ์จุดสำคัญของระบบรองรับน้ำหนัก แม้กระนั้นโช้คอัพมิได้ทำหน้าที่รับน้ำหนักบรรทุก แต่ว่าเป็นตัวหน่วงเพื่อรถยนต์ได้รับแรงกระเทือนน้อยที่สุด ทำให้ล้อสัมผัสกับผิวของถนนหนทางขณะรถวิ่งได้อย่างสมดุล

-ควรจะหลบหลีกถนนหนทางที่มีสภาพไม่ดี เป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะว่าจะมีผลให้โช้คอัพต้อง h-drive eco spec h-drive b spec h drive eco spec ทำงานมาก

-การขับรถตกหลุมแรงๆหรือขับด้วยความเร็วขึ้น-ลง ลูกระนาด ทำอายุการใช้งานสั้นลง

-หลังการต่อว่าดตั้งโช้คอัพใหม่ๆควรขับรถบนทางเรียบประมาณ 300-500 กม.ก่อน เพื่อเป็นการวอร์มโช้คอัพ

กลับสู่หน้าหลัก –  savecyber

vorsteiner vff 111 ราคา

vorsteiner vff 111 ราคา

 

vorsteiner vff 111 ราคา เป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาล้อรถยนต์ Forged และ Flow Forged และสำหรับรถสปอร์ตและรถหรูหรา ที่ Vorsteiner สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุด ล้ำสมัย และโดดเด่นที่สุดในตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากที่สุด

 

Vorsteinerเชี่ยวชาญในรถยนต์หรูหราของยุโรปซึ่งการออกแบบนั้นมีเอกลักษณ์ของงานฝีมือที่มีความแม่นยำ และ เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้เหนือความคาดหวังของลูกค้า ล้อของ Vorsteinerได้รับการออกแบบ ทดสอบ และประกอบด้วยความภาคภูมิใจจากโรงงานผลิตในแคลิฟอร์เนีย

 

ล้อ Vorsteinerมีหลากหลายรุ่นสำหรับ BMW, Audi, Lamborghini, Range Rover, Mercedes, Porsche, Bentley และแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่ง Vorsteiner มีความภาคภูมิใจในงานของตัวเอง และความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการนำคุณภาพที่ดีที่สุดมาสู่ลูกค้า ซึ่งแน่นอนครับผม Vorsteiner ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เวลาออกสินค้าใหม่ๆจะเป็นที่สนใจของลูกค้ากลุ่มรถยุโรปและซูเปอร์คาร์จำนวนมาก โดย การออกแบบและผลิตที่ต้องเรียกได้ว่าดีที่สุด ถึงจะผ่านคุณภาพ ของ ล้อ จาก แบรนด์ Vorsteiner ได้นั้นเอง 

 

Vorsteinerที่มีการผลิตแบบ Flow forming ตอนนี้ที่ทั้งหมด 6 รุ่นได้แก่ V-FF103 , V-FF 105 , V-FF 107, V-FF 109 , V-FF 111 และ V-FF 112 นั้นเองซึ่งจริงๆแล้วต้องบอกว่า V-FF 113 ก็กำลังจะเปิดตัวแล้วในไม่ช้า และ หลายๆคนที่ติดตาม Vorsteinerตั้งแต่แรกต้องจำล้อสุดฮิตอย่าง V-FF101 ได้แน่นอนเพราะ ผลิตออกมาเท่าไหร่ก็หมดด้วยคุณภาพ และชื่อเสียงของ Vorsteinerแบรนด์จาก อเมริกาเหนือ ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก และ วันนี้คุณกำลังดูตัวไหนอยู่สามารถ สอบ-ถามทาง RePower รีเพาเวอร์ เพิ่มเติมได้เลยนะครับผม

 

Vorstiener โปรโมชั่น ลดราคา

 

-Vorstiener(V-FF 112 19″) Carbon Graphite ราคา

-110,000.00 ฿

125,000.00 ฿  (-12%)

 

-Vorstiener(V-FF 107 19″) Carbon Graphite ราคา

-110,000.00 ฿

125,000.00 ฿  (-12%)

 

-Vorstiener(V-FF 107 19″) TITANIUM MACHINE ราคา

-110,000.00 ฿

125,000.00 ฿  (-12%)

 

-Vorstiener(V-FF 103 19″) Carbon Graphite ราคา

-110,000.00 ฿

125,000.00 ฿  (-12%)

 

-Vorstiener(V-FF 107 19″) Carbon Graphite AUDI TT ราคา

-110,000.00 ฿

125,000.00 ฿  (-12%)

 

REPOWER CORPORATION

ศูนย์บริการยางรถยนต์ , ล้อแม๊กซ์ , ช่วงล่าง 

และ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์อย่างครบวงจร

ติดต่อ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร. 099-398-9900 , 098-555-4500 , 088-818-1718 

หรือ Line : @RePower

 

 

กลับสู่หน้าหลัก https://savecyber.com

ล้อbbs ราคา

ล้อbbs ราคา

 

ล้อbbs ราคา สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนเปลี่ยนเป็นสิ่งแรกเมื่อคิดจะแต่งรถให้ดูสวยขึ้นแตกต่างไปจากรถที่ถอยออกมาจากโชว์รูมก็คือ ล้อ ยังไม่นับรวมบรรดารถที่โชว์รูมแถมชุดแต่งมาให้รอบคันแล้วซึ่งเจ้าของมักอยากจะเปลี่ยนล้อใหม่เพื่อให้มันดูครบๆ หน่อยด้วย อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนล้อใหม่ไม่ได้เหมือนกับรองเท้าที่แค่เลือกลายและสีที่ถูกใจกับขนาดที่ต้องการก็สามารถใส่ได้เลย เพราะมีหลายสิ่งที่ต้องรู้เมื่อจะเปลี่ยนล้อใหม่ให้รถ

 

จำนวนรูน็อตและ PCD ของล้อ

นี่คือสิ่งแรกที่ควรรู้เกี่ยวกับล้อเพื่อที่จะสามารถนำมาใส่กับรถได้โดยไม่มีปัญหา โดยสิ่งนี้สามารถดูได้จากคู่มือของรถหรือด้านหลังของล้อเก่าที่แสดงเป็นตัวเลขอย่าง 4×100 ซึ่งตัวเลขแรกหมายถึงจำนวนรูน็อตของล้อเพื่อยึดติดกับรถ ส่วนตัวเลขหลังเป็นค่า PCD หรือ (Pitch Circle Diameter) ซึ่งหมายถึงระยะห่างของรูน็อตล้อ โดยวัดจากเส้นผ่านศูนย์กลางของรูน็อตที่อยู่ตรงกันข้ามโดยมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ดังนั้นล้อ 4×100 หรือที่เรียกกันว่าล้อ 4 รู 100 จึงหมายถึงล้อที่มีรูน็อต 4 รูโดยมีค่า PCD 100 มิลลิเมตร ส่วนล้อ 5 รู 114.3 หมายถึงล้อมีที่รูน็อต 5 รู มีค่า PCD 114.3 มิลิลเมตร

 

ขนาดและความกว้างของล้อ

หากต้องการเปลี่ยนแค่ลายและสีของล้อโดยไม่ต้องการเปลี่ยนขนาดของล้อ สิ่งต่อไปที่ต้องรู้คือขนาดของล้อและความกว้างของล้อเดิมที่มากับรถเช่นล้อขอบ 15 หน้ากว้าง  7 นิ้วหมายถึงล้อที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 นิ้ว และมีความกว้างของล้อ 7 นิ้ว โดยจะดูได้ที่ล้อเดิมที่มากับรถเช่น 7Jx15H2 ซึ่งเลข 7 จะหมายถึงความกว้างของกระทะล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว ตัว J หมายถึงลักษณะของขอบกระทะล้อ เลข 15 หมายถึงเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว และตัวอักษร H2 หมายถึงรูปแบบการออกแบบวงล้อแบบ Double Hump หรือดูที่ตัวเลขบนยางเช่น 175/65R15 ตัวเลขแรก 175 หมายถึงหน้ากว้างของยางมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ส่วน R15 หมายถึงขนาดของล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว ส่วน 2 ตัวเลขตรงกลางเป็นความสูงของแก้มยาง

 

หากต้องการเปลี่ยนเป็นล้อที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเช่นจากขนาด 15 นิ้วที่มาพร้อมกับรถเป็นล้อขนาด 17 นิ้วก็ควรเลือกใช้ร่วมกับยางที่มีแก้มยางเตี้ยลงเพื่อพยายามรักษาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อรวมกับยางให้เท่าเดิทหรือใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด

 

ออฟเซ็ตของล้อ

ออฟเซ็ตคือระยะเยื้องศูนย์ของหน้าแปลนรูน็อตล้อด้านหลังที่ยึดติดกับชุดดุมเบรกกับจุดกึ่งกลางของหน้ากว้างกระทะล้อ หรือพูดง่ายๆ ก็คือระยะจุดยึดของล้อกับรถว่าอยู่ห่างจากจุดกลางของความกว้างล้อแค่ไหน ซึ่งเมื่อเปลี่ยนล้อแล้วอยากให้เมื่อใส่เข้าไปแล้วไม่ยื่นออกมานอกตัวรถหรือหุบเข้าไปในตัวรถจนอาจมีปัญหาล้อและยางติดระบบช่วงล่างของรถก็ควร เลือกล้อใหม่ที่มีออฟเซ็ตของล้อเท่ากับออฟเซ็ตของล้อเดิมหรือใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด โดยสามารถรู้ออฟเซ็ตล้อได้ด้วยการดูที่ล้อซึ่งจะระบุไว้เช่น ET35 จะหมายถึงมีออฟเซ็ต +35 ซึ่งหมายถึงแปลนรูน็อตล้อด้านหลังอยู่ห่างจากจุดกลางของหน้ากว้างกระทะล้อออกมาทางด้านหน้าของล้อ 35 มม. แต่หากระบุ ET-10 จะหมายถึงมีออฟเซ็ต -10 ซึ่งหมายถึงแปลนดุมล้อห่างจากจุดกลางของหน้ากว้างล้อเข้าไปด้านในตัวรถ 10 มม.

 

เลือกใส่แม็กลายไหนถึงจะเข้านะ เพราะในปัจจุบันมีแม็กมากมายหลากหลายรุ่น หลายลาย หลายยี่ห้อ มาให้เลือกกันตาลาย วันนี้เราจะพาไปรู้จักล้อแม็กที่ฮิตตลอดกาลกันว่ามีอะไรบ้าง

 

  1. Volk TE37 สายซิ่งต้องรุ่นนี้เลยฮิตตลอดกาลไม่ว่าจะใส้กับรถกระบะ หรือรถเก๋ง ก็เค้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งมีให้เลือกทุกขนาดทุกไซส์ มีหลายสี สีขาว สีเงิน สีเหลือง และสีทองไหม้ สีนี้จะนิยมมากที่สุด เจ้า TE37 นี้ราคาเอาเรื่องเลย ราคา ขอบ 15 ของแท้ สีทองไหม้(BR) 4รู100 ที่เป็นสเปคยอดนิยมราคา 63,000 บาท คิดเอาเองว่าขอบ 17 หรือ 18 ราคาจะไปขนาดไหน แต่สวยสุดยอดจริงพูดเลย (ของเทียม ของก๊อบ เยอะมากราคาชุดละหมื่นต้นๆ)

 

  1. ENKEI RACING RPF1 รุ่นนี้สายซิ่งก็นิยมเช่นกัน ราคาย่อมเยาว์ลงมาหน่อย มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขอบ 14 – 19 นิ้ว และมีสีให้เลือกได้แก่ สีเงิน สีทอง และสีดำ ส่วนสีพิเศษอื่นๆนั้นถ้าต้องการ ก็สามารถสั่งทำพิเศษได้เช่น สีแดง หรือสีน้ำเงิน เป็นต้น ซึ่งราคาล้อ Enkei RPF1 นั้นจะเริ่มต้นที่28,000 บาทเท่านั้นเอง โดยส่วนตัวชอบมากลายนี้ (ของ ก๊อบเต็มตลาดเหมือนกันจร้าราคาชุดละหมื่นต้นเช่นกัน)

 

  1. Watanabe ลายนี้ฮิตมากใส่ได้กับรถทุกแนว แต่สำหรับรถคลาสสิค หรือจะเป็น แนวฟลัชนิยมมากเป็นพิเศษทีเดียว มันเป็นล้อที่ดูดีทุกขนาด ทุกออฟเซท14-18สวยหมด ราคาก็แรงคงกระพัน ลายนี้คนไทยจะรู้จักในชื่อ ล้อกล้วย นั้นเองมือ1ล้อแท้หายากนิดนึง แต่ถ้ามือ 2 จากญี่ปุ่นเพียบเลยจร้า มือ 2 จะขึ้นอยู่กับรุ่น ไซด์ และออฟเซท เริ่มตังแต่ประมาณ 15000 – 80000 (ในบ้านเราล้อก๊อบเพียบเลยนะจ๊ะ)

 

  1. W Work S1 โดยล้อW Work S1 เป็นล้อมีลายแบบ 5 ก้าน แบบล้อ 2 ชิ้นในขอบ 15 นิ้ว และเป็นแบบล้อ 3 ชิ้น ในขอบ 18 – 19 นิ้ววงการมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกนั้นนำล้อ W Work S1 ไปใช้ในการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นรถ Drift หรือจะนำไปใส่ในรถแต่งแนวต่างๆ เช่น แนว Racing หรือ จะเป็นในแนว Flush ก็ดูสวยไปอีกแบบ ราคาเริ่มต้นในขอบ 15 นิ้ว จะอยู่ที่ประมาณ 49,000 บาท

 

  1. BBS LM หากพูดถึงล้อสุด Classic ที่โด่งดังไปทั่วโลก ครองใจเหล่าสาวกที่ชื่นชอบการแต่งรถก็คงจะหนีไม่พ้น BBS LM ที่แค่ได้ยินชื่อก็ต้องร้อง อ๋อในทันที!! และแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์ดีไซน์ที่คงเอกลักษณ์สุด Classic เพียงอย่างเดียวที่ทำให้ล้อ BBS LM ยังคงความขลังอยู่ในใจของสาวก BBS มาได้มากถึงกว่า 30ปีสวยคลาสสิค สุดอมตะ งดงามล้ำกาลเวลา ลายใหม่ดูสปอร์ต สวยงาม ซิ่งมาก ส่วนมากนิยมใส่ในรถยุโรปอย่าง บีเอ็มดับเบิ้ลยู เบนซ์ ราคานั้นขึ้นอยู่กับรุ่นและขนาด

 

REPOWER CORPORATION

ศูนย์บริการยางรถยนต์ , ล้อแม๊กซ์ , ช่วงล่าง 

และ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์อย่างครบวงจร

ติดต่อ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร. 099-398-9900 , 098-555-4500 , 088-818-1718 

หรือ Line : @RePower

 

กลับสู่หน้าหลัก

bbs wheel thailand

bbs wheel thailand

 

bbs wheel thailand สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนเปลี่ยนเป็นสิ่งแรกเมื่อคิดจะแต่งรถให้ดูสวยขึ้นแตกต่างไปจากรถที่ถอยออกมาจากโชว์รูมก็คือ ล้อ ยังไม่นับรวมบรรดารถที่โชว์รูมแถมชุดแต่งมาให้รอบคันแล้วซึ่งเจ้าของมักอยากจะเปลี่ยนล้อใหม่เพื่อให้มันดูครบๆ หน่อยด้วย อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนล้อใหม่ไม่ได้เหมือนกับรองเท้าที่แค่เลือกลายและสีที่ถูกใจกับขนาดที่ต้องการก็สามารถใส่ได้เลย เพราะมีหลายสิ่งที่ต้องรู้เมื่อจะเปลี่ยนล้อใหม่ให้รถ

 

จำนวนรูน็อตและ PCD ของล้อ

นี่คือสิ่งแรกที่ควรรู้เกี่ยวกับล้อเพื่อที่จะสามารถนำมาใส่กับรถได้โดยไม่มีปัญหา โดยสิ่งนี้สามารถดูได้จากคู่มือของรถหรือด้านหลังของล้อเก่าที่แสดงเป็นตัวเลขอย่าง 4×100 ซึ่งตัวเลขแรกหมายถึงจำนวนรูน็อตของล้อเพื่อยึดติดกับรถ ส่วนตัวเลขหลังเป็นค่า PCD หรือ (Pitch Circle Diameter) ซึ่งหมายถึงระยะห่างของรูน็อตล้อ โดยวัดจากเส้นผ่านศูนย์กลางของรูน็อตที่อยู่ตรงกันข้ามโดยมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ดังนั้นล้อ 4×100 หรือที่เรียกกันว่าล้อ 4 รู 100 จึงหมายถึงล้อที่มีรูน็อต 4 รูโดยมีค่า PCD 100 มิลลิเมตร ส่วนล้อ 5 รู 114.3 หมายถึงล้อมีที่รูน็อต 5 รู มีค่า PCD 114.3 มิลิลเมตร

 

ขนาดและความกว้างของล้อ

หากต้องการเปลี่ยนแค่ลายและสีของล้อโดยไม่ต้องการเปลี่ยนขนาดของล้อ สิ่งต่อไปที่ต้องรู้คือขนาดของล้อและความกว้างของล้อเดิมที่มากับรถเช่นล้อขอบ 15 หน้ากว้าง  7 นิ้วหมายถึงล้อที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 นิ้ว และมีความกว้างของล้อ 7 นิ้ว โดยจะดูได้ที่ล้อเดิมที่มากับรถเช่น 7Jx15H2 ซึ่งเลข 7 จะหมายถึงความกว้างของกระทะล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว ตัว J หมายถึงลักษณะของขอบกระทะล้อ เลข 15 หมายถึงเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว และตัวอักษร H2 หมายถึงรูปแบบการออกแบบวงล้อแบบ Double Hump หรือดูที่ตัวเลขบนยางเช่น 175/65R15 ตัวเลขแรก 175 หมายถึงหน้ากว้างของยางมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ส่วน R15 หมายถึงขนาดของล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว ส่วน 2 ตัวเลขตรงกลางเป็นความสูงของแก้มยาง

หากต้องการเปลี่ยนเป็นล้อที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเช่นจากขนาด 15 นิ้วที่มาพร้อมกับรถเป็นล้อขนาด 17 นิ้วก็ควรเลือกใช้ร่วมกับยางที่มีแก้มยางเตี้ยลงเพื่อพยายามรักษาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อรวมกับยางให้เท่าเดิทหรือใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด

 

ออฟเซ็ตของล้อ

ออฟเซ็ตคือระยะเยื้องศูนย์ของหน้าแปลนรูน็อตล้อด้านหลังที่ยึดติดกับชุดดุมเบรกกับจุดกึ่งกลางของหน้ากว้างกระทะล้อ หรือพูดง่ายๆ ก็คือระยะจุดยึดของล้อกับรถว่าอยู่ห่างจากจุดกลางของความกว้างล้อแค่ไหน ซึ่งเมื่อเปลี่ยนล้อแล้วอยากให้เมื่อใส่เข้าไปแล้วไม่ยื่นออกมานอกตัวรถหรือหุบเข้าไปในตัวรถจนอาจมีปัญหาล้อและยางติดระบบช่วงล่างของรถก็ควร เลือกล้อใหม่ที่มีออฟเซ็ตของล้อเท่ากับออฟเซ็ตของล้อเดิมหรือใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด โดยสามารถรู้ออฟเซ็ตล้อได้ด้วยการดูที่ล้อซึ่งจะระบุไว้เช่น ET35 จะหมายถึงมีออฟเซ็ต +35 ซึ่งหมายถึงแปลนรูน็อตล้อด้านหลังอยู่ห่างจากจุดกลางของหน้ากว้างกระทะล้อออกมาทางด้านหน้าของล้อ 35 มม. แต่หากระบุ ET-10 จะหมายถึงมีออฟเซ็ต -10 ซึ่งหมายถึงแปลนดุมล้อห่างจากจุดกลางของหน้ากว้างล้อเข้าไปด้านในตัวรถ 10 มม.

 

เลือกใส่แม็กลายไหนถึงจะเข้านะ เพราะในปัจจุบันมีแม็กมากมายหลากหลายรุ่น หลายลาย หลายยี่ห้อ มาให้เลือกกันตาลาย วันนี้เราจะพาไปรู้จักล้อแม็กที่ฮิตตลอดกาลกันว่ามีอะไรบ้าง

 

  1. Volk TE37 สายซิ่งต้องรุ่นนี้เลยฮิตตลอดกาลไม่ว่าจะใส้กับรถกระบะ หรือรถเก๋ง ก็เค้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งมีให้เลือกทุกขนาดทุกไซส์ มีหลายสี สีขาว สีเงิน สีเหลือง และสีทองไหม้ สีนี้จะนิยมมากที่สุด เจ้า TE37 นี้ราคาเอาเรื่องเลย ราคา ขอบ 15 ของแท้ สีทองไหม้(BR) 4รู100 ที่เป็นสเปคยอดนิยมราคา 63,000 บาท คิดเอาเองว่าขอบ 17 หรือ 18 ราคาจะไปขนาดไหน แต่สวยสุดยอดจริงพูดเลย (ของเทียม ของก๊อบ เยอะมากราคาชุดละหมื่นต้นๆ)

 

  1. ENKEI RACING RPF1 รุ่นนี้สายซิ่งก็นิยมเช่นกัน ราคาย่อมเยาว์ลงมาหน่อย มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขอบ 14 – 19 นิ้ว และมีสีให้เลือกได้แก่ สีเงิน สีทอง และสีดำ ส่วนสีพิเศษอื่นๆนั้นถ้าต้องการ ก็สามารถสั่งทำพิเศษได้เช่น สีแดง หรือสีน้ำเงิน เป็นต้น ซึ่งราคาล้อ Enkei RPF1 นั้นจะเริ่มต้นที่28,000 บาทเท่านั้นเอง โดยส่วนตัวชอบมากลายนี้ (ของ ก๊อบเต็มตลาดเหมือนกันจร้าราคาชุดละหมื่นต้นเช่นกัน)

 

  1. Watanabe ลายนี้ฮิตมากใส่ได้กับรถทุกแนว แต่สำหรับรถคลาสสิค หรือจะเป็น แนวฟลัชนิยมมากเป็นพิเศษทีเดียว มันเป็นล้อที่ดูดีทุกขนาด ทุกออฟเซท14-18สวยหมด ราคาก็แรงคงกระพัน ลายนี้คนไทยจะรู้จักในชื่อ ล้อกล้วย นั้นเองมือ1ล้อแท้หายากนิดนึง แต่ถ้ามือ 2 จากญี่ปุ่นเพียบเลยจร้า มือ 2 จะขึ้นอยู่กับรุ่น ไซด์ และออฟเซท เริ่มตังแต่ประมาณ 15000 – 80000 (ในบ้านเราล้อก๊อบเพียบเลยนะจ๊ะ)

 

  1. W Work S1 โดยล้อW Work S1 เป็นล้อมีลายแบบ 5 ก้าน แบบล้อ 2 ชิ้นในขอบ 15 นิ้ว และเป็นแบบล้อ 3 ชิ้น ในขอบ 18 – 19 นิ้ววงการมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกนั้นนำล้อ W Work S1 ไปใช้ในการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นรถ Drift หรือจะนำไปใส่ในรถแต่งแนวต่างๆ เช่น แนว Racing หรือ จะเป็นในแนว Flush ก็ดูสวยไปอีกแบบ ราคาเริ่มต้นในขอบ 15 นิ้ว จะอยู่ที่ประมาณ 49,000 บาท

 

  1. BBS LM หากพูดถึงล้อสุด Classic ที่โด่งดังไปทั่วโลก ครองใจเหล่าสาวกที่ชื่นชอบการแต่งรถก็คงจะหนีไม่พ้น BBS LM ที่แค่ได้ยินชื่อก็ต้องร้อง อ๋อในทันที!! และแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์ดีไซน์ที่คงเอกลักษณ์สุด Classic เพียงอย่างเดียวที่ทำให้ล้อ BBS LM ยังคงความขลังอยู่ในใจของสาวก BBS มาได้มากถึงกว่า 30ปีสวยคลาสสิค สุดอมตะ งดงามล้ำกาลเวลา ลายใหม่ดูสปอร์ต สวยงาม ซิ่งมาก ส่วนมากนิยมใส่ในรถยุโรปอย่าง บีเอ็มดับเบิ้ลยู เบนซ์ ราคานั้นขึ้นอยู่กับรุ่นและขนาด

 

REPOWER CORPORATION

ศูนย์บริการยางรถยนต์ , ล้อแม๊กซ์ , ช่วงล่าง 

และ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์อย่างครบวงจร

ติดต่อ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร. 099-398-9900 , 098-555-4500 , 088-818-1718 

หรือ Line : @RePower

 

กลับสู่หน้าหลัก https://savecyber.com

ล้อ bbs 16

ล้อ bbs 16

 

ล้อ bbs 16 สิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนเปลี่ยนเป็นสิ่งแรกเมื่อคิดจะแต่งรถให้ดูสวยขึ้นแตกต่างไปจากรถที่ถอยออกมาจากโชว์รูมก็คือ ล้อ ยังไม่นับรวมบรรดารถที่โชว์รูมแถมชุดแต่งมาให้รอบคันแล้วซึ่งเจ้าของมักอยากจะเปลี่ยนล้อใหม่เพื่อให้มันดูครบๆ หน่อยด้วย อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนล้อใหม่ไม่ได้เหมือนกับรองเท้าที่แค่เลือกลายและสีที่ถูกใจกับขนาดที่ต้องการก็สามารถใส่ได้เลย เพราะมีหลายสิ่งที่ต้องรู้เมื่อจะเปลี่ยนล้อใหม่ให้รถ

 

จำนวนรูน็อตและ PCD ของล้อ

นี่คือสิ่งแรกที่ควรรู้เกี่ยวกับล้อเพื่อที่จะสามารถนำมาใส่กับรถได้โดยไม่มีปัญหา โดยสิ่งนี้สามารถดูได้จากคู่มือของรถหรือด้านหลังของล้อเก่าที่แสดงเป็นตัวเลขอย่าง 4×100 ซึ่งตัวเลขแรกหมายถึงจำนวนรูน็อตของล้อเพื่อยึดติดกับรถ ส่วนตัวเลขหลังเป็นค่า PCD หรือ (Pitch Circle Diameter) ซึ่งหมายถึงระยะห่างของรูน็อตล้อ โดยวัดจากเส้นผ่านศูนย์กลางของรูน็อตที่อยู่ตรงกันข้ามโดยมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ดังนั้นล้อ 4×100 หรือที่เรียกกันว่าล้อ 4 รู 100 จึงหมายถึงล้อที่มีรูน็อต 4 รูโดยมีค่า PCD 100 มิลลิเมตร ส่วนล้อ 5 รู 114.3 หมายถึงล้อมีที่รูน็อต 5 รู มีค่า PCD 114.3 มิลิลเมตร

 

ขนาดและความกว้างของล้อ

หากต้องการเปลี่ยนแค่ลายและสีของล้อโดยไม่ต้องการเปลี่ยนขนาดของล้อ สิ่งต่อไปที่ต้องรู้คือขนาดของล้อและความกว้างของล้อเดิมที่มากับรถเช่นล้อขอบ 15 หน้ากว้าง  7 นิ้วหมายถึงล้อที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 15 นิ้ว และมีความกว้างของล้อ 7 นิ้ว โดยจะดูได้ที่ล้อเดิมที่มากับรถเช่น 7Jx15H2 ซึ่งเลข 7 จะหมายถึงความกว้างของกระทะล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว ตัว J หมายถึงลักษณะของขอบกระทะล้อ เลข 15 หมายถึงเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว และตัวอักษร H2 หมายถึงรูปแบบการออกแบบวงล้อแบบ Double Hump หรือดูที่ตัวเลขบนยางเช่น 175/65R15 ตัวเลขแรก 175 หมายถึงหน้ากว้างของยางมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ส่วน R15 หมายถึงขนาดของล้อมีหน่วยเป็นนิ้ว ส่วน 2 ตัวเลขตรงกลางเป็นความสูงของแก้มยาง

หากต้องการเปลี่ยนเป็นล้อที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเช่นจากขนาด 15 นิ้วที่มาพร้อมกับรถเป็นล้อขนาด 17 นิ้วก็ควรเลือกใช้ร่วมกับยางที่มีแก้มยางเตี้ยลงเพื่อพยายามรักษาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของล้อรวมกับยางให้เท่าเดิทหรือใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด

 

ออฟเซ็ตของล้อ

ออฟเซ็ตคือระยะเยื้องศูนย์ของหน้าแปลนรูน็อตล้อด้านหลังที่ยึดติดกับชุดดุมเบรกกับจุดกึ่งกลางของหน้ากว้างกระทะล้อ หรือพูดง่ายๆ ก็คือระยะจุดยึดของล้อกับรถว่าอยู่ห่างจากจุดกลางของความกว้างล้อแค่ไหน ซึ่งเมื่อเปลี่ยนล้อแล้วอยากให้เมื่อใส่เข้าไปแล้วไม่ยื่นออกมานอกตัวรถหรือหุบเข้าไปในตัวรถจนอาจมีปัญหาล้อและยางติดระบบช่วงล่างของรถก็ควร เลือกล้อใหม่ที่มีออฟเซ็ตของล้อเท่ากับออฟเซ็ตของล้อเดิมหรือใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด โดยสามารถรู้ออฟเซ็ตล้อได้ด้วยการดูที่ล้อซึ่งจะระบุไว้เช่น ET35 จะหมายถึงมีออฟเซ็ต +35 ซึ่งหมายถึงแปลนรูน็อตล้อด้านหลังอยู่ห่างจากจุดกลางของหน้ากว้างกระทะล้อออกมาทางด้านหน้าของล้อ 35 มม. แต่หากระบุ ET-10 จะหมายถึงมีออฟเซ็ต -10 ซึ่งหมายถึงแปลนดุมล้อห่างจากจุดกลางของหน้ากว้างล้อเข้าไปด้านในตัวรถ 10 มม.

 

เลือกใส่แม็กลายไหนถึงจะเข้านะ เพราะในปัจจุบันมีแม็กมากมายหลากหลายรุ่น หลายลาย หลายยี่ห้อ มาให้เลือกกันตาลาย วันนี้เราจะพาไปรู้จักล้อแม็กที่ฮิตตลอดกาลกันว่ามีอะไรบ้าง

 

  1. Volk TE37 สายซิ่งต้องรุ่นนี้เลยฮิตตลอดกาลไม่ว่าจะใส้กับรถกระบะ หรือรถเก๋ง ก็เค้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งมีให้เลือกทุกขนาดทุกไซส์ มีหลายสี สีขาว สีเงิน สีเหลือง และสีทองไหม้ สีนี้จะนิยมมากที่สุด เจ้า TE37 นี้ราคาเอาเรื่องเลย ราคา ขอบ 15 ของแท้ สีทองไหม้(BR) 4รู100 ที่เป็นสเปคยอดนิยมราคา 63,000 บาท คิดเอาเองว่าขอบ 17 หรือ 18 ราคาจะไปขนาดไหน แต่สวยสุดยอดจริงพูดเลย (ของเทียม ของก๊อบ เยอะมากราคาชุดละหมื่นต้นๆ)

 

  1. ENKEI RACING RPF1 รุ่นนี้สายซิ่งก็นิยมเช่นกัน ราคาย่อมเยาว์ลงมาหน่อย มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ขอบ 14 – 19 นิ้ว และมีสีให้เลือกได้แก่ สีเงิน สีทอง และสีดำ ส่วนสีพิเศษอื่นๆนั้นถ้าต้องการ ก็สามารถสั่งทำพิเศษได้เช่น สีแดง หรือสีน้ำเงิน เป็นต้น ซึ่งราคาล้อ Enkei RPF1 นั้นจะเริ่มต้นที่28,000 บาทเท่านั้นเอง โดยส่วนตัวชอบมากลายนี้ (ของ ก๊อบเต็มตลาดเหมือนกันจร้าราคาชุดละหมื่นต้นเช่นกัน)

 

  1. Watanabe ลายนี้ฮิตมากใส่ได้กับรถทุกแนว แต่สำหรับรถคลาสสิค หรือจะเป็น แนวฟลัชนิยมมากเป็นพิเศษทีเดียว มันเป็นล้อที่ดูดีทุกขนาด ทุกออฟเซท14-18สวยหมด ราคาก็แรงคงกระพัน ลายนี้คนไทยจะรู้จักในชื่อ ล้อกล้วย นั้นเองมือ1ล้อแท้หายากนิดนึง แต่ถ้ามือ 2 จากญี่ปุ่นเพียบเลยจร้า มือ 2 จะขึ้นอยู่กับรุ่น ไซด์ และออฟเซท เริ่มตังแต่ประมาณ 15000 – 80000 (ในบ้านเราล้อก๊อบเพียบเลยนะจ๊ะ)

 

  1. W Work S1 โดยล้อW Work S1 เป็นล้อมีลายแบบ 5 ก้าน แบบล้อ 2 ชิ้นในขอบ 15 นิ้ว และเป็นแบบล้อ 3 ชิ้น ในขอบ 18 – 19 นิ้ววงการมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกนั้นนำล้อ W Work S1 ไปใช้ในการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นรถ Drift หรือจะนำไปใส่ในรถแต่งแนวต่างๆ เช่น แนว Racing หรือ จะเป็นในแนว Flush ก็ดูสวยไปอีกแบบ ราคาเริ่มต้นในขอบ 15 นิ้ว จะอยู่ที่ประมาณ 49,000 บาท

 

  1. BBS LM หากพูดถึงล้อสุด Classic ที่โด่งดังไปทั่วโลก ครองใจเหล่าสาวกที่ชื่นชอบการแต่งรถก็คงจะหนีไม่พ้น BBS LM ที่แค่ได้ยินชื่อก็ต้องร้อง อ๋อในทันที!! และแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่รูปลักษณ์ดีไซน์ที่คงเอกลักษณ์สุด Classic เพียงอย่างเดียวที่ทำให้ล้อ BBS LM ยังคงความขลังอยู่ในใจของสาวก BBS มาได้มากถึงกว่า 30ปีสวยคลาสสิค สุดอมตะ งดงามล้ำกาลเวลา ลายใหม่ดูสปอร์ต สวยงาม ซิ่งมาก ส่วนมากนิยมใส่ในรถยุโรปอย่าง บีเอ็มดับเบิ้ลยู เบนซ์ ราคานั้นขึ้นอยู่กับรุ่นและขนาด

 

REPOWER CORPORATION

ศูนย์บริการยางรถยนต์ , ล้อแม๊กซ์ , ช่วงล่าง 

และ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์อย่างครบวงจร

ติดต่อ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร. 099-398-9900 , 098-555-4500 , 088-818-1718 

หรือ Line : @RePower

 

กลับสู่หน้าหลัก https://savecyber.com

enkei tuning sc55

enkei tuning sc55

 

enkei tuning sc55ล้อแม็กซ์ ยางรถยนต์หรือ สปอร์ตริม (Sports Rims) คือหนึ่งในอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ที่เจ้าของรถใช้เปลี่ยนเพื่อเพิ่มคุณค่าทางสุนทรียภาพ และ ยกระดับรูปลักษณ์ภายนอกของรถ โดยทั่วไปล้อแม็กซ์ หมายถึงล้ออัลลอยที่มีส่วนผสมของโลหะ และ องค์ประกอบอื่นๆ ล้อประเภทนี้มักมาพร้อมกับการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และ น่าสนใจยิ่งขึ้นซึ่งทำให้การตกแต่งภายนอกของรถดูทันสมัย, เร้าใจ และ สปอร์ตมากยิ่งขึ้น

 

repowerthailand ล้อแม็กซ์ ENKEI เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ล้อแม็กซ์ชั้นนำที่มีอายุ และประสบการณ์ยาวนาน ด้วยการก่อตั้งตั้งแต่ปี 1950 ที่ชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น โดย ล้อแม็กซ์ ENKEI ก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนาล้อที่มีนวัตกรรม และคุณภาพสูงสุดให้กับนักแข่งและผู้ที่ชื่นชอบในการขับขี่รถยนต์ ในปัจจุบัน ล้อแม็กซ์ ENKEI มีการออกแบบที่หลากหลาย ควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีมาโดยตลอดทั้งการพัฒนาล้อเพื่อการแข่งขัน และเพื่อรถยนต์ตามท้องถนน อีกทั้งยังสร้างสมประสบการจากการผลิตล้อเพื่อรถยนต์ OEM อีกหลากหลายยี้ห้อ ล้อแม็กซ์ ENKEI มีจุดเด่นในการออกแบบล้อให้เข้ากับชนิดของรถยนต์ได้อย่างโดดเด่น และสวยงามล้อแม็กซ์ ENKEI มีรุ่นยอดนิยม และรู้จักกันดี คือ RPF1 ที่เป็นขวัญใจขาซิ่ง และ RPT1 ที่กระบะชอบใส่กัน

 

คุณอาจสงสัยว่าหากคุณต้องการที่จะซื้อล้อแม็กซ์ รุ่นต้นแบบ (Original) หรือ รุ่นถอดแบบ (Replica) , ล้อแม็กซ์ มือสอง หรือ มือหนึ่งปัจจัยที่คุณสามารถพิจารณาก่อนซื้อล้อแม็กซ์ในฝันของคุณมีด้านไหนบ้าง

 

1.งบประมาณหรือต้นทุน

คุณต้องกำหนดระดับทางการเงินของคุณก่อนจึงจะตัดสินใจซื้อล้อแม็กซ์ ในฝันของคุณได้ งบประมาณ และ ค่าใช้จ่ายมีส่วนสำคัญในการช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าคุณจะเลือกใช้ล้อรุ่นต้นแบบ หรือ รุ่นถอดแบบ ,ล้อมือสอง หรือ มือหนึ่ง ล้อเอสเอสอาร์ รุ่น ไทป์เอฟ (SSR Type F) ขนาด 15 นิ้วของแท้มือหนึ่ง มีราคาประมาณ 30,000 บาทขึ้นไป ในขณะเดียวกันล้อมือสองของแท้สำหรับ เอสเอสอาร์ รุ่น ไทป์เอฟ (SSR Type F) ขนาด 15 นิ้วจำหน่ายในราคาระหว่าง 15,000 บาทถึง 22,000 บาทขึ้นอยู่กับสภาพของล้อ

 

2.ปัจจัยด้านความปลอดภัย

คุณควรพิจารณาปัจจัยด้านความปลอดภัยก่อนตัดสินใจซื้ออุปกรณ์เสริมสำหรับรถยนต์เพิ่มเติม ซึ่งในความเป็นจริงคุณควรคำนึงถึงรูปแบบการขับขี่, สภาพถนน และ ปัจจัยอื่น ๆ อีกด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้คุณตัดสินใจพลาด ล้อรุ่นต้นแบบผ่านขั้นตอนการศึกษา และ วิจัยโดยละเอียดก่อนวางจำหน่ายในท้องตลาด เพื่อให้แน่ใจว่าการออกแบบผลิตภัณฑ์สามารถทนต่อการขับขี่สภาพอากาศได้หลายประเภท และ มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ในขณะเดียวกันการใช้ล้อรุ่นถอดแบบอาจทำให้คุณเสี่ยงต่อความเสียหายหรืออุบัติเหตุ ล้อรุ่นถอดแบบหลายรุ่นมีความปลอดภัยในการใช้งาน แต่อย่างไรก็ตามเราขอแนะนำให้ใช้ความรอบคอบ และ ระมัดระวังอยู่เสมอ

 

ล้อแม็กซ์ จำนวนมากที่มีขายในตลาดไม่ว่าจะเป็นล้อแม็กซ์ รุ่นต้นแบบ หรือ รุ่นถอดแบบก็ตาม นี่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณที่จะสามารถแยกความแตกต่างของล้อทั้งสองประเภทนี้เพื่อป้องกันไม่ให้คุณซื้อล้อรุ่นถอดแบบที่ขายในราคารุ่นต้นแบบ

 

1.ป้าย ‘ผลิตจาก…’

ตัวอย่างเช่นล้อจากญี่ปุ่นรุ่นต้นแบบจะมีตราประทับ “ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น หรือ Made in Japan” ที่ด้านนอก และ ด้านในของล้อ คุณยังสามารถดูสติกเกอร์ระบุการผลิตที่ล้อ อย่างไรก็ตามคุณยังคงต้องระวังหากจะอ้างอิงจากสติกเกอร์นี้เพราะโดยปกติแล้วสติกเกอร์สามารถลอกเลียนแบบ และ ทำซ้ำได้ ล้ออื่น ๆ ได้แก่ โอแซท เรสซิ่ง (OZ Racing) ผลิตจากอิตาลี และ อีโว เรการ์มาสเตอร์ (Evo Regamaster) ผลิตจากรัสเซีย

 

2.น้ำหนักและเสียง

น้ำหนักของขอบไร้สายเบากว่าขอบรุ่นถอดแบบ คุณยังสามารถจำแนกของแท้ได้โดยการปะทะซึ่งกันและกัน ล้อรุ่นต้นแบบให้เสียงที่แตกต่างจากล้อรุ่นถอดแบบเนื่องจากคุณสมบัติที่เบากว่า

อย่างไรก็ตามการเลือกล้อแม็กซ์ ที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องของคุณภาพหรือปัจจัยด้านแบรนด์เพียงอย่างเดียว คุณต้องคำนึงถึงรสนิยม, สถานะทางการเงิน และ ประเภทรถของคุณด้วย

 

โดยผิวเผินแล้ว ล้อแม็กอาจเป็นเพียงอุปกรณ์ประดับรถยนต์ให้สวยงามเท่ านั้น แต่เบื้องลึกมีผลกระทบทั้งด้านเด่นและด้อยอีกมากมาย เพราะล้อแม็กต้องถูกห่อหุ้มด้วยยางที่หมุนอยู่ตลอดกา รขับเคลื่อน และยึดติดอยู่กับระบบช่วงล่างซึ่งทำหน้าที่หลักในการ ทรงตัว

 

พื้นฐานของล้อแม็ก

ถูกพัฒนาขึ้นต่อเนื่องจากการใช้กระ ทะล้อเหล็กแบบดั้งเดิม โดยนำวัสดุที่มีน้ำหนักเบามาผลิตเป็นกระทะล้อ แทนการผลิตแบบเหล็กอัดขึ้นรูปแล้วนำมาเชื่อมประกบกัน แมกนีเซียมเป็นวัสดุที่ถูกนำมาผลิตแทนเหล็กเป็นกระทะ ล้อแบบใหม่ ตั้งแต่หลายสิบปีที่ผ่านมาการลดน้ำหนักกระทะล้อลงมีห ลายจุดประสงค์ อาจมีเพียงจุดประสงค์เดียวหรือหลายจุดประสงค์ร่วมกัน จากคุณสมบัติเด่นของล้อแม็กดังนี้

 

ช่วยระบายความร้อน 

เหล็กอมความร้อนมากกว่าแมกนีเซียมหรืออะลูมินั่มอัลล อย เมื่อกระทะล้อร้อน ยางก็ร้อนตาม และจานเบรก-ผ้าเบรกที่อมความร้อนก็จะลดแรงเสียดทานในการเบรกลง จุดประสงค์นี้มักเน้นในวงการรถแข่ง

 

ลดภาระระบบช่วงล่าง 

เช่นเดียวกับการยืดแขนตรงออกไปแล้วมีสิ่งของหนักหรือ เบาแขวนอยู่ที่มือ สิ่งของน้ำหนักเบาย่อมเบาแรงและขยับแขนได้ง่ายกว่า นอกจากนั้นยังเพิ่มอายุการใช้งานของระบบช่วงล่างได้เ ล็กน้อยอีกด้วย

 

ลดแรงต้านการหมุน 

กระทะล้อและยางที่มีน้ำหนักมากย่อมหมุนได้ยากกว่า หากลดแรงต้านได้ อัตราเร่งจะดีขึ้น และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

 

สามารถเพิ่มขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ 

เพื่อใส่จานดิสก์เบรกขนาดใหญ่มากๆ หรือเพื่อความสวยงาม โดยยังสามารถควบคุมน้ำหนักของกระทะล้อไว้ได้จากวัสดุ น้ำหนักเบา จุดประสงค์นี้มักเน้นในวงการรถแข่งหรือรถยนต์ทั่วไปที่อยากเพิ่มความสวยหรืออยากใส่ยางแก้มเตี้ยลงแต่ต้องการรักษาเส้นรอบวง เดิมไว้

 

ความสวยงาม 

วัสดุที่นำมาผลิตล้อแม็กมีสีเงินวาววับ และสามารถออกแบบลวดลายได้หลากหลาย ต่างจากกระทะล้อเหล็กที่ต้องพ่นสีทับและมีลวดลายจำกั ด แท้จริงแล้วจุดประสงค์นี้เป็นผลพลอยได้ แต่กลายเป็นจุดเด่นหลักของล้อแม็กไปแล้ว

 

 

REPOWER CORPORATION

ศูนย์บริการยางรถยนต์ , ล้อแม๊กซ์ , ช่วงล่าง 

และ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์อย่างครบวงจร

ติดต่อ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร. 099-398-9900 , 098-555-4500 , 088-818-1718 

หรือ Line : @RePower

 

กลับสู่หน้าหลัก https://savecyber.com

bc forged wheels ราคา

การเปลี่ยนล้อแม็กให้สวยถูกใจ ควรเลือกอย่างไร

 

bc forged wheels ราคา พื้นฐานของล้อแม็กถูกพัฒนาขึ้นต่อเนื่องจากการใช้กระทะล้อเหล็กแบบดั้งเดิม โดยนำวัสดุที่มีน้ำหนักเบามาผลิตเป็นกระทะล้อ แทนการผลิตแบบเหล็กอัดขึ้นรูปแล้วนำมาเชื่อมประกบกัน แมกนีเซียมเป็นวัสดุที่ถูกนำมาผลิตแทนเหล็กเป็นกระทะล้อแบบใหม่ ตั้งแต่หลายสิบปีที่ผ่านมาการลดน้ำหนักกระทะล้อลงมีห ลายจุดประสงค์ อาจมีเพียงจุดประสงค์เดียวหรือหลายจุดประสงค์ร่วมกัน จากคุณสมบัติเด่นของล้อแม็กดังนี้

 

ช่วยระบายความร้อน 

เหล็กอมความร้อนมากกว่าแมกนีเซียมหรืออะลูมินั่มอัลล อย เมื่อกระทะล้อร้อน ยางก็ร้อนตาม และจานเบรก-ผ้าเบรกที่อมความร้อนก็จะลดแรงเสียดทานในการเบรกลง จุดประสงค์นี้มักเน้นในวงการรถแข่ง

 

ลดภาระระบบช่วงล่าง 

เช่นเดียวกับการยืดแขนตรงออกไปแล้วมีสิ่งของหนักหรือ เบาแขวนอยู่ที่มือ สิ่งของน้ำหนักเบาย่อมเบาแรงและขยับแขนได้ง่ายกว่า นอกจากนั้นยังเพิ่มอายุการใช้งานของระบบช่วงล่างได้เ ล็กน้อยอีกด้วย

 

ลดแรงต้านการหมุน 

กระทะล้อและยางที่มีน้ำหนักมากย่อมหมุนได้ยากกว่า หากลดแรงต้านได้ อัตราเร่งจะดีขึ้น และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

 

สามารถเพิ่มขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ 

เพื่อใส่จานดิสก์เบรกขนาดใหญ่มากๆ หรือเพื่อความสวยงาม โดยยังสามารถควบคุมน้ำหนักของกระทะล้อไว้ได้จากวัสดุ น้ำหนักเบา จุดประสงค์นี้มักเน้นในวงการรถแข่งหรือรถยนต์ทั่วไปที่อยากเพิ่มความสวยหรืออยากใส่ยางแก้มเตี้ยลงแต่ต้องการรักษาเส้นรอบวง เดิมไว้

 

คนไทยดำรงชีวิตควบคู่กับความรักสวยรักงาม แม้แต่รถยนต์ คนไทยก็อดปรับโฉมให้สวยสุดเฉียบไม่ได้ล้อแม็ก- มิได้มีไว้เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อความปลอดภัย ประสิทธิภาพการทรงตัว และอายุการใช้งานของรถยนต์อีกด้วย

 

โดยผิวเผินแล้ว ล้อแม็กอาจเป็นเพียงอุปกรณ์ประดับรถยนต์ให้สวยงามเท่านั้น แต่เบื้องลึกมีผลกระทบทั้งด้านเด่นและด้อยอีกมากมาย เพราะล้อแม็กต้องถูกห่อหุ้มด้วยยางที่หมุนอยู่ตลอดกา รขับเคลื่อน และยึดติดอยู่กับระบบช่วงล่างซึ่งทำหน้าที่หลักในการทรงตัว

 

พื้นฐานของล้อแม็กถูกพัฒนาขึ้นต่อเนื่องจากการใช้กระ ทะล้อเหล็กแบบดั้งเดิม โดยนำวัสดุที่มีน้ำหนักเบามาผลิตเป็นกระทะล้อ แทนการผลิตแบบเหล็กอัดขึ้นรูปแล้วนำมาเชื่อมประกบกัน แมกนีเซียมเป็นวัสดุที่ถูกนำมาผลิตแทนเหล็กเป็นกระทะ ล้อแบบใหม่ ตั้งแต่หลายสิบปีที่ผ่านมาการลดน้ำหนักกระทะล้อลงมีหลายจุดประสงค์ อาจมีเพียงจุดประสงค์เดียวหรือหลายจุดประสงค์ร่วมกันจากคุณสมบัติเด่นของล้อแม็กดังนี้

 

ช่วยระบายความร้อน 

เหล็กอมความร้อนมากกว่าแมกนีเซียมหรืออะลูมินั่มอัลล อย เมื่อกระทะล้อร้อน ยางก็ร้อนตาม และจานเบรก-ผ้าเบรกที่อมความร้อนก็จะลดแรงเสียดทานในการเบรกลง จุดประสงค์นี้มักเน้นในวงการรถแข่ง

 

ลดภาระระบบช่วงล่าง 

เช่นเดียวกับการยืดแขนตรงออกไปแล้วมีสิ่งของหนักหรือ เบาแขวนอยู่ที่มือ สิ่งของน้ำหนักเบาย่อมเบาแรงและขยับแขนได้ง่ายกว่า นอกจากนั้นยังเพิ่มอายุการใช้งานของระบบช่วงล่างได้เ ล็กน้อยอีกด้วย

 

ลดแรงต้านการหมุน 

กระทะล้อและยางที่มีน้ำหนักมากย่อมหมุนได้ยากกว่า หากลดแรงต้านได้ อัตราเร่งจะดีขึ้น และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

 

สามารถเพิ่มขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ 

เพื่อใส่จานดิสก์เบรกขนาดใหญ่มากๆ หรือเพื่อความสวยงาม โดยยังสามารถควบคุมน้ำหนักของกระทะล้อไว้ได้จากวัสดุ น้ำหนักเบา จุดประสงค์นี้มักเน้นในวงการรถแข่งหรือรถยนต์ทั่วไปที่อยากเพิ่มความสวยหรืออยากใส่ยางแก้มเตี้ยลงแต่ต้องการรักษาเส้นรอบวง เดิมไว้

 

ความสวยงาม 

วัสดุที่นำมาผลิตล้อแม็กมีสีเงินวาววับ และสามารถออกแบบลวดลายได้หลากหลาย ต่างจากกระทะล้อเหล็กที่ต้องพ่นสีทับและมีลวดลายจำกั ด แท้จริงแล้วจุดประสงค์นี้เป็นผลพลอยได้ แต่กลายเป็นจุดเด่นหลักของล้อแม็กไปแล้ว

 

bc forged wheels ราคา การจะเปลี่ยนล้อแม็กให้ถูกใจ ติดตอปรึกษาทางร้าน repowerthailand ได้เลย ทางเราพร้อมให้คำแนะนำลูกค้าทุกท่าน เปลี่ยนแล้วถูกใจ ไว้ใจ repower เราพร้อมบริการให้ความสะดวกในทุกเรื่อง

 

กลับสู่หน้าหลัก https://savecyber.com

โช้ค profender thailand

 

โช้ค profender thailand – Profender เป็นโช๊คผลิตจากประเทศไทย ที่ส่งออกแล้วทั่วโลก รวมถึงอเมริกา และ ยุโรป ส่วนใหญ่ตัวโช๊คจะเป็นระบบ Monotube ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งความนุ่มและหนึบช่วยลดอาการโคลงเคลง ที่จะชอบมีในรถ Pickup และ PPV ซึ่งโช๊ค Profender มีรุ่นและคุณสมบัติ ดังนี้

 

-Profender Monotube2.0 ปรับระดับนุ่มแข็งไม่ได้ คู่หน้าปรับสูงต่ำได้ 

-Profender Monotube Subtank เป็น Subtank แยก ปรับนุ่มแข็งได้ 8 ระดับ คู่หน้าปรับสูงต่ำได้

-Profender Queenseries มี Subtank ในตัว คู่หน้าปรับสูง-ต่ำได้และปรับนุ่มแข็งได้ 16 ระดับมาพร้อมสปริง คู่หลังปรับนุ่มแข็งได้ 8 ระดับ 

-Profender OEM2.5 เป็น Subtank แยก ปรับนุ่มแข็งได้ 8 ระดับ คู่หน้ามาพร้อมสปริง ปรับสูงต่ำได้ (แต่โหลดเตี้ยกว่า STD ไม่ได้)

 

โช้ค profender thailand สำหรับช่วงล่างนั้น RePower มีประสบการณ์ติดตั้งมากมายกว่า 1,000 คัน ซึ่งมีตั้งแต่ Supercar , รถยุโรป รวมถึง 4×4ด้วยและรถญี่ปุ่นเล็ก ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะช่วงล่างแบบไหนก็มั่นใจได้กับมาตรฐานงานติดตั้งที่ RePower นอกจากนั้นการติดตั้งช่วงล่างที่ดีและเรามุ่งเน้น คือการติดตั้งที่ได้รับมาตรฐานไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับรถยนต์หรือชิ้นส่วนอื่น ๆของตัวรถยนต์ และ การปรับค่าหรือที่เรียกว่า การ”fine-tune”ซึ่งก็คือการปรับค่าให้เข้ากับบุคคลนั้น ๆซึ่ง เป็นสิ่งที่สำคัญมาก สำหรับการติดตั้งช่วงล่าง เพราะ จะทำให้ลูกค้าได้รับ Feelingที่ดีที่สุดสำหรับ ลูกค้าท่านนั้นๆ

 

โช๊ค Profender OEM2.5 + Monotube2.5 Piggyback FORD EVEREST

 

-โช๊คอัพแก๊สกึงน้ำมัน ที่มาพร้อมสปริง พิเศษ

-สปริง สามารถเลือกค่าน้ำหนักให้เหมาะกับลักษณะของรถได้

-แกน ขนาด 18 มิล ที่ให้ความนุ่มนวล และทนทานต่อการใช้งาน

-ลูกสูบ 60 มิล ที่สามารถสร้างแรงต้านของสปริงได้ดี

-กระบอก ขนาด 66 มิล ที่ช่วยในการระบายความร้อนได้ดี

-เป็นโช๊คอัพ ระบบแก๊สกึ่งน้ำมันกระบอกชั้นเดียว Monotube

-เหมาะสมทุกลักษณะการใช้งาน และ Heavy Duty

 

โช๊ค Profender Queenseries + Subtank Piggyback พร้อมสปริง STD TOYOTA NEW FORTUNER

 

โช๊ค Profender Queenseries + Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ

-คู่หน้า Profender Queenseries

-คู่หลัง Profender Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ

 

โช๊ค Profender Monotube2.0 NISSAN NAVARA NP300

-โช๊คอัพ Profender Monotube 2.0 ตอบสนองทุกเส้นทางควบคุมการขับขี่ได้ดี

-ตัวโช๊คเป็นระบบ Monotube ด้านหน้าปรับเกลียวรองรับการยก 2″ ในตัวเอง

-ส่วนด้านหลังสามารถติดตั้งแบบหัวกลับ(Upside down)

-ตัวกระบอกสามารถเปิดซ่อมได้ มั่นใจขึ้นกับสมรรถนะในการขับขี่ ไม่แข็งกระด้าง

 

โช๊ค Profender Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ + สปริง Profender ความสูง STD

 

-โช๊คอัพ ระบบโมโนทิวป์ (Monotube 2.0)

-แกน ขนาด 16 มิล กระบอกชั่นเดียว

-มีลูกสูบ sub-tank แยกห้องระหว่างน้ำมันกับ แก๊สออกจากกันอย่างชัดเจน

-ระบบไนโตรเจนแรงดันสูง 100-200 psi

-ลูกสูบขนาด 46 mm

-กระบอกซับแท้งค์ ทำจากอลูมิเนียมเกรดเครื่องบิน 6061t6 แข็งแรง

-กระบอกซับแท้งค์ ช่วยระบายความร้อนได้ดีและเร็วกว่า โมโน2.0

-กระบอกซับแท้งค์ ช่วยสำรองปริมาณนำ้มันที่มากขึ้นกว่าระบบโมโน2.0ถึง 25%-30%

 

โช๊ค Profender Queenseries + Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ ISUZU MU-X

 

-คู่หน้า Profender Queenseries

-คู่หลัง Profender Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ + Piggyback

-โช๊คอัพ ระบบโมโนทิวป์ (Monotube)

-มีห้องซับแท้งค์ภายใน

-กระบอกชุบผิว 3 ชั้น

-กระบอกชั่นเดียว

-มีลูกสูบ sub-tank แยกห้องระหว่างน้ำมันกับ แก๊สออกจากกันอย่างชัดเจน

-ระบบไนโตรเจนแรงดันสูง 100-200 psi

-ลูกสูบขนาด 46 mm

-สามารถปรับ น้ำหนักได้ 16 ระดับความนุ่ม

-มาพร้อมสปริงพิเศษ

 

โช๊ค Profender Queenseries + Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ ISUZU MU-X

 

-คู่หน้า Profender Queenseries

-คู่หลัง Profender Monotube Subtank ปรับ 8 ระดับ

-โช๊คอัพ ระบบโมโนทิวป์ (Monotube)

-มีห้องซับแท้งค์ภายใน

-กระบอกชุบผิว 3 ชั้น

-กระบอกชั่นเดียว

-มีลูกสูบ sub-tank แยกห้องระหว่างน้ำมันกับ แก๊สออกจากกันอย่างชัดเจน

-ระบบไนโตรเจนแรงดันสูง 100-200 psi

-ลูกสูบขนาด 46 mm

-สามารถปรับ น้ำหนักได้ 16 ระดับความนุ่ม

-มาพร้อมสปริงพิเศษ

 

โช้คอัพ Profender queen series ตัวนี้เป็นรุ่นใหม่ที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับท่านที่ชอบ

Profenderแบบสามารถปรับนุ่มหนึบได้ และจับกับสปริง Profender จัดไปทั้งชุดครบๆเลยครับ

โช้คหน้าสามารถปรับได้ 16ระดับ มาพร้อมสปริง โช้คหลังสามารถปรับได้8ระดับ

และมีโช้คหลังแบบซับแทงค์ Piggy back ปรับ8ระดับได้เช่นกันครับ

 

กลับสู่หน้าหลัก https://savecyber.com

tein mazda 3 skyactiv

 

tein mazda 3 skyactiv ” โช๊คอัพ ” เป็นอีกสิ่งหนึ่งของคนที่ชอบแต่งรถมักจะทำเป็นอย่างแรกๆ เดี๋ยวนี้ โช๊คอัพ พัฒนาไปมากโช๊คซิ่งสมัยนี้สามารถปรับความหนืดได้หลายระดับ และไม่แข็งกระด้างเหมือนยุคเก่าๆ เพราะหลายแบรนด์ก็มาพัฒนาและออกแบบให้เหมาะสมกับถนนเมืองไทย เพราะเมืองไทยถนนสุดยอดที่สุดแล้ว หลุมบ่อเพียบผ่านเมืองไทยได้ถือว่าโช๊คอัพแบรนด์นั้นอึด ทึก ทน ครับ รวมถึงวัสดุที่พัฒนามากขึ้น ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างมั่นใจมากขึ้น โช๊คอัพสมัยนี้พัฒนาออกมาได้คุณภาพใกล้เคียงกันหมดทุกแบรนด์แล้วครับสมัยนี้ ขึ้นอยู่กับบริการหลังการขาย และศูนย์ซ่อมมาตรฐานใครดีกว่าใครก็เท่านั้น

 

tein mazda 3skyactiv โช๊คประเภทนี้ถ้าคุณดวงดีเจอร้านเทพๆ ที่แกะมาโมดิฟายแล้วปัญหาน้อยงานจบในครั้งเดียวคุณก็โชคดีไป ฟิลลิ่งมันคล้ายโช๊คแต่งแบบปรับความสูงไม่ได้ แต่ราคาถูกกว่า ประหยัดงบ แต่ถ้าเจอร้านแบบทำไม่จบทำไปทำมาปวดหัวเสียเวลาแถมเผลอๆแก้ไปมาราคาอาจจะสูงกว่าโช๊คแต่งแบบปรับความสูงไม่ได้ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นถ้าคิดอยากได้โช๊คประเภทนี้คิดดูให้ดีๆก่อนนะครับ

 

TEIN โช็คอัพช่วงล่างคุณภาพแบรนชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น คุณภาพสูง โช็คเป็นแบบ Twintube เป็นโช็คอัพที่ออกแบบมาให้สามารถใช้กับสปริงเดิมติดรถได้เลย ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งความนุ่มและหนึบได้อย่างแท้จริง ซึ่งทาง TEIN จะมีรุ่นยอดฮิตหลักๆอยู่ 5 รุ่น คือ Endurapro,Endurapro Plus+,Street Advance Z,Flex A และ Flex Z นั้นเองซึ่งจริงๆแล้ว TEIN ไม่ได้ทำแค่โช๊คอัพเท่านั้น แต่ยังมีทั้ง สปริงโหลดรถยนต์และ กล่องควบคุมการปรับโช็คอัพไฟฟ้าภายในห้องโดยสาร ทางร้าน RePower เป็นตัวแทนจำหน่ายโช๊ค TEIN อย่างเป็นทางการ มาดูความแตกต่างของ แต่ละรุ่นกันครับ

 

✴️TEIN ENDURAPRO โช็คอัพความสูงเท่าเดิมประสิทธิภาพสูงที่ตั้งค่า Pre-Loadที่เหมาะสมกับรถยนต์จากโรงงานและออกแบบมาให้ใส่กับสปริงเดิมติดรถได้เลย

✴️TEIN ENDURAPRO PLUS+ โช็คอัพความสูงเท่าเดิมประสิทธิภาพสูงที่สามารถปรับค่าความหนืดได้ 16 ระดับและออกแบบมาให้ใส่กับสปริงเดิมติดรถได้เลย

✴️TEIN STREET ADVANCE Z  โช็คสตรัท ปรับสูง-ต่ำได้ ปรับความนุ่ม-แข็งได้ 16 ระดับ และถูกออกแบบมาให้เหมาะกับถนนเมืองไทย และรองรับการทำงานร่วมกับ EDFC 

✴️TEIN FLEX Z โช็คอัพสตรัท สไลด์กระบอกที่สามารถปรับความหนืดได้ 16 ระดับ ที่ช่วยให้ครอบคลุมทุกสภาวะการขับขี่ และเหมาะสมสำหรับท่านที่ชอบใช้ความเร็วสูง

✴️TEIN FLEX A โช็คอัพสตรัท สไลด์กระบอกที่เหมาะกับผู็ที่ชื่นชอบการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ด้วยระบบ H.B.S ที่ช่วยให้การขับขี่ได้สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม

 

หมายเหตุ : TEIN มีรุ่นย่อยในการผลิตอยู่หลากหลายรุ่น ก่อนสั่งโปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพื่อได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดของท่าน

 

 

กลับสู่หน้าหลัก