ล้อแม็ก auto option wheel
15เม.ย.

ล้อแม็ก auto option wheel

ล้อแม็ก auto option wheel – คำว่า “แม็ก” มาจากคำว่า “แม็กนีเซียม” (Magnesium) ผสมกับ “อัลลอย” (Alloy) เรียกกันว่า Magnesium Alloy Wheel และย่อด้วยคำว่า Mag Wheel ไม่ใช่ Max Wheel ที่บ้านเราชอบ ใช้กันมาผิด ๆ ช่วงปี 1960 มีการผลิตล้อแม็กนีเซียมสำหรับ “การแข่งขัน” ขึ้นมา และสำหรับ Super Car รวมถึงเป็นล้อ After Market มักจะผลิต จากยุโรป (ญี่ปุ่นก็มี แต่น้อย) สำหรับข้อดี และข้อเสียของล้อแม็กนีเซียม ข้อดี น้ำหนักเบา : ล้อแม็กนีเซียมอัลลอย มีน้ำหนักเบา สามารถผลิตล้อหน้ากว้าง ๆ สำหรับใส่ยางใหญ่ ๆ ได้ โดยที่น้ำหนักยังเบากว่าล้อเหล็กผ่าขยายหน้ากว้าง ซึ่งล้อที่มีน้ำหนักเบา ก็จะทำให้ “แรงต้านการหมุนน้อย” และ “น้ำหนักใต้สปริงต่ำ” ทำให้รถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น เบรกดีขึ้น และในปัจจุบัน ล้อแม็กนีเซียมก็ยังถูกใช้ในการแข่งขันระดับโลก เช่น F1 ก็ด้วยน้ำหนักที่เบามากๆ ของมันนี่เอง

ขั้นตอนด้านล่างจะช่วยแนะนำคุณตลอดกระบวนการซื้อวงล้อ auto option wheel เพื่อให้มั่นใจในยอดขาย รูปลักษณ์ และประสิทธิภาพที่พึงพอใจ

ล้อแม็กซ์

  • คิดเกี่ยวกับการซื้อล้ออัลลอยด์หากคุณต้องขับรถบนภูเขาบ่อย ๆ หรือในสภาพการจราจรที่คับคั่ง ล้ออัลลอยบางรุ่นได้รับการออกแบบมาเพื่อให้อากาศเย็นไหลผ่านเบรกเพื่อป้องกันความร้อนสูงเกินไป โลหะผสมเองก็สามารถช่วยกระจายความร้อนได้เช่นกัน

เพิ่มขนาดขอบล้อของคุณ

  • หากคุณต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มรูปลักษณ์แบบสปอร์ต ให้คิดถึงการเพิ่มขนาดขอบล้อของคุณ ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางภายในที่ใหญ่ขึ้น คุณจะพบว่าพวงมาลัยตอบสนองได้ดีขึ้นและรถของคุณยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น การซื้อขอบล้อที่ใหญ่กว่าที่คุณมีหนึ่งหรือสองขนาดหมายความว่าคุณจะต้องซื้อยางใหม่เช่นกัน

ลดน้ำหนักลง

  • มองหาขอบล้อที่ไม่หนักเกินไปสำหรับรถของคุณ ขอบล้อเหล็กขนาดใหญ่ในรถยนต์ขนาดเล็กอาจทำให้ความสามารถในการควบคุมลดลง ล้อที่มีน้ำหนักมากคือน้ำหนักที่ไม่ได้สปริง ซึ่งระบบกันสะเทือนรถของคุณไม่รองรับ ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะทำให้การขับขี่ราบรื่นขึ้นหรือปรับปรุงการทรงตัวในการหลบเลี่ยงในการขับขี่

 

วิธีการดูแล ล้อแม็ก auto option wheel ที่ถูกต้อง

จริง ๆ แล้วล้อแม็กดูแลได้ไม่ยากเลยละค่ะ หากคุณ ๆ ทั้งหลายเข้าใจและดูแลด้วยวิธีเหล่านี้

  1. พยายามจำให้ขึ้นใจเลยค่ะว่า “อย่าล้างล้อแม็กในขณะที่ยังร้อนอยู่โดยเด็ดขาด” เพราะน้ำยาล้างรถ หรือฟองสบู่ที่เราจะเข้า ไปถู ๆ ขัด ๆ นั้นจะแห้งเร็วและพอ แห้งเร็วก็จะทำให้ เป็นคราบหรือรอยติด อยูที่หน้าล้อต่อให้ล้าง ไปก็ยังมีคราบ หลงเหลืออยู่ดี ดังนั้นวิธีการที่ดีที่ สุดก็คือให้ล้างส่วนอื่นก่อนแล้ว ค่อยเก็บล้อแม็ก ไว้ล้างเป็น ลำดับสุดท้าย
  2. พยายามแยกฟองน้ำ ที่ใช้ล้างล้อแม็ก กับส่วนอื่น ๆ ออกจากกันอย่าใช้ ร่วมกันกับฟองน้ำที่เอา ไว้ล้างรถโดย เด็ดขาด มิเช่นนั้นละ ก็เศษกรวดหินดินทรายที่ติด มากับล้ออาจจะ ไปทำลายสีผิวรถ ของคุณจน เป็นรอยได้
  3. หากรถลุย โคลนดินที่ เฉอะแฉะหรือ แม้แต่ยางมะตอย หรือคราบน้ำมัน ละก็แบบนี้ละ ปัญหาใหญ่ เลยละค่ะ เพราะไม่สามารถ ล้างออกด้วยน้ำธรรมดสได้ ซึ่งวิธีการดูแล ก็คือคุณจำเป็น ต้องใช้ตัวช่วยอย่าง น้ำมันสนน้ำมันก๊าด หรือน้ำยาเช็ดคราบสกปรกเช็ดออก โดยให้คุณเทน้ำยา ลงไปบนเศษผ้าหลัง จากนั้นให้เช็ดตาม จุดที่มีรอยเหล่านั้น ติดอยู่ค่ะ จากนั้นใช้แชมพู ล้างรถล้างล้อแม็ก ให้ทั่วแล้วใช้น้ำเปล่า ล้างออกให้หมด สุดท้ายให้ใช้ผ้าเช็ดให้แห้งเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
  4. สำหรับคนที่มีล้อแม็กเป็นล้ออัลลอยด์ และล้อแม็คที่มีขอบเงาแล้วได้เลี้ยงสุนัขไว้ในบ้านด้วยละก็แบบนี้ปัญหาที่หนีไม่พ้นเลยก็คือ สุนัขมาฉี่รถไว้ตามล้อหากเป็นเช่นนั้น ปล่อยทิ้งไว้นะคะให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดเสร็จแล้วรีบเช็ดให้แห้งโดยทันที เพราะถ้าขืนปล่อยไว้ละก็นานเข้าฤทธิ์ของฉี่สุนัขก็จะกัดล้อแม็คของเราเป็นคราบเหลืองทำให้เกิดเป็นคราบขี้เกลือ หรือสนิมขาวได้
  5. หลีกเลี่ยงการใช้แปรงที่มีขนหยาบ หรือแข็งกระด้างอย่างเช่น แปรงลด ฝอยขัดหม้อ หรือแม้แต่สก็อตไบร์ททำความสะอาดโดยเด็ดขาด !! เพราะจะทำให้ล้อแม็กซ์เสียหายได้ ทำให้ล้อแม็กของคุณเป็นลอยขีดข่วนเอาได้ง่าย ๆ

ข้อเสียของการเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ 

นอกจากปัญหาเรื่องการบังคับรถยาก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างขับขี่ได้แล้วนั้น ข้อเสียของการเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ที่คุณควรรู้เอาไว้ก่อนตัดสินใจ ยังมีด้วยกันอีกหลายข้อ ดังนี้

 

  • ทำให้ช่วงล่างแข็งขึ้น

 

โดยทั่วไปเมื่อยางมีขนาดใหญ่ขึ้น แก้มยางก็จะเตี้ยลง ผลที่ตามมาก็คือ ช่วงล่างจะแข็งขึ้น ไม่นุ่มสบายเหมือนกับที่โรงงานตั้งค่ามาให้ตั้งแต่ต้น แก้มยางที่บางลงจะส่งผลโดยตรง กับการซับแรงกระแทกหรือแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนน ถ้าหากโชคร้ายขับรถตกหลุมด้วยความเร็วสูงล่ะก็ โอกาสเสี่ยงที่ยางระเบิดจะมีสูงด้วยเช่นกัน ในกรณีที่เลวร้ายมาก ๆ อาจทำให้ “ล้อดุ้ง” เลยก็มี

 

  • ออกตัวอืดและมีอัตราเร่งแย่ลง

 

ล้อและยางที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนั้น จำเป็นต้องใช้แรงบิดจากเครื่องยนต์มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อไปกระทำต่อล้อและส่งกำลังให้ล้อหมุนไปข้างหน้าได้ จึงส่งผลให้รถออกตัวได้อืดกว่าเดิม รวมถึงในกรณีที่ต้องการเร่งแซง คุณจำเป็นที่จะต้องเหยียบคันเร่งมากขึ้น เพื่อเร่งให้รถวิ่งได้เร็วขึ้นตามที่ต้องการ เพราะพื้นผิวสัมผัสของยางรถยนต์ กับพื้นถนนมีมาก จึงเร่งเครื่องรถยนต์ ได้ไม่ดีเท่ากับล้อมาตรฐานที่มาจากโรงงาน

 

  • กินน้ำมันมากกว่าเดิม

 

ผลที่ตามมาจากการที่ต้องเร่งเครื่องยนต์ให้แรงขึ้นเพื่อให้รถวิ่งได้ในความเร็วที่ต้องการ แน่นอนว่ารถจะกินน้ำมันมากขึ้น เพราะเกิดพื้นที่เสียดทานระหว่างหน้ายางและผิวถนน มากกว่าเดิม จึงต้องใช้กำลังเครื่องยนต์มากกว่าเดิมในการขับเคลื่อน โดยทั่วไปจะสิ้นเปลืองเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีการขับรถของแต่ละคนด้วย

 

  • ไมล์ความเร็วอ่านค่าผิดเพี้ยน

 

การตั้งค่าไมล์ความเร็วของวิศวกรจากโรงงาน จะตั้งค่าเรือนไมล์ให้มีความเร็วถูกต้องตรงตามขนาดล้อและยางของรถแต่ละรุ่น สเปคตามโรงงาน แต่ถ้าคุณนำรถไปเปลี่ยนแม็กและยางเอง จะทำให้เกิดปัญหาที่เรียกว่า “ไมล์แข็งขึ้น” หรือความเร็วบนหน้าปัดที่แสดงนั้น น้อยกว่าความเร็วจริงที่คุณขับขี่อยู่ ซึ่งจะส่งผลให้คุณได้รับใบสั่งที่บอกว่า ขับด้วยความเร็วเกินกำหนดแบบไม่รู้ตัว

 

  • ค่าบำรุงรักษาแสนแพง

 

เมื่ออยากได้รถสวยก็ต้องทำใจ เรื่องนี้เป็นความจริงเกี่ยวกับยางรถยนต์ด้วย เพราะยางที่ใหญ่ขึ้น จะมีราคาสูงกว่ายางขนาดปกติพอสมควรเลย เมื่อถึงอายุการใช้งานที่จะต้องเปลี่ยนยางแต่ละครั้ง มีค่าใช้จ่ายหลักหมื่นรออยู่แน่นอน และถ้าหากคุณไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ตัวเมือง ยางบางรุ่นก็จะกลายเป็นของหายากโดยปริยาย เพราะที่ร้านก็จะไม่ค่อยสต๊อกยางแต่งในลักษณะนี้เอาไว้เท่าไหร่

 

 

ถึงแม้ข้อเสียของการแต่งล้อแม็กรถยนต์นั้นจะมีด้วยกันอยู่หลายข้อ แต่ใช่ว่าจะไม่มีข้อดีเสียทีเดียว เพราะการเลือกขนาดของล้อแม็กที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย จะช่วยให้รถของคุณมีสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีขึ้น

 

แล้วข้อดีของการเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์ล่ะ มีอะไรบ้าง?

 

ในวงการยานยนต์ เริ่มมีการใช้ล้อขนาด ใหญ่ขึ้น เนื่องจากทางวิศวกร มีความต้องการที่จะเช็กรถ ให้มีความสามารถใน การขับขี่มากขึ้น อีกทั้งต้องการเพิ่มความสวย งามโดดเด่นให้กับ รถรุ่นใหม่ ๆ ให้มีความสะดุด ตามากกว่า ดังนั้นจึงเป็นที่ ยอมรับกันดีว่า การเปลี่ยนล้อแม็ก รถยนต์นั้นมีข้อดีด้วยกันหลายอย่าง ดังนี้

 

  • เพิ่มความสวยงามสะดุดตา

 

การเปลี่ยนล้อแม็กให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จะช่วยให้ล้อดูเต็มซุ้ม ไม่มีพื้นที่ช่องว่างระหว่างซุ้มล้อกับยาง ดูแล้วสวยงาม อีกทั้งยังสามารถบ่งบอกถึงคาแรกเตอร์ของเจ้าของรถ หรือให้ความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์เกี่ยวกับรถคันนั้นได้อีกด้วย ไม่ต่างจากการทำสีรถเลย

 

  • เพิ่มการเกาะถนนให้ดียิ่งขึ้น

 

อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าเมื่อแต่งล้อแม็กรถยนต์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนยางที่มีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ขนาดยางที่มีหน้าสัมผัสเพิ่มมากขึ้น จะทำให้รถสามารถเกาะถนนได้ดีขึ้นกว่าเดิม เข้าโค้งได้ดีกว่าเก่า เพราะพื้นสัมผัสที่เพิ่มขึ้นในทั้ง 4 ล้อ รวมไปถึงแก้มยางที่เตี้ยลง จะช่วยลดการโยนตัวในระหว่างที่เข้าโค้งด้วยความเร็วนั่นเอง

 

  • เบรกดีกว่าเดิม

 

คุณจะได้ประสิทธิภาพของระบบเบรกที่ดีขึ้นกว่าเดิมซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการใช้ยางที่มีหน้าสัมผัสใหญ่ขึ้น เมื่อคุณเหยียบเบรก จะสามารถสั่งห้ามล้อหรือลดความเร็วได้ดีกว่าเก่า ทำให้เกิดความรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการขับรถทางไกล ที่ใช้ความเร็วสูงสม่ำเสมอในการเดินทาง

เมื่อคุณรู้แล้วว่าข้อดีและข้อเสียของการเปลี่ยนล้อแม็กรถยนต์เป็นอย่างไร เมื่อต้องการเลือกที่จะเปลี่ยนล้อ ก็อย่าลืมคำนึงถึงขนาดของล้อแม็กที่ไม่ใหญ่จนเกินไป ซึ่งจะทำให้เกิดความปลอดภัยและได้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นกว่าการใช้ล้อและยางมาตรฐานที่มาจากโรงงาน โดยในส่วนของความสิ้นเปลืองอัตราการใช้น้ำมันที่มากขึ้นนั้น ก็จะเป็นรายจ่ายคงที่ที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องเรื่อย ๆ ส่วนค่าใช้จ่ายสำหรับการบำรุงรักษาตามระยะทาง ก็จะโดนเป็นแบบครั้งคราวไป

กลับสู่หน้าหลัก – savecyber