จัดฟัน

จัดฟันด้วยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง Halo dental clinic

 

ฟันสวยทำให้บุคลิกของคนเราดูดีขึ้น กล้าที่จะยิ้มเห็นฟันมากขึ้น โดยปกติฟันของคนเรามักจะแตกต่างกันไปแต่ละบุคคล รวมถึงมีปัญหาด้านสุขภาพฟันก็เช่นกัน หลายคนประสบกับปัญหา ฟันไม่สวย ฟันหน้ายื่น ฟันซ้อน ฟันเก ฟันล่างคร่อมฟันบน การสบฟันที่ไม่ดี โดยปัญหาเหล่านี้มักเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ยิ้มไม่มั่นใจ ส่งผลให้มีบุคลิกภาพที่ไม่ดี การจัดฟัน จึงเป็นการรักษาและแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันที่สบกันผิดปกติ เรียงตัวไม่เป็นระเบียบ และไม่สวยงาม ให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและสวยงาม 

 

การจัดฟัน หรือ Orthodontics ประกอบไปด้วยรากศัพท์ภาษากรีก 2 คำ คือ Orthos ซึ่งแปลว่า แก้ไข/ให้ตรง ส่วน Dontics แปลว่า ฟัน การจัดฟันเป็นทันตกรรมเฉพาะทางแขนงหนึ่ง ที่มุ่งเน้น การวินิจฉัย การป้องกัน และการแก้ไขฟันที่เรียงตัวผิดปกติ รวมถึงปัญหาอื่นๆ เช่น การสบฟัน ตำแหน่งและขนาดของกระดูกขากรรไกร

 

การดัดฟันมีจุดประสงค์เพื่อการบดเคี้ยวที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดฟันสึก รวมทั้งยังทำให้คุณสามารถทำความสะอาดช่องปากได้ดีขึ้น ทำให้ลดโอกาสในการเกิดโรคทางทันตกรรมอื่นๆ และแน่นอนว่ายังช่วยให้คุณมีรอยยิ้มที่สวยงาม ส่งเสริมบุคลิกภาพและความมั่นใจให้กับคุณได้

 

การจัดฟันมีกี่แบบ

การจัดฟันสามารถแบ่งได้ 2 ประเภทหลัก ดังนี้

 

  1. การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ ได้แก่ ติดเครื่องมือแบบใช้ยาง O-ring เช่น การจัดฟันแบบโลหะ การจัดฟันแบบเซรามิก และการติดเครื่องมือแบบไม่ใช้ยาง (Self-ligating) เช่น การจัดฟันแบบดามอน (Damon)
  2. การจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ เช่น จัดฟันใส Invisalign หรือ ดี-aligner

 

การเรียนรู้ข้อดีข้อเสียของการจัดฟันในแต่ะละชนิด จะทำให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกวิธีการจัดฟันที่เหมาะสมกับ lifestyle และงบประมาณของคุณ วันนี้เรามาเรียนรู้การจัดฟัน ในแต่ละประเภทกันดีกว่า

 

1. จัดฟันแบบโลหะ

คลินิกจัดฟันที่ราคาถูกที่สุด โปรจัดฟันเพียบ คุณหมอมีตัวช่วยเยอะเหมาะกับเคสซับซ้อน สนุกกับการเลือกเปลี่ยนสียางโอริงได้ทุกเดือน การจัดฟันแบบโลหะ หรือ การจัดฟันแบบเหล็ก (Metal Bracket) เป็นวิธีดั้งเดิมที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี คนไข้สามารถเข้าถึงการรักษาได้ง่าย แบบสบายกระเป๋า

 

ข้อดีอีกอย่างของจัดฟันแบบโลหะธรรมดา คือ เหมาะสำหรับเคสที่ยากหรือซับซ้อน เนื่องจากคุณหมอสามารถควบคุม และปรับเปลี่ยนวิธีการเคลื่อนฟันของคุณในยังตำแหน่งที่ต้องการได้ง่าย และยืดหยุ่นกว่า นอกจากนี้คุณหมอยังสามารถเลือกใช้อุปกรณ์เสริม หรือการรักษาอื่นๆ เช่น การปักหมุดจัดฟัน, การดึงยาง มาเป็นตัวช่วยได้อีกด้วย

 

2. จัดฟันแบบเซรามิก

เหมือนแบบโลหะ แต่ Bracket สีใส เหมาะกับเคสซับซ้อน ที่ต้องการบุคลิกภาพที่ดีตลอดเวลา

การจัดฟันแบบเซรามิก คือ การจัดฟันที่มีวิธีการเคลื่อนตำแหน่งฟันเหมือนกับการจัดฟันแบบโลหะ แต่เปลี่ยนเครื่องมือจัดฟัน (Bracket) โลหะ ให้เป็นเซรามิกใส ซึ่งสังเกตได้ยากเพราะมีสีคล้ายกับฟันธรรมชาติ ดูสวยงามกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาชีพ หรือความต้องการที่จะคงบุคลิกภาพที่ดี ดูเป็นมืออาชีพอยู่ตลอดเวลา 

 

อย่างไรก็ตาม ฟันที่เรียงตัวผิดปกติเยอะ เป็นเคสยาก และต้องอาศัยการออกแรงดึงฟันที่ซับซ้อน รวมทั้งอาจต้องใช้อุปกรณ์จัดฟันอื่นๆ มาช่วยเคลื่อนฟันเพิ่มเติม

 

 ข้อดีอีกอย่างนอกจากความสวยงามคืออุปกรณ์จัดฟันที่เป็นเซรามิกจะมีความเรียบ และโค้งมนกว่าแบบโลหะ ลดโอกาสไปเกี่ยวกระพุ้งแก้มเป็นแผลร้อนในได้

 

3. จัดฟันแบบดามอน

ใช้ตัวล๊อคแบบพิเศษ ไม่ต้องมีโอริง เจ็บน้อยกว่า จัดฟันเสร็จเร็วกว่า จัดฟัน damon หรือ จัดฟันแบบดามอนคือ รูปแบบหนึ่งของการจัดฟันชนิดที่เรียกว่า ‘Self-Ligating Braces’ โดยคุณหมอจะไม่ใช้โอริง (o-ring) ในการยึดลวดเข้ากับอุปกรณ์จัดฟันโลหะ (Metal Bracket) ที่ติดอยู่กับฟัน แต่จะใช้ Bracket แบบพิเศษซึ่งมีตัวล๊อคเปิดปิดได้เป็นตัวยึดลวดจัดฟัน

 

ข้อได้เปรียบของการจัดฟันแบบดามอนคือ ลวดจัดฟันจะสามารถเคลื่อนที่ซ้ายขวาได้อย่างอิสระ ไม่ถูกยึดอยู่กับที่ด้วยโอริง แรงที่กระทำต่อฟันจะคงที่ตลอดเวลา ทำให้เจ็บน้อยกว่า เคลื่อนฟันได้นุ่มนวล รักษาความสะอาดได้ง่ายกว่า โอกาสที่เศษอาหารติดก็จะลดลง ทำให้จัดฟันเสร็จไวกว่า และไม่ต้องเสียเวลามาพบคุณหมอบ่อยๆ

 

4.จัดฟันแบบใส

มองไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน ดูเป็นผู้ใหญ่ คงลุคมืออาชีพอยู่ตลอด สามารถถอดได้ แปรงฟันง่าย รับประทานอาหารสะดวก ไม่ต้องมาพบคุณหมอบ่อยๆ มีโปรจัดฟันใส ราคาไม่ได้แพงเหมือนแต่ก่อน

 

หากคุณไม่อยากให้ใครสังเกตเห็นว่าคุณกำลังจัดฟันอยู่ และการมี Bracket ติดอยู่ที่ฟันนั้นเป็นอุปสรรคต่อหน้าที่การงาน หรือคุณต้องการลุคที่ดูเป๊ะ เป็นมืออาชีพอยู่ตลอดเวลา การจัดฟันแบบใส หรือดัดฟันใส เป็นคำตอบของคุณ การที่สามารถถอดออกได้ ทำให้คุณสามารถรับประทานอาหารได้สะดวก และง่ายต่อการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันด้วย

 

การจัดฟันแบบใสในปัจจุบันมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือก ได้แก่

 

  • Invisalign – เป็นยี่ห้อจัดฟันใสจากอเมริกา มีจำนวนคนไข้ถึง 12 ล้านคน รวมทั้งเปิดให้บริการมายาวนานถึง 25 ปี  Invisalign ถือเป็น Gold Standard ในการจัดฟันใส ทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูง invisalign ราคาเริ่มต้นที่ที่ 69,000 บ. ซึ่งจำกัดระยะเวลารักษาที่ 6 เดือน เคลื่อนฟันได้ถึงฟันกรามน้อยเท่านั้น และราคาจะแพงขึ้นตามความยากของเคสและเวลาที่ต้องใช้ในการจัดฟันใส

 

  • จัดฟันใส d-aligner เป็นแบรนด์จัดฟันใสแบบใหม่ ซึ่งมีราคาถูกกว่า ใช้เทคโนโลยีจัดฟัน และวางแผนจากอเมริกาเช่นกัน แต่คลินิกสามารถใช้เทคโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัย ผลิตชิ้นงานขึ้นมาได้เอง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และทำให้คุณเข้าถึงการจัดฟันใสได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณหมอประจำตัวคอยดูแล และให้คำปรึกษากับคุณจนจัดฟันเสร็จ

 

  • จัดฟันใสยี่ห้ออื่นๆ ปัจจุบันมีแบรนด์จัดฟันใสอื่นๆ เข้ามาเป็นตัวเลือกเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น Zenyum, BeforeDent, Clear Correct ฯลฯ

 

ใครบ้างที่ต้องใช้รีเทนเนอร์

อย่างที่กล่าวมา รีเทนเนอร์เป็นเครื่องมือสำหรับคนไข้ที่ผ่านการจัดฟันมาเรียบร้อยเเล้ว ถอดเครื่องมือจัดฟันเรียบร้อยเเล้ว ใส่ รีเทนเนอร์ เพื่อคงสภาพฟันที่เรียงตัวสวยงามเป็นระเบียบไว้ 

หลายคนมีคำถามว่าคนปกติทั่วไปที่ไม่ได้จัดฟันจะใส่รีเทนเนอร์ได้หรือไม่ คุณหมอต้องชี้แจงว่า ในคนทั่วไปนั้นไม่มีข้อบ่งชี้ในการใช้รีเทนเนอร์ การใส่รีเทนเนอร์โดยที่ยังไม่ได้จัดฟัน หรือใส่รีเทนเนอร์ในผู้ที่มีฟันซ้อนเก อาจทำตัวรีเทนเนอร์แตกหรือหักได้ เพราะฟันยังไม่ได้ถูกจัดเรียงในตำแหน่งที่เหมาะสม

 

รีเทนเนอร์แบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ

  1. รีเทนเนอร์แบบลวด
  2. รีเทนเนอร์แบบใส
  3. รีเทนเนอร์เเบบติดแน่น

 

รีเทนเนอร์แบบลวด

เป็นรีเทนเนอร์แบบถอดได้ (Removable Hawley Wire Retainers) มีตัวฐานทำจากพลาสติกหรืออะคริลิกที่มีรูปร่างพอดีกับเพดานปากเเละตามเเนวฟันล่างด้านในของคนไข้ มีส่วนที่เป็นลวดโลหะบางๆ พาดผ่านด้านนอกของฟันคนไข้ เพื่อรักษาการเรียงตัวของฟัน

 

ข้อดี รีเทนเนอร์แบบลวด

  • ทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนานหากดูแลอย่างเหมาะสม
  • ซ่อมแซมได้ เมื่อเสียหาย
  • สามารถปรับแก้ไขได้ หากใส่เเล้วหลวม ไม่กระชับ หรือเเน่นเกินไป
  • คุณหมอช่วยแก้ไขให้พอดีกับคนไข้ได้ โดยไม่ต้องทำใหม่
  • ฟันบนและฟันล่างสัมผัสกับรีเทนเนอร์ประเภทนี้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • สามารถออกแบบลาย ให้มีโลโก้หรือสีต่างๆได้ ฯลฯ

 

ข้อเสีย รีเทนเนอร์แบบลวด

  • มองเห็นได้ลวดโลหะได้ชัดเจนกว่ารีเทนเนอร์ประเภทอื่นๆ
  • ฐานพลาสติกครอบคลุมพื้นที่เพดานปากโดยรอบ อาจให้ความรู้สึกรำคาญสำหรับคนไข้บางราย
  • มีผลต่อการพูดของคุณมากกว่ารีเทนเนอร์แบบอื่น ๆ
  • ส่วนที่เป็นลวด อาจทำให้รู้สึกระคายเคืองบริเวณริมฝีปากหรือแก้มในช่วงเเรกๆ

 

รีเทนเนอร์แบบใส

(Removable Clear Plastic Retainers) รีเทนเนอร์ประเภทนี้ทำจากพลาสติกหรือโพลียูรีเทน ขึ้นรูปโดยการถูกทำให้ร้อนและดูดลงไปที่แม่พิมพ์ของฟันคนไข้ รีเทนเนอร์จะให้ความพอดีกับตำแหน่งฟันใหม่

 

ข้อดี รีเทนเนอร์แบบใส

  • มีสีใสแทบจะไม่สังเกตเห็นว่าใสรีเทนเนอร์ ให้ความเป็นธรรมชาติ 
  • ใส่สบายกว่ารีเทนเนอร์เเบบลวด
  • ส่งผลกระทบต่อการพูดน้อยกว่า ของคุณมากกว่ารีเทนเนอร์เเบบลวด

 

ข้อเสีย รีเทนเนอร์แบบใส

  • ไม่สามารถปรับแก้ไขได้ ถ้าคนไข้ละเลยการใส่รีเทนเนอร์ทุกวันจนฟันเคลื่อนจนไม่สามารถใส่ได้ ต้องทำรีเทนเนอร์ใหม่
  • ไม่สามารถซ่อมแซมได้ กรณีที่เสียหาย เช่น มีรอยร้าว แตก 
  • สามารถบิดงอได้หากสัมผัสกับความร้อน เเละมีโอกาสแตกหักได้ง่ายกว่าเเบบลวด
  • มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนสีเมื่อเวลาผ่านไป
  • ฟันบนและล่างไม่สัมผัสกับรีเทนเนอร์ รีเทนเนอร์ประเภทนี้ดักของเหลวที่สะสมตามฟัน ซึ่งอาจทำให้ฟันผุได้

 

รีเทนเนอร์เเบบติดเเน่น

(Permanent Retainers, Bonded Retainers) ตัวรีเทนเนอร์ประกอบด้วยลวดแข็งดัดโค้งเพื่อให้พอดีกับรูปร่างของฟัน ลวดจะถูกยืดไว้บริเวณด้านในของฟันหน้าของคนไข้ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเคลื่อนที่ คนไข้จะไม่สามารถถอดออกเองได้ ยกเว้นทันตแพทย์จัดฟันจะเป็นผู้ถอดให้

ทันตแพทย์จัดฟันมักใช้กับฟันล่าง ฟันมีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นซ้ำ หรือคนไข้ที่มีเเนวโน้มไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอในการใช้รีเทนเนอร์แบบถอดได้ เช่น เด็กเล็ก 

 

ระยะเวลาในการใส่รีเทนเนอร์

รีเทนเนอร์ช่วยคงตำแหน่งฟันของคุณคงที่ เพื่อให้แน่ใจว่าการจัดฟันและตำแหน่งการกัดของคุณไม่เปลี่ยนแปลง ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำให้คุณใส่รีเทนเนอร์ไว้ตลอดเวลา (ยกเว้นเพียงแค่ตอนรับประทานอาหาร และตอนแปรงฟันเท่านั้น) อย่างน้อย 6 เดือน – 1 ปีแรกหลังจากถอดเครื่องมือจัดฟัน โดยระยะเวลาที่มากหรือน้อย จะขึ้นอยู่กับลักษณะฟันของแต่ละบุคคล ในช่วงปีที่สองเป็นต้นไป คนไข้จะสวมรีเทนเนอร์เฉพาะตอนกลางคืนไปเรื่อยๆ เพื่อรักษารอยยิ้มที่สวยงามไว้

 

วิธีดูเเลรักษารีเทนเนอร์

 

  • วิธีดูแลรักษารีเทนเนอร์แบบลวดเเละเเบบใส มีเทคนิคการดูเเลความสะอาดดังนี้
  1. ทำความสะอาดรีเทนเนอร์ทันที หลักจากถอดออกจากปากในขณะที่ยังเปียกอยู่ วิธีนี้จะช่วยให้ทำความสะอาดเศษอาหารต่างๆ ที่ติดอยู่ออกง่ายขึ้น
  2. แปรงรีเทนเนอร์ของคุณด้วยน้ำอุ่นหลังอาหารแต่ละมื้อ 
  3. ทำความสะอาดด้วยการผสมน้ำอุ่นกับสบู่ หรือนำ้ยาล้างจานอ่อน ๆ โดยใช้แปรงสีฟันขนนุ่มหรือแปรงฟันปลอมค่อยๆขัดคราบจุลินทรีย์และเศษอื่น ๆ ไม่เเนะนำให้ใช้ยาสีฟัน เพราะ สารขัดเคลือบฟันในยาสีฟัน อาจทำให้ผิวของตัวยึดรีเทนเนอร์เป็นรอยได้ 
  4. ในจุดที่ทำความสะอาดได้ยาก เช่น ตามร่องรีเทนเนอร์ ให้ใช้ก้านสำลีเช็ดเบาๆ
  5. ถ้ารีเทนเนอร์มีคราบฝังลึก ปรึกษาทันตแพทย์ของคุณเกี่ยวกับการแช่รีเทนเนอร์ในฟันปลอมหรือน้ำยาทำความสะอาดรีเทนเนอร์ก่อน
  6. ควรเก็บรีเทนเนอร์ใส่กล่องรีเทนเนอร์ให้เรียบร้อย การห่อด้วยผ้าหรือกระดาษทิชชู่ระหว่างรับประทานอาหาร อาจทำให้คนไข้ลืมเผลอทิ้ง หรือทับจนหักงอได้ 

 

  • วิธีดูแลรักษารีเทนเนอร์แบบติดแน่น เนื่องจากรีเทนเนอร์ประเภทนี้ คนไข้ไม่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ จึงต้องทำความสะอาดด้วยไหมขัดฟัน ซึ่งมีวิธีการดังนี้
  1. ใช้ไหมขัดฟันร่วมกับเข็มร้อยไหมขัดฟัน (Floss threader) สอดไหมขัดฟันเข้าไประหว่างฟันล่างหน้าสองซี่ของคุณ
  2. ใช้นิ้วมือจับปลายด้านหนึ่งของไหมขัดฟันและอีกข้างที่สนไหม
  3. เมื่อวางไหมขัดฟันใต้ลวดยึดได้แล้ว เลื่อนขึ้นลงระหว่างฟันจนถึงแนวเหงือกอย่างเบามือ
  4. เลื่อนไหมขัดฟันไปด้านข้างไปยังพื้นที่ถัดไปที่จะทำความสะอาด ดึงลงจนอยู่ระหว่างฟันของคุณ
  5. ทำขั้นตอนนี้ซ้ำกับฟันแต่ละซี่ที่ติดกับรีเทนเนอร์เเบบติดเเน่นก็จะช่วยทำความสะอาดซอกฟันได้ดีขึ้น 
  6. เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี ทันตแพทย์จึงแนะนำให้คนไข้ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน

 

วิธีดูเเลฟันหลังจัดฟัน ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ เทียบได้พอๆกับ ขั้นตอนดูเเลช่องปากระหว่างจัดฟัน นั่นเพราะการจัดฟันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการทำให้รูปฟันเข้าที่ เป็นระเบียบ ตามแผนที่คุณหมอได้วางไว้ เนื่องจากการจัดฟันใช้เวลานาน เมื่อจัดฟันเสร็จแล้ว กระบวนการดูแลอย่าางถูกวิธีจึงเป็นเรื่องสำคัญ

 

จัดฟันเสร็จฟันเหลือง วิธีดูเเลฟันหลังจัดฟันให้ฟันไม่เหลือง ไม่มีกลิ่นปาก

หลังจากถอดเหล็กจัดฟัน เป็นธรรมดาที่จะมีรอยคราบเหลือง (ฟันมีสีที่เปลี่ยนไป) หรือ คราบหินปูนที่เห็นได้ชัดเจนบนบริเวณฟัน เนื่องจากการมีเครื่องมือติดอยู่บบนผิวฟันเป็นเวลานาน วิธีแก้ไขก็มีทั้ง

 

  • ขูดหินปูน ทำความสะอาดฟันหลังจัดฟันเสร็จ
  • ใช้ยาสีฟันสูตรขจัดคราบ ( Food Stain ) ที่ผิวฟัน หรือยาสีฟันสูตรสมุนไพรที่มีสาวนผสมของสารขัดฟันตามธรรมชาติ
  • ใช้การฟอกสีฟัน (teeth whitening) ควบคู่กับแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของโพแทสเซียมไนเตรด ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเคลือบฟันของคุณ
  • ขจัดคราบบนผิวฟัน ด้วยเทคโนโลยีแรงดันน้ำ Airflow แบบถนอมผิวฟัน กำจัดทั้งหินปูนและคราบบนผิวฟัน ให้ฟันขาวได้ ภายใน 15 นาที

 

Halo dental clinic คลินิกทันตกรรมเฮโล ปากเกร็ด จัดฟัน รีเทนเนอร์ ฟอกสีฟัน คุณหมอพร้อมให้คำปรึกษา คุณหมอใจดี มือเบา